13 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านห้วยส้ม ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จ.เลย มีช้างป่ากว่า 40 ตัว บุกเข้าไปในหมู่บ้านกลางดึก 12 มีนาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างวิ่งหนีกระเจิง หอบลูกจูงหลาน ออกจากหมู่บ้านกลางดึก
ชาวบ้านบางคนทำบั้งแก๊ส จุดให้เสียดังและจุดประทัดยักษ์ไล่ช้าง เสียงดังสนั่นหมู่บ้านตลอดทั้งคืน ทำให้ช้างป่าแตกโขลงไม่สามารถควบคุมได้ จนถึงรุ่งเช้าช้างจึงจะกลับเข้าป่าไปได้
นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง เผยว่า ในช่วงเย็นเมื่อวานวันที่ 12 มี.ค. ได้รับแจ้งว่า มีช้างป่าประมาณ 40 ตัว ออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อภูกระแต ช่วงถ้ำอีเกียฝั่งอำเภอภูกระดึง มายังบ้านห้วยส้ม จึงให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ปฏิบัติการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าพบมีช้างป่าโขลงใหญ่ลงมากลางหมู่บ้าน มากินกล้วยที่ชาวบ้านปลูกไว้
ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกใจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้ง 3 หน่วยงานทั้งจากภูค้อภูกระแต เจ้าหน้าที่อุทยานภูกระดึง และหน่วยภูผาม่าน ชรบ. ก็ออกไปขับไล่ช้างก็เข้าป่าไป
ต่อมาได้มีช้างแม่ลูกอ่อน ซึ่งลูกช้างเกิดเพียง 2 สัปดาห์ พาลูกน้อยมากินก่อไผ่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ช้างทั้งโขลงก็ได้ออกจากป่าตามมาอีก มาเล่นน้ำที่สระใหญ่ของหมู่บ้านห้วยส้ม ซึ่งสระแห่งนี้อยู่ใกล้กับถนน 201 ช่วงหนองหิน ภูกระดึง
'จุดนี้ที่เราได้เฝ้าระวังที่สุด เนื่องจากหากอาหารฝั่งภูกระดึง บริเวณบ้านห้วยส้มหมด เกรงว่าช้างป่าจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง จะควบคุมได้อย่างยากลำบาก โดยพื้นที่ช้างรบกวนอาหารก็ใกล้จะหมด'
เมื่อคืนขณะช้างป่าเข้าไปใกล้หมู่บ้าน ชาวบ้านบางรายต่างหนีต้องเอาลูกเอาหลานออกจากหมู่บ้าน ไปพักกับญาติในหมู่บ้านอื่น ฝ่ายผู้ชายต่างทำบั้งแก๊สที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ จุดกับแก๊สก้อนทำให้เกิดเสียงดัง บางคนใช้ประทัดยังจุดเพื่อไล่ช้างตลอดทั้งคืน เจ้าหน้าที่เองก็พยายามสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน ถ้าไม่เห็นช้างอย่าจุด
'เมื่อคืนต้องบอกตรงๆว่า สถานการณ์เหมือนเกิดสงครามยูเครน ทั้งบั้งแก๊สจุดประทัดกันทั้งหมู่บ้าน ทำให้ช้างป่าตกใจหนีกระเจิงแตกฝูงกระจายเหมือนกัน'
แม้เจ้าหน้าที่พยายามห้ามเพราะอาจเป็นอันตราย จนมีการกระทบกระทั้งระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน ซึ่งตามปกติเมื่อช้างได้ยินเสียงและแสงไฟช้างจะตกใจ ตามหลักปฏิบัติเมื่อเห็นช้างก็จะดับไฟ ช้างก็จะหนีไปเอง และคาดว่าช้างป่าออกมารุกพื้นที่ชาวบ้าน พฤติกรรมของช้างป่าก็จะพยายามอพยพอยู่ แต่เส้นทางกลับเข้าป่าไม่มีน้ำ
อย่างช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา โขลงช้างป่าได้กลับเข้ามา เจ้าหน้าที่ติดตามดูพบระหว่างเส้นทางไม่มีน้ำ ช้างก็ลงกลับมาที่เดิมอีก คาดว่าหากฝนตกลงมาแล้ว ช้างอาจจะกลับเข้าป่าไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต่างเฝ้าระวังในพื้นที่ซึ่งทำงานผลัดกันตลอด 24 ชม. ทั้งเฝ้าดูการเคลื่อนย้ายของโขลงช้างป่าตลอดเวลา.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี