ผู้ว่าฯเมืองลับแล - พระวินัยสาทร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์-พิษณุโลก (ธ) แถลงข่าวจัดงานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ประจำปี 2566 ระหว่าง 25 มกราคม 5 กุมภาพันธ์นี้ที่บริเวณวัดพระแท่นศิลาอาสน์เพื่อเป็นการสืบสาน รักษาประเพณีการบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ในวันเพ็ญเดือนสามของทุกปี ในการสืบทอดพระพุทธศาสนา และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชน ชุมชน และจังหวัดอุตรดิตถ์
วันที่ 21 ม.ค.66 ที่บริเวณลานหน้าพระวิหารหลวง วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ พระวินัยสาทร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์–พิษณุโลก (ธ) เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ (พระอารามหลวง) ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานฝ่ายฆราวาส นายศิวัช ฟูบินทร์ นายอำเภอลับแล และ นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 บริเวณวัดพระแท่นศิลาอาสน์ (พระอารามหลวง) เชื่อมโยงไปถึงบริเวณวัดพระยืนพุทธบาทยุคล และวัดพระนอน เพื่อเป็นการสืบสาน รักษาประเพณีการบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ในวันเพ็ญเดือนสามของทุกปี ในการสืบทอดพระพุทธศาสนา และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชน ชุมชน และจังหวัดอุตรดิตถ์
โดยมีกิจกรรมภายในงานต่างๆ มากมาย เช่น การไหว้พระกราบนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ พระยืนและพระนอนในบริเวณ 3 วัดเชื่อมโยงกัน การแสดงศิลปวัฒนธรรมสมโภช การกวนพุทราแขวนบาตร การถือศีลปฏิบัติธรรม การทำบุญตักบาตรพระร้อยรับรุ่งอรุณ และการเวียนเทียนพระแท่นศิลาอาสน์ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้งไฮไลท์ในงานวัด การไหว้พระซื้อของฝากกลับบ้าน ที่มีร้านค้ากว่า 2,000 ร้าน ในงานดังกล่าวที่มีสินค้าพื้นถิ่นและอาหารทั่วทั้งภาคเหนือ มาจำหน่ายในงานนี้ และอย่าพลาดพิธีเปิดงานในปีนี้ วันที่ 25 มกราคม 2566 ชมขบวนเทิดพระเกียรติ ขบวนเครื่องสักการะ ขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมทั้งสามวัฒนธรรม (ล้านนา ล้านช้าง ไทยกลาง) จากทั้ง 9 อำเภอ ขบวนนางรำฟ้อนถวายพระแท่นศิลาอาสน์ 500 กว่าคน และชมการแสดงแสง สี เสียง ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์
จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวฯ ผู้มาเยือนมาพำนัก และพุทธศาสนิกชนผู้สนใจมาเที่ยวงานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 มาไหว้พระ ซื้อของกลับบ้าน อิ่มบุญอิ่มใจ ได้ของฝากที่วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
พระวินัยสาทร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ –พิษณุโลก (ธ) เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ (พระอารามหลวง) กล่าวว่า งานเทศกาลนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ถือว่าเป็นประเพณีทำบุญไหว้พระแท่นศิลาอาสน์ มีมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว มีผู้มาสักการบูชาทั้งในเทศกาลและนอกเทศกาลตลอดปีพุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่า การได้มาสักการบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ จะได้รับอานิสงส์สูงสุด และเช่นเดียวกับพระพุทธบาทสระบุรีพุทธศาสนิกชนผู้มีความศรัทธาจะขวนขวายมานมัสการให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ตอนเหนือจังหวัดอุตรดิตถ์ จะพยายามเดินทางมานมัสการ พระแท่นศิลาอาสน์ แม้ว่าหนทางจะทุรกันดารเพียงใดก็ไม่ย่อท้อถอยและเห็นว่าเป็นการได้สร้างบุญกุศลที่มีค่าควร การมานมัสการจะกระทำทุกครั้งที่เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันมาฆบูชา ณ วันเพ็ญ เดือนสาม
"งานเทศกาลนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ณ วันเพ็ญเดือนสาม อันเป็นวันมาฆบูชา จะเริ่มตั้งแต่ วันขึ้น 8 ค่ำถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม บรรดาพระภิกษุสงฆ์จะธุดงค์มาปักกลดพักแรมที่บริเวณใกล้วัด เมื่อถึงวันมาฆบูชา เวลาประมาณ 19.30 น. พระภิกษุสงฆ์จะเข้าไปในพระวิหาร แล้วสวดพระพุทธมนต์ มีพระธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร เป็นต้น เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ก็ออกมาให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ในตอนเช้าของทุกวันในระหว่างเทศกาลบรรดาพระสงฆ์ที่ธุดงค์มานมัสการ พระแท่นศิลาอาสน์ จะเดินทางเข้าไปบิณฑบาตตามหมู่บ้าน และบรรดาชาวบ้านจะนำอาหารมาถวายที่วัดอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อพระฉันอาหารเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็จะแบ่งปันอาหารร่วมรับประทานด้วยกัน รวมทั้งผู้ที่เดินทางมานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ด้วย นับว่าเป็นการทำบุญกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีเนื่องจากวัดพระนอนพุทธไสยาสน์และวัดพระยืนพุทธบาทยุคล มีอาณาบริเวณอยู่ติดต่อกัน จึงจัดงานประจำปีพร้อมกันกับวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ทำให้พุทธศาสนิกชนที่มาในงานเทศกาลนี้ได้ นมัสการพระบรมธาตุ และพระพุทธบาทด้วยเป็นการได้นมัสการพระพุทธเจดียสถาน อันเป็นที่เคารพสักการะ ได้ครบถ้วนในโอกาสเดียวกัน ยากจะหาที่ใดเสมอเหมือน"
พระแท่นศิลาอาสน์ในปี พ.ศ. 2483 เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ดำริให้มีการออกแบบตราประจำจังหวัดต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดและนำเสนอสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัดให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น คณะกรมการจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้เสนอให้กรมศิลปากร นำรูปมณฑปพระแท่นศิลาอาสน์มาประดิษฐ์เป็นตราประจำจังหวัด ตรานี้จึงได้รับการออกแบบครั้งแรก โดยพระพรหมพิจิตร เขียนลายเส้นโดย นายอุณห์ เศวตมาลย์ ลักษณะเป็นรูปมณฑปพระแท่นศิลาอาสน์มีลายช่อกนกขนาบอยู่สองข้างในวงกลม ต่อมาทางราชการจึงเพิ่มรูปครุฑ และอักษรบอกนามจังหวัดว่า "จังหวัดอุตรดิตถ์" เข้าไว้ที่ส่วนใต้ภาพพระแท่นด้วย ซึ่งตราดังกล่าวก็ยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน พระวินัยสาทร กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี