ยกเคส"ผัดไทย" ปกเพลง"เทย์เลอร์ สวิฟต์"ทำเชื่อเป็นของจริง แนะให้ความรู้เท่าทันแพลตฟอร์มผลิตเนื้อหาอัตโนมัติ
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่งานเสวนา Thailand Pre-bunking workshop จัดโดยโคแฟค (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่าย ณ Abloom Exclusive Serviced Apartments ซ.พหลโยธิน 3 กรุงเทพฯ นายณัฐกร ปลอดดี บรรณาธิการฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักข่าว AFP ประจำประเทศไทย ยกกรณีภาพ “ผัดไทย” อาหารขึ้นชื่อของประเทศไทย ไปปรากฏเป็นภาพปกเพลง “Lover” ของศิลปินสาวชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ และเรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างในพื้นที่ออนไลน์ของประเทศไทย ในช่วงเดือน พ.ย. 2565 เนื่องจากเป็นภาพที่ปรากฏในช่องยูทูบของศิลปินจริง
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบภาพปกดังกล่าวเป็นเพียง “เนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ (Auto Generate Content)” ด้วยระบบอัลกอริทึมของยูทูบ ว่า กรณีแบบนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแต่เคยเกิดขึ้นกับศิลปินคนอื่นๆ มาแล้ว โดยระบบจะคัดเลือกภาพที่เก็บไว้ (Stock Art) มาใช้ แต่คงเป็นครั้งแรกที่สื่อหยิบมานำเสนอแล้วบอกว่าซอฟท์ เพาเวอร์ ของไทยไปไกลแล้ว ขนาดศิลปินระดับโลกอย่างเทย์เลอร์ สวิฟต์ ยังนำไปทำเป็นปกเพลง ดังนั้นสื่อและประชาชนก็จะต้องรับรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วย
“สื่อก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ อาจจะเป็นเรื่องปากต่อปาก อาจจะเป็นเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน การมานั่งฟังสัมมนา การมีคลาสสอนเรื่องพวกนี้ มันก็มีขั้นตอนที่ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เป็นคนทำงานด้านสื่อมวลชน ด้านการประชาสัมพันธ์ เรามีเทคนิคของเราที่จะช่วยส่งต่อข้อมูลให้ถูกต้อง จริงๆ ตรงนี้เรียกว่าถูกต้องมันก็อาจจะดุไปนิด เพราะตัววีดีโอเป็นของเทย์เลอร์ สวิฟต์จริง ขึ้นภาพผัดไทยจริง ถ้าเกิดว่าจะให้ลงรายละเอียด ผมเรียกว่าอธิบายบริบท เพราะบริบทในวีดีโอที่เผยขึ้นมา มันเป็น Auto Generate แต่เวลาเรารายงานออกไปว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ เอาภาพผัดไทยขึ้นมา มันขาดคำอธิบายเรื่องกลไก เราแชร์เนื้อหาได้แต่บริบทสำคัญต้องไม่หายไปด้วย” นายณัฐกร กล่าว
ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้อาจคล้ายกับกรณีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตพบโฆษณาที่ไม่เหมาะสมโผล่ขึ้นมาบนเว็บไซต์สำนักข่าว ซึ่งจริงๆ แล้วการมองเห็นโฆษณานั้นมาจากพฤติกรรมการท่องโลกออนไลน์ของแต่ละคนเอง เช่น ไปเข้าเว็บไซต์บางแห่งที่มีโฆษณาสินค้าวาบหวิว แต่เมื่อไม่รู้ก็ไปโทษสำนักข่าวว่าเหตุใดถึงรับโฆษณาแบบนี้
“อันนี้คนจำนวนมากไม่รู้ แล้วก็เหมือนกับหน้าแตกมาหลายคนแล้ว อันนี้ก็เห็นด้วยว่าเราอาจต้องรณรงค์ให้ทำความเข้าใจว่าที่มันเป็น Footprint (รอยเท้า) ของเรา เอไอมันจะจำหมดเลย แล้วก็บางทีมันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราจะเชื่อได้ทั้งหมด อันนี้ก็คงเป็นงานของโคแฟคที่เราจะรณรงค์เพิ่ม แต่ก็เล่าให้ฟังว่าถ้าเป็นรูปแบบโฆษณาขึ้นมา หรือฟีดขึ้นมาอาจจะบนโซเชียลมีเดีย อันนี้ก็คือเป็นออโต้นั่นเอง ซึ่งเราอาจจะต้องรู้เท่าทัน” น.ส.สุภิญญา กล่าว
ขอบคุณภาพประกอบจาก : https://factcheckthailand.afp.com/doc.afp.com.32QY3PV
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี