‘เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ - ปลัดมท.’ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ประกอบพิธียกเสาเอก เสาโท อุโบสถวัดบางหลวงหัวป่า สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดปทุมธานี
11 เมษายน 2566 ที่วัดบางหลวงหัวป่า สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธียกเสาเอก เสาโท อุโบสถวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังโฆสิตาราม
โดยมี พระมงคลวโรปการ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดชินวราราม วรวิหาร พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเมืองปทุมธานี และภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ร่วมพิธี
โอกาสนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ จุดธูปเทียนเครื่องบวงสรวง ปักธูปบริวาร แล้วโปรยข้าวตอกดอกไม้ พระมงคลวโรปการ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดชินวราราม วรวิหาร พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังโฆสิตาราม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปักธูปบริวารแล้วโปรยข้าวตอกดอกไม้ จากนั้น เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย ที่เสาเอก เสาโท แล้วทำพิธียกเสาเอก เสาโท โปรยข้าวตอกดอกไม้ ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี
พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังโฆสิตาราม กล่าวว่า วัดบางหลวงหัวป่าแห่งนี้ เป็นวัดร้างตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ปัจจุบันไม่มีเสนาสนะ อาตมภาพจึงได้ร่วมกับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เมื่อครั้งท่านดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นผู้ขอบูรณปฏิสังขรณ์และขอยกวัดร้างแห่งนี้ให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาต่อไป เป็นวัดสาขาของวัดระฆังโฆสิตาราม มีเนื้อที่ 23 ไร่ 64 ตารางวา
โดยในช่วงที่ผ่านมา วัดได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ต้นไม้ประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ตามความตั้งใจของท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ประสงค์จะให้สถานที่แห่งนี้ เป็นรมณียสถาน สถานที่แห่งความร่มเย็น และเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นสถานที่แห่งการร่วมทำในสิ่งที่คนในโลกใบนี้ต้องช่วยกัน
นั่นคือ การลดภาวะโลกร้อนตามแนวทางความยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเมื่อวัดแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จนเสร็จสมบูรณ์ ยังเป็นพุทธสถานสาธารณสงเคราะห์นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ป่วยยากไร้ และชาวบ้านในพื้นที่ ให้ได้รับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายด้านการสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมอีกด้วย
"การจัดสร้างอุโบสถวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังโฆสิตาราม ถือเป็นอาคารที่สำคัญภายในวัดเนื่องจากเป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ทำสังฆกรรมและประดิษฐานพระประธานที่เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญประจำวัด ตัวอุโบสถเป็นอาคาร 2 ชั้น มีความกว้าง 10 เมตร ยาว 22.5 เมตร ขนาดพื้นที่รวม 450 ตารางเมตร ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมอนุโมทนาสมทบทุนปัจจัยในการก่อสร้างได้ที่บัญชี "วัดบางหลวงหัวป่า เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์" ทาง e-donation prompt pay คิวอาร์โค้ด https://shorturl.asia/tlUo8 เพื่อความสะดวกในการลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากร โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังโฆสิตาราม ประธานดำเนินการ หมายเลขโทรศัพท์ 09-5990-9910" พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต กล่าวเพิ่มเติม.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี