วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
องค์การสวนสัตว์ส่ง‘นกกาฮัง’กลับบ้าน‘ดอยหลวงเชียงดาว’ในรอบ 20 ปี

องค์การสวนสัตว์ส่ง‘นกกาฮัง’กลับบ้าน‘ดอยหลวงเชียงดาว’ในรอบ 20 ปี

วันจันทร์ ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2566, 15.50 น.
Tag : ดอยหลวงเชียงดาว นกกาฮัง องค์การสวนสัตว์
  •  

องค์การสวนสัตว์ส่ง‘นกกาฮัง’กลับบ้าน‘ดอยหลวงเชียงดาว’ในรอบ 20 ปี

9 มกราคม 2566 ที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย , นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ , นายกฤตภาส ขันทะธงสกุลดี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ , นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาว , นายณัฐกุล ขันทะสอน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว , คณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย , ดร.วรพัฒน์ อรรถยุกติ ประธานมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก , หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือ , องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น , หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ , ผู้นำชุมชน , ผู้นำโรงเรียน , ตัวแทนชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเปิดโครงการ “การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ” ภายใต้แนวคิด “นกกาฮัง ปิ๊กบ้าน”


ทั้งนี้ การนำนกกาฮังที่ได้รับการฟื้นฟูพฤติกรรมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของกระบวนการในการฟื้นฟูประชากรนกเงือกขนาดใหญ่ขึ้นใหม่อีกครั้ง ภายหลังการสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือมานานนับ 20 ปี 

จากความสำเร็จขั้นต้นของการนำนกกาฮังคู่แรก ที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือ ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ. ลำปาง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งนกที่ทำการทดลองปล่อยยังคงสามารถอาศัยอยู่ได้ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ  คณะผู้วิจัยของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 6 แห่ง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาวิจัย การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติฯ เป็นครั้งที่ 2 ณ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (พื้นที่บริเวณดอยหลวงเชียงดาว) ขึ้น ซึ่งถือเป็นนกกาฮังคู่แรก ที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอย่างเป็นทางการในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่         

นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันการแพร่กระจายของนกกาฮังในประเทศไทยอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทั้งนี้พบว่า บางพื้นที่ของประเทศไทย เช่น พื้นที่ทางภาคเหนือ นกกาฮังได้สูญหายจากธรรมชาติไปหมดสิ้นในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ที่มีพันธกิจหลักทางด้านการอนุรักษ์ วิจัยพันธุ์สัตว์ป่าหายากทั้งในถิ่นอาศัยและนอกถิ่นอาศัย ได้ดำเนินความพยายามในการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ จนมีจำนวนประชากรบางส่วนที่เพียงพอต่อการปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อประโยชน์ในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ 

สำหรับ “นกกาฮัง” นั้นถือเป็นนกเงือก 1 ใน 13 ชนิดที่พบในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และอยู่ในบัญชีแดงขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN)  เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญที่มีต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศ และเป็นชนิดพันธุ์ที่มีความโดดเด่น ดึงดูดความสนใจของสาธารณะชนทั่วไปในการสร้างให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยได้ จึงมีแนวคิดริเริ่มในการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรนกเงือกขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์ภาคเหนือของประเทศไทย

ทั้งนี้ตามแผนระยะที่ 1 ทางโครงการวิจัยฯ มีแผนการทดลองปล่อยนกกาฮังคู่แรกคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง และคู่ที่สอง ณ พื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 2 ใน 6 เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อศึกษาการใช้พื้นที่เชิงนิเวศ การกระจาย และการอยู่รอดได้ในพื้นที่ โดยจะทยอยปล่อยเพิ่มเติมเป็นระยะๆ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือแห่งต่าง ๆ รวมถึงจะมีการดำเนินงานติดตามภายหลังการทดลองปล่อยที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของ IUCN SSC และ AZA ในการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติที่เป็นไปตามหลักทางวิชาการสากลในอีกหลายปีข้างหน้าต่อไป

จึงถือเป็นวาระสำคัญที่อยากให้เยาวชนและประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์  รวมถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์นกกาฮังที่เป็นหนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ของไทยนี้ ให้สามารถคงอยู่คู่กับจังหวัดเชียงใหม่ ดินแดนแหล่งต้นกำเนิดวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ารวมถึงมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันสมบูรณ์ ทั้งนี้ดอยเชียงดาว" จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกจากยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย

สำหรับ นกกาฮัง 1 คู่ ที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในวันนี้ได้รับการตั้งชื่อตัวเมียชื่อ “ปิ๊ก” ภาษาพื้นเมืองแปลว่า กลับ ตัวผู้ ชื่อ “ป่า” เรียกรวมว่า ปิ๊ก ป่า หมายความว่า กลับป่า หรือกลับบ้านที่ป่าเป็นที่เรียบร้อย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ด่วน!ประกาศ‘เคอร์ฟิว’ 5 อำเภอ‘ตราด’ หลัง‘บก ฉก.นย.’ถูก M79 ยิงถล่ม พบพิกัดจากในประเทศ

พบโดรนปริศนาบินว่อนทั่วเมืองตราด ไทย-เขมรปะทะเดือดกลางดึก แนวรบบ้านชำราก

‘ทภ.2’รายงานแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ‘ศึกตาควาย’ยังไม่จบ ต้องรบต่อ

เจอจะๆหลักฐานมัด‘กัมพูชา’ พบขุดคูเลต-สร้างบังเกอร์-ฐานยิงปืนใหญ่รอบ‘ปราสาทคนา’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved