อาลัยหมอสอยเท้าเปล่า "พ่อหมอสอย เพชรฤทธิ์" วัย 83 ปี หรือ "สหายคำตัน" หมอพื้นบ้านหนองบัว ตำบลโคกสี อำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม ต้นตำรับหมอสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง เรียนวิชาแพทย์แผนจีนยุคคอมมิวนิสต์ เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อ 24 พ.ย.65 สุดทึ่งมีเมียถึง 12 คน
วันที่ 25 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนมรายงานว่า นับเป็นข่าวเศร้าในวงการแพทย์แผนไทย หลังสูญเสียปราชญ์ชาวบ้าน และเป็นต้นตำรับหมอยาสมุนไพรพื้นบ้าน แพทย์แผนไทยทางเลือกชื่อดัง เจ้าของ ฉายา หมอสอยเท้าเปล่า หรือ พ่อหมอสอย เพชรฤทธิ์ อายุ 83 ปี หมอพื้นบ้านตีนเปล่าของมวลชน แห่งบ้านหนองบัว ต.โคกสี อ.วังยาง จ.นครพนม ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 24 พ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยทางครอบครัวได้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักเลขที่ 13 บ้านหนองบัว ต.โคกสี อ.วังยาง จ.นครพนม กำหนดพิธีฌาปนกิจศพ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ที่สถานฌาปนกิจศพชั่วคราว ใกล้บ้านพัก
สำหรับ พ่อหมอสอย เพชรฤทธิ์ อายุ 83 ปี หรือสหายคำตัน หมอพื้นบ้านตีนเปล่าของมวลชน แห่งบ้านหนองบัว ต.โคกสี อ.วังยาง จ.นครพนม ถือเป็นอดีตสหายที่เติบโตในยุคคอมมิวนิสต์ในพื้นที่สีแดง อ.นาแก อ.วังยาง และ อ.ปลาปาก จ.นครพนม จึงได้ต่อสู้ในยุคสงครามความแตกแยกทางความคิดระหว่างรัฐกับประชาชน ทำให้พ่อหมอสอยต้องหนีเข้าป่าเพื่อต่อสู้ตามอุดมการณ์ของประชาชน โดยตัดสินใจเดินทางเข้าป่า เมื่อปี 2509 จนกระทั่งออกจากป่าเมื่อปี 2527 รวมระยะเวลาเข้าป่าเกือบ 20 ปี
โดยพ่อหมอสอยเริ่มศึกษาพื้นฐานเรื่องยาสมุนไพรพื้นบ้านจากคุณปู่ มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนกระทั่งอายุประมาณ 17 ปี ได้เข้าป่าร่วมกลุ่มกับพรรคคอมมิวนิสต์หรือสหาย จนได้ฉายาว่าสหายคำตัน และขอไปเรียนการทหารที่ประเทศเวียดนาม 2 ปีแต่ไม่ชอบ จึงขอไปเรียนศึกษาเกี่ยวกับการแพทย์รักษาโรค รวมถึงการใช้สมุนไพรรักษาโรคที่มณฑลยูนนาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน รวมระยะเวลากว่า 5 ปี ก่อนกลับมาประเทศไทย และออกจากป่าใช้ชีวิตเป็นเกษตรกร และเป็นหมอสมุนไพรรักษาชาวบ้าน
โดยเริ่มจากการรักษาคนในหมู่บ้าน รวมถึงในพื้นที่ จ.นครพนม จนมีชื่อเสียง และเดินเท้าเปล่าไปรักษาที่พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน จนมีชื่อเสียง ในชื่อ หมอพื้นบ้านตีนเปล่าของมวลชน แห่งบ้านหนองบัว เพราะไม่เคยสวมรองเท้า ส่วนการรักษาจะรักษาโรคทั่วไป อาทิ ไข้หวัด ความดัน เบาหวาน โรคผิวหนัง โรคกระเพาะ เป็นต้น ด้วยยาจากสูตรสมุนไพร ไปจนถึงโรคมะเร็ง และมีการศึกษาค้นหาการรักษาโรคมะเร็งให้กับภรรยาของตัวเอง ที่ป่วยจากโรคมะเร็งจนหาย ทำให้มีชื่อเสียงในการรักษาโรคมะเร็ง มีผู้ป่วยเดินทางมารักษา เป็นการรักษาแพทย์ทางเลือก หายป่วยหลายราย จนมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ
นางบุญเทียน ไชยต้นเชือก อายุ 76 ปี ภรรยาหมอสอย เปิดเผยว่า ตนกับหมอสอยได้แต่งงานอยู่กินกันนานกว่า 20 ปีหลังออกจากป่า มีลูกสาว 1 คน อายุ 28 ปี โดยคุณตาสอยเคยมีภรรยามาก่อน รวม 12 คน ลูกอีก 12 คน เพราะเป็นคนที่เดินทางไปหลายจังหวัดในพื้นที่อีสาน รวมถึงภาคอื่นๆ ของไทย ทำให้เป็นที่รู้จักมักคุ้น และไปรักษาผู้ป่วยจนหายจากโรคต่างๆ บางคนมีแม้กระทั่งยกลูกสาวให้เป็นภรรยา ทำให้มีภรรยาหลายคน ส่วนตนเป็นคนล่าสุด
ต้องยอมรับว่าคุณตาสอย เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถด้านวิชาแพทย์สมุนไพรพื้นบ้าน เป็นที่ยอมรับของผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยเริ่มจากรักษาคนในครอบครัว ทั้งตนและลูกสาวที่ป่วยเป็นมะเร็ง จนหายจากการใช้สมุนไพร และรักษาต่อเนื่องมาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพียงมีค่าใช้จ่ายยาสมุนไพรห่อละ 100 บาท ถือเป็นแพทย์ทางเลือกที่รักษาด้วยสมุนไพร ทำให้มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาสนับสนุนส่งเสริม จนได้รับรางวัลมากมาย
อาทิ เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาแพทย์แผนไทย ประเภทเวชกรรม ได้รับใบอนุญาต เมื่อปี 2554 ได้รับรางวัลผลงาน กรรมการประเมินรับรองหมอพื้นบ้าน ระดับจังหวัดนครพนม พ.ศ. 2558 รางวัลเชิดชูเกียรติหมอพื้นบ้าน พ.ศ.255 ผ่านการอบรมหลักสูตรระยะสั้นหลักสูตร ห่างไกลโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยวิธีองค์รวม พ.ศ.2555 นอกจากนี้ยังได้รับมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติหมอไทยดีเด่น ระดับเขตบริการสุขภาพที่ 8 พ.ศ.2558 ที่สำคัญยังได้รับพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติพระธาตุพนม สาขาหมอพื้นบ้าน ประจำปีการศึกษา 2561 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราช เจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ.2562
นางบุญเทียน ไชยต้นเชือก กล่าวอีกว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของครอบครัว ถึงวันนี้จะสูญเสียคุณตาสอย สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ครอบครัว แต่ยังมีความภาคภูมิใจที่คุณตาสอย ได้ศึกษานำความรู้ด้านแพทย์สมุนไพร มาดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยจนเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ และยังได้ถ่ายทอดความรู้ เรื่องสมุนไพร ให้กับภรรยา และลูกชาย ลูกสาว จนสามารถปรุงยาสมุนไพรพื้นบ้านรักษาโรคแทนได้ หากผู้ป่วยที่มีความต้องการที่จะเข้ารับการรักษาโรคต่างๆ จากแพทย์สมุนไพร เป็นทางเลือกนอกจากแพทย์แผนปัจจุบัน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี