ใครที่ชอบทาน “เมล่อน” โดยเฉพาะพันธุ์ญี่ปุ่นแล้ว ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมชมสวนเมล่อน-บางหว้า ของนายศราวุธ จันทะพรหม หรือ “โหน่ง” เจ้าของ “บางหว้า เมล่อน ฟาร์ม” ซึ่งทำฟาร์มเมล่อนมาตั้งแต่ พ.ศ.2557 เรียกว่า พกประสบการณ์มาเต็มกระเป๋าพร้อมถ่ายทอดความรู้การปลูกเมล่อนให้กับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะคนเมืองที่สนใจทำ “เกษตรในเมือง”
นายศราวุธยังเป็นเอดีตวิศวกรโยธา วัย 56 ปี ซึ่งมีดีกรีจบมาจากมหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตอีสาน เมืองโคราช จังหวัดนครราชสีมา และ เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาใหม่ๆ นายศราวุธ ได้เริ่มงานเป็นพนักงานรับเหมาก่อสร้าง, ทำฟาร์มกุ้ง, ทำร้านอาหาร และ มาทำสวนเมล่อนจนเป็นกระแสเกษตรคนเมืองและได้รับการยอมรับจากแวดวงเกษตรกรรม
แต่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ทุกพื้นที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งในส่วนของสวน “เมล่อน-บางหว้า” ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะรูปแบบของสวน “เมล่อน-บางหว้า” เป็นลักษณะให้ลูกค้ามาชิมและซื้อถึงสวน รวมทั้งยังเป็นเชิงท่องเที่ยวเกษตรกรรม ทำให้ผู้เข้าชมสวนลดลงไปด้วย
ในช่วงวิกฤต 2-3 ปี ที่มีคนเข้ามาชมสวนลดลงทำให้นายศราวุธจึงได้ปรับตัวด้วยการนำแนวทางพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาปรับใช้ จากที่ดำเนินการตามรอยพระราชดำรินี้ตั้งแต่เริ่มต้น และ แนวทางพระราชดำริก็ยังทำให้นายศราวุธสามารถนำพาสวนเมล่อนที่บางหว้ารอดพ้นวิกฤต ด้วยการนำพืชผักสวนครัวมาปลูกในพื้นที่นอกโรงเรือน และในปี 2566 นี้ ยังได้เริ่มปรับโรงเรือนเมล่อนที่บางแคบางส่วนมาปลูกองุ่นและส้มเขียวหวาน เรียกว่าเป็นการใช้ความสามารถด้านวิศวกรรมที่คิดอย่างเป็นระบบเป็นขั้นเป็นตอนมาปรับใช้กับการทำเกษตรกรรมให้ก้าวข้ามวิกฤตเพื่อให้เดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน
“ที่บางหว้าตอนนี้ผมมีโรงเรือนปลูกเมล่อนอยู่ 2 โรง และ ที่บางแค มีโรงเรือนเมล่อน 1 โรง, ส้มเขียวหวาน 1 โรง และ องุ่น 3 โรง ซึ่งตั้งแต่ผมเริ่มทำสวนเมล่อนมา ก็มีการให้ความรู้แก่คนที่เข้ามาเยี่ยมชมทั้งนำกลับไปเป็นงานอดิเรก และ นำกลับไปทำเป็นอาชีพเสริม รวมทั้งบางคนเมื่อเข้ามาชมสวนเมล่อนแล้ว ก็นำไปทำเป็นอาชีพหลัก” นายศราวุธเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง
สำหรับนายศราวุธได้เริ่มทำสวนเมล่อน-บางหว้า ตั้งแต่ปี 2557 ทำให้วันนี้เป็นระยะเวลา 9 ปีแล้วที่สวนเมล่อนของเขาเดินทางมาอย่างอดทน และ ใช้ความวิริยะอุตสาหะในสัมมาอาชีพ โดยผลิตคนให้เข้ามาเป็นเกษตรกรและเป็นเจ้าของฟาร์มเมล่อนที่สร้ายได้ให้กับครอบครัวได้จริงถึง 40-50 รายทั่วประเทศ
วันนี้นายศราวุธยังทำหน้าที่ผลิตคนสู่ภาคเกษตรกรรมด้วยการสร้างแรงบันดาลใจที่จุดเริ่มต้นเล็กๆ คือ สวนเมล่อน-บางหว้า และ ที่บางแค ทำให้มีผู้ได้รับแรงบันดาลใจ และ ได้รับกำลังใจจากการเข้ามาเยี่ยมชม แวะชิม แวะซ๊อป จนติดใจในรสชาติเมล่อน และ นำมาสู่การเดินบนเส้นทางเกษตรกรรมที่ยั่งยืนสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวตามมา
สำหรับเมล่อนที่คุณศราวุธปลูกนั้น เน้นสายพันธุ์ญี่ปุ่น ได้แก่ สายพันธุ์คิโมจิ, อิชิบะ, คาซึสะ, ซูบาริ และโยกุโบะ โดยนายศราวุธยินดีที่จะให้คำแนะนำสำหรับผู้สนใจปลูกเมล่อน ทั้งนำไปเป็นงานอดิเรก, อาชีพเสริม และ อาชีพหลัก แต่นายศราวุธทิ้งท้ายว่า การปลูกเมล่อนนั้นทำเล่นๆไม่ได้ เพราะการทำโรงเรือนเมล่อนนั้นใช้เงินลงทุนในการสร้างโรงเรือน การซื้อสายพันธ์ การดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนลูก เพราะเมล่อนมักเจอปัญหาใหญ่ คือ เพลี้ยะไฟ ซึ่งหากเมล่อนเจอปัญหานี้แล้ว จะทำให้ต้นเมล่อนหงิกงอ และส่งผลให้ต้องถอนต้นทิ้งทั้งหมด เพื่อเริ่มปลูกใหม่
ส่วนท่านใดที่สนใจ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเรียนรู้การทำเกษตรในเมือง ที่ใช้พื้นที่ไม่มาก ไม่ต้องทำเกษตรแปลงใหญ่ สามารถไปเยี่ยมชมสวนเมล่อนได้ทั้งที่บางหว้า ใกล้บีทีเอสบางหว้า และ สวนเมล่อนที่บางแคของนายศราวุธ จันทะพรหม โดยโทรศัพท์ไปสอบถามได้โดยตรงที่เบอร์ 081-209-3226
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี