16 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ผู้ใช้ Facebook ที่ใช้ชื่อว่า “เฮียปลา ซุ่มไก่ชน แจรนซิตี้” ได้โพสต์คลิปวีดีโอ ความยาวประมาณ 37 วินาที ซึ่งในคลิปวีดีโอนั้น เป็นเหตุการณ์ ขณะที่ชาวบ้านกำลังวิ่งแตกตื่น เนื่องจากพบดวงไฟปริศนาสีแดง กระพริบ ลอยอยู่เหนือท้องฟ้ากลางทุ่งนา ในเขตพื้นที่บ้านแจรน ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์
หลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้คนเข้ามารับชมและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีชาวเน็ตเข้าแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เสียงแตก มีทั้งคนที่เชื่อว่าเป็นผีโพง หรือปอบ กระสือ และคนที่ไม่เชื่อก็ว่าน่าจะเป็นแสงไฟจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ หรือไม่ก็เป็นแสงไฟจากโดรน
ทั้งนี้เรื่องความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับนั้น อยู่คู่กับชาวสุรินทร์มานาน เพราะหลายครั้งที่มีการถ่ายติดดวงไฟปริศนาได้ แต่ก็ยังไม่เคยหาข้อพิสูจน์ได้สักที อีกทั้งก็ยังมีชาวบ้านที่ยืนยันว่าเคยเห็นมากับตา และก็ยังมีผู้เฒ่าผู้แก่ที่อ้างตนว่า เคยเป็นผู้ที่เล่นของและเลี้ยงสิ่งลี้ลับเหล่านั้นอยู่
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของคลิปทราบว่า นานๆกลับมาบ้านทั้งทีได้เจอของดีเลยรีบวิ่งไปดูตามที่ญาติๆบอก ตนและเพื่อนๆจึงวิ่งตามไปดู ไฟลูกนั้นมีลักษณะสีส้มๆดวงใหญ่ พอสนและเพื่อนๆวิ่งไล่ตามไปดู ไฟลูกนั้นก็ได้หายไปในทุ่งนา และหายลับไปกับตา ตนนั้นรู้สึกกลัวมากๆ แต่ก็ด้วยความอยากรู้ว่าเป็นดวงไปอะไรเหมือนกัน
แต่ชาวบ้านในระแวกบ้างก็ว่า น่าเป็นดวงไฟของผีโพงออกหากินยามค่ำคืน ส่วนมากจะเป็นคนที่เล่นของสิ่งลี้ลับ สมัยตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายก็เล่าต่อกันมาเช่นนี้ว่า เป็นของคนเล่นของบ้าง ปล่อยของบ้าง โดยสิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดที่พบดวงไฟปริศนา ซึ่งเป็นบ้านของนายชาตรี วิชัยรัมย์ เจ้าของบ้าน อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 76 หมู่ 5 ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์
ผู้สื่อข่าวได้พบกับนาย ณัฐกตติ เอิบอิ่ม คนเสื้อสีเหลืองดำที่วิ่งอยู่ในคลิป ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อคืนนี้ตนและเพื่อนๆอีก 7 คนได้กำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นตนก็สังเกตเห็นดวงไฟประหลาดดังกล่าวขึ้น ที่บริเวณยอดต้นมะพร้าว ตนจึงตะโกนบอกเพื่อนๆให้เอามือถือมาถ่ายไว้ดู และวิ่งไล่ดวงไฟนั้นไป เพื่อจะไปดูว่าตกถึงจุดไหนดวงไฟดังกล่าวลูกใหญ่กว่าลูกบาสเกตบอล มีแสงสีแดงสด ดูน่ากลัว เคลื่อนไหวอย่างช้าๆสูงประมาณ 3 - 4 เมตร วัดจากยอดต้นมะพร้าวถึงพื้นดินและได้ลอยไปเรื่อยๆไปยังทุ่งนาและไปตกยังที่ป่าช้าเก่าที่มีจอมปลวกบริเวณทุ่งนา ดวงไฟดวงนั้นลอยไปไกลร่วม 200 เมตรได้ ตนและเพื่อนๆวิ่งตามไปดูก็ไม่พบดวงไฟดังกล่าวแล้ว
ส่วนตนนั้นตอนแรกคิดว่าใครเอาโดรนมาบิน แต่ก็นึกได้ว่าบริเวณแถวบ้านตนนั้นไม่มีใครเล่นโดรน ตนจึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นทมบหรือภาษาไทยเรียกว่า กระสือหรือผีโพง ตามความเชื่อตั้งแต่โบร่ำโบราณ ซึ่งในละแวกหมู่บ้านตนนั้นก็ยังมีคนเล่นของหรือเล่นคุณไสยอยู่ และคืนวันที่เกิดเหตุก็คือวันโกน ซึ่งจะเป็นปกติของคนที่เล่นของจะปล่อยของออกมาหากิน ส่วนตัวนั้นตนไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับแ ต่ครั้งนี้เห็นด้วยตาตนเอง จึงมั่นใจว่าเป็นทมบ หรือผีกระสือ ผีโพง แน่นอน และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ตนขอยืนยันว่าตนและเพื่อนๆไม่ได้สร้างเรื่องนี้ขึ้นมาแน่นอน
ผีโพง กรือกระสือ เป็นผีตามความเชื่อพื้นบ้านทางภาคเหนือ/ภาคอีสาน ผู้ที่เป็นผีโพงเกิดจากเล่นไสยศาสตร์แล้วควบคุมวิชาในตัวเองไม่ได้ หรือปลูกว่านชนิดหนึ่ง เรียกว่าว่านผีโพง ซึ่งมีสีขาว รสฉุนร้อน เมื่อแก่จะมีธาตุปรอทลงกิน ทำให้เกิดแสงส่องสว่างแบบแมงคาเรือง และจะออกหากินพวกกบ เขียด ตามทุ่งนาป่ารกร้าง เมื่อดวงไฟเห็นว่ามีคนมาพบ ก็มักจะลอยหลบหนีหรือไม่ก็จะแตกดับสลายไปทันที.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี