มาถึงจุดนี้แล้ว? แฉด้านมืดแวดวงวิชาการ แค่มีเงินจ่ายก็ใส่รายชื่อร่วมในงานวิจัยระดับนานาชาติได้
9 ม.ค. 2566 ผศ.ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Chainarong Setthachua” ระบุว่า “อาชญากรรมทางวิชาการมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ล่าสุดช็อปปิ้งบทความแล้วจ่ายเงินเพื่อให้มีขื่อเป็นผู้แต่ง/ผู้แต่งร่วม ทุก ม.ควรตรวจสอบด่วน”
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2566 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค)โพสต็ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” ระบุว่า “ธุรกิจที่น่ากลัวที่สุดของสังคมวิจัยคือการที่นักวิจัยไป shopping งานวิจัยที่ตัวเองไม่ได้ทำ เช่น ไปอ่านงานที่คิดว่าอยากมีชื่อตัวเองใน paper นั้นๆแล้วใช้เงินไปซื้อตำแหน่งของการเป็นผู้แต่ง หรือ ผู้นิพนธ์ ในงานวิจัย ชื่อแรกก็จะแพงหน่อย ชื่อกลางๆก็จะถูกหน่อย
เมื่อได้จำนวนผู้แต่งครบแล้ว งานวิจัยผีๆนี้ก็ส่งไปตีพิมพ์โดยคนที่จ่ายเงินเป็นผู้แต่งก็จะไปสามารถ claim ผลงานทางวิชาการ หรือ ไปใช้ขอทุนจากหน่วยงานต่างๆเพื่อถอนทุนคืนได้ งานวิจัยที่ออกมาจะมีผู้แต่งแบบหลากหลายสถาบัน หลายประเทศที่ไม่เคยเห็นหน้า หรือรู้จักกันเลย พฤติกรรมแบบนี้ไม่แตกต่างจากการคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นในวงการราชการเลย ที่เสียใจคือ เห็นชื่อนักวิจัยของไทยในงานแบบนี้ด้วย”
จากนั้น ดร.อนันต์ ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งในวันที่ 8 ม.ค. 2566 ว่า “วารสารวิชาการที่สามารถพบงานวิจัยผีๆที่วางขายสิทธิ์การเป็นผู้แต่งไม่ได้จำกัดอยู่ในวารสารที่อยู่ในระดับล่างๆเท่านั้น วารสาร Vacuum ของสำนักพิมพ์ Elsevier มีค่า Impact factor สูงถึง 4.11 ก็พบว่าสามารถมีงานวิจัยนำไปลงตีพิมพ์ได้ นอกจากนี้งานวิจัยที่ลงตีพิมพ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Review article แต่เป็น Research article ซึ่งต้องลงข้อมูลทางเทคนิค การวิเคราะห์ผล ตลอดจนการสังเคราะห์งานวิจัยออกมา ซึ่งถ้าผ่านมาให้ลงวารสารระดับนี้ได้ แสดงว่าต้องมีข้อมูลดิบไว้ยืนยันได้ มี lab notebook มายืนยันว่าทำ experiment ไหนใน paper นี้
เมื่อดูรายละเอียดการมีส่วนร่วมของผู้แต่งแต่ละคน โดยเฉพาะผู้แต่งที่มาจากประเทศไทย จะเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆครับที่บุคลากรใน Faculty of Nursing จะสามารถเขียนวารสารวิชาการในหัวข้อเชิงเทคนิคได้ขนาดนี้ และ ยากที่จะเชื่อว่าจะมีเทคนิคส่วนไหนในงานนี้เกี่ยวข้องกับงานด้านพยาบาล หรือ Occupational therapy เลย...แถมหนึ่งในนั้นมีหน้าที่ Funding acquisition หาทุนมาให้คณะผู้วิจัยด้วย!
จุดที่พีคที่สุดคือ corresponding author หรือ ผู้นิพนธ์หลักสำคัญที่สุด เป็นนักวิจัยจากอินโดนีเซีย มาจาก Faculty of Law ซึ่งไม่มีหน้าที่อะไรใน paper นี้เลยจากข้อมูลที่ระบุใน paper เพียงจ่าย $1000 ตามที่ระบุใน website ก็สามารถได้เป็น 1st Author และ Corresponding author ได้ตามต้องการ ปล. ข้อมูลทั้งหมดนี้ผมไม่ได้เป็นคนหาเองด้วยนะครับ แต่เป็นนักวิจัยต่างชาติเอามา post ใน website ที่รวบรวมงานวิจัยต่างๆที่มีปัญหา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี