เปิดสถิติเด็กหายปี65 สูงขึ้นในรอบ 4 ปี อึ้ง 61%สมัครใจหนีจากบ้าน-กาง จว.สูงสุด
12 มกราคม 2566 ที่ห้องประชุม 3 อาคารพิทักษ์สันติ ชั้น 19 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน กทม. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ ผกก.ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร, พ.ต.ต.จักรี นารีผล สว.กก.สวัสดิภาพเด็กและสตรี , นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์ภาพรวมเด็กหายทั้งประเทศ และผลการช่วยเหลือในปีที่ผ่านมา
นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า เผยสถิติรับแจ้งเด็กหาย ของมูลนิธิกระจกเงา ปี 2565 ทั้งสิ้น 251 ราย ซึ่งถือว่าสถิติเด็กหายเพิ่มเติมสูงขึ้นในรอบ 4 ปี โดยสูงกว่าปี 2564 ถึง 25% โดยสาเหตุหลักกว่า 61% หรือ 161 ราย คือเด็กที่สมัครใจหนีออกจากบ้าน รองลงมาคือ กลุ่มเด็กที่มีพัฒนาการช้า มีความพิการทางสติปัญญา หรือป่วยทางจิตเวช สูญหายกว่า 21% หรือ 52 ราย และมีเด็กถูกลักพาตัว 2 ราย
โดยช่วงอายุเฉลี่ยของเด็กที่หายออกจากบ้าน มากที่สุดคือช่วง อายุ 11-15 ปี รวม 157 ราย รองลงมาคืออายุ 16-18 ปี รวม 67 ราย และช่วงแรกเกิดถึงสิบขวบ รวม 28 ราย ทั้งนี้ ช่วงอายุ 11-15 ปี เป็นกลุ่มมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นช่วงวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นช่วงวัยที่มีสังคมเพื่อน ช่วงวัยที่เข้าถึงเทคโนโลยี และมีแรงขับทางเพศตามธรรมชาติ
จังหวัดที่มีเด็กสูญหายออกจากบ้านมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 70 ราย นนทบุรี 17 ราย สมุทรปราการ 17 ราย ปทุมธานี 16 ราย ชลบุรี และนครปฐม สูญหายเท่ากันคือ 9 ราย
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์เด็กหาย พบว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ปี 2565 มีสถิติรับแจ้งเด็กหายเพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มวัยรุ่นอายุ 11-15 ปี ถือว่ามีความเสี่ยงในการตัดสินใจหนีออกจากบ้าน โดยเฉพาะเด็กที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้เด็กไปให้ความไว้วางใจเพื่อนหรือคนที่เพิ่งรู้จักในโลกออนไลน์ มากกว่าคนในครอบครัว จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านได้โดยง่าย โดยจากข้อมูล เด็กยอมไปกับคนที่เพิ่งรู้จักหรือพูดคุยกันผ่านแอพพลิเคชั่น จาก facebook instagram tiktok แม้ว่าเด็กจะสมัครใจหนีออกจากบ้านเอง แต่โลกภายนอกบ้าน มีอันตรายหลายอย่างสำหรับเด็ก ทั้งการคุกคามหรือหาประโยชน์ทางเพศกับเด็ก หรือมีความเสี่ยงในการถูกล่อลวง หรือกระทำความรุนแรง นอกจากนี้ยังมีเด็กที่หายออกจากบ้านและต่อมาพบว่าเด็กออกจากบ้านไปฆ่าตัวตายด้วย
พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวว่า เด็กหาย นับว่าเป็นปัญหาสำคัญของสังคม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกประเทศทั่วโลก โดยในประเทศไทย แม้ว่า เด็กหายส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของเด็กที่สมัครใจหนีออกจากบ้านก็ตาม แต่ท้ายสุดแล้ว เมื่อมีการแจ้งความเด็กหายมายังตำรวจ เราจะถือว่า ทุกกรณีมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เพราะการที่เด็ก ก้าวเท้าออกจากบ้าน ย่อมเกิดอันตรายได้รอบด้าน ทั้งสวัสดิภาพและความปลอดภัย อาจเกิดการล่วงละเมิดทางเพศ หรือการแสวงหาผลประโยชน์กับเด็ก การมีความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อันนำมาซึ่งปัญหาสังคมในด้านอื่น ตลอดจนอาจตกเป็นผู้เสี่ยงหายจากการถูกค้ามนุษย์
ทั้งนี้ ตามที่มูลนิธิกระจกเงา ได้รายงานสถานการณ์เด็กหายเมื่อปีที่ผ่านมา มีกรณีที่เด็กถูกลักพาตัวไปเป็นเครื่องมือในการขอทาน โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ดส) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้การช่วยเหลือ เด็กชายจีโอ โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ชักชวนเด็กไปกินขนมและเที่ยวเล่น จนเด็กเกิดความไว้วางใจ และพาเด็กไปเร่ขอทานในที่สถานที่สาธารณะ
ด้าน พ.ต.ต.จักรี นารีผลสารวัตรกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กล่าวว่า ตามที่มูลนิธิกระจกเงา ได้รายงานสถานการณ์เด็กหายเมื่อปีที่ผ่านมา มีกรณีที่เด็กถูกลักพาตัวไปเป็นเครื่องมือ โดยกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ดส) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับการประสานงานจากมูลนิธิกระจกเงา และร่วมกับ บก ปคม.ได้ให้การช่วยเหลือ เด็กชายจีโอ โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ชักชวนเด็กไปกินขนมและเที่ยวเล่น จนเด็กเกิดความไว้วางใจ และพาเด็กไปเร่ขอทานในสถานที่สาธารณะ ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุ ถือว่า เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำ เพราะเคยมีคดีพรากเด็ก ในท้องที่ สน มักกะสัน มาแล้ว
“ฝากย้ำเตือนไปยังผู้ปกครองในการเฝ้าระวังเด็กโดยเฉพาะช่วงอายุ 4-8 ขวบ จะมีความเสี่ยงสูงสุดในการถูกลักพาตัว ปัจจัยเสี่ยงสูงสุด คือ การที่ผู้ปกครองปล่อยเด็กวิ่งเล่นตามลำพัง แม้ว่าบริเวณที่เด็กวิ่งเล่น จะคุ้นเคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก ผู้ก่อเหตุจะใช้โอกาสนี้เข้ามาตีสนิทพูดคุยกับเด็กเมื่อเด็กอยู่ตามลำพัง นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุบางราย เช่น กรณีน้องจีโอ ยังไปหลอกเด็กตามร้านเกมส์ ให้เงินเด็กในการเล่นเกมส์เพื่อหลอกล่อและเด็กตายใจ” พ.ต.ต.จักรี กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ ผกก.ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร กล่าวว่า ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่าเป็นหน่วยงานแรกในประเทศไทยที่ใช้กระบวนการวาดภาพสเก็ตช์เด็กหายให้มีอายุเทียบเท่าปัจจุบัน (Age Progression) โดยใช้หลักสากลคือเด็กหายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ยังตามหาไม่พบ จะทำการสเก็ตช์ภาพเพิ่มอายุ ทุก 2 ปี ส่วนเด็กหายที่มีอายุเกิน 18 ปี จะทำการ สเก็ตช์ภาพทุก 5 ปี ซึ่งช่วงเวลาเหล่านั้น จะเป็นช่วงเวลาที่ลักษณะใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลง ภาพสเก็ตซ์ในส่วนนี้จะใช้ภาพเดิมประชาสัมพันธ์คู่กันเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เพิ่มโอกาสให้พลเมืองดีจดจำคนหายได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันได้สเก็ตซ์ภาพเด็กหายร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา มากกว่า 10 ราย
ในวันนี้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ได้เปิดตัวภาพสเก็ตซ์ เด็กหายรายล่าสุด คือ นายธีรวุฒิ ทัศนาพร หรือน้องกระติ๊บ อายุขณะหาย 16 ปี หายตัวไประหว่างขึ้นรถไฟไปโรงเรียนที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2561 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยปัจจุบันน้องกระติ๊บจะมีอายุครบ 20 ปี จึงได้สเก็ตซ์ภาพอายุปัจจุบันของน้องที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ติดตามตัวอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับวันเด็กที่จะถึงนี้ ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากประชาสัมพันธ์ยังผู้ปกครอง เพื่อป้องกันเด็กสูญหายพลัดหลงในงานวันเกิด
1.ผู้ปกครองต้องจดจำรูปพรรณของลูก ส่วนสูง น้ำหนัก ตำหนิ สีเสื้อผ้า
2.ให้ถ่ายรูปล่าสุดพร้อมชุดที่สวมใส่ของลูกก่อนออกจากบ้าน
3.ทำป้ายชื่อ เบอร์ติดต่อครอบครัวติดตัวเด็กไว้
4.สอนลูก หากพลัดหลง นัดเจอกันจุดไหน ให้ใครช่วยเหลือ
5.สอนลูก หากตกอยู่ในอันตราย มีคนจูงมือไป พร้อมตะโกนให้คนช่วย
ทั้งนี้ หากเกิดการสูญหาย หากค้นหาในบริเวณงานแล้วยังไม่พบตัว ให้โทรแจ้ง 1191 หรือ แจ้งความเด็กหายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอครบ 24 ชม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี