ยกนิ้วให้และขอชื่นชมตำรวจ สภ.ไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ทำดี 2 ต่อออกช่วยเหลือชาวบ้านรถเสียน็อตขันล้อหลุดกลางทางไปต่อไม่ได้ เจ้าของรถบอกเมียไม่ให้เงินติดตัวมาสักบาท พี่ตำรวจใจดีควักเงินหมดกระเป๋าไปซื้อน็อตมาเปลี่ยนให้จนรถสามารถไปต่อได้ ขณะที่เดินทางกลับไปโรงพักเจอเด็กน้อยชายวัย 9 ขวบเดินเท้าเปล่ากลับจากขอกินข้าววัดจะกลับบ้านไกลกว่า 10 กม.ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ พี่ตำรวจขันอาสาพาไปส่งถึงบ้านพบสภาพสุดหดหู่ใจ พบชีวิตหนูน้อยอยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง ขอข้าวตามวัดกินและรับจ้างทั่วไป หนูน้อยน้ำตาไหล เผยพ่อแม่แยกทางกัน
วันที่ 18 เม.ย.66 เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งชาวบ้านขอความช่วยเหลือเหตุรถเสียที่ถนนระหว่างบ้านคำ-บ้านคำเลาะ ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน จึงได้มอบหมายให้ชุดสายตรวจโดย ส.ต.ท.อนุสรณ์ หอมหวล อายุ 31 ปี ผบ.หมู่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สภ.ไชยวาน ออกไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทันที เมื่อไปถึงพบรถยนต์ ซูซูกิ แคร์รี่ สีขาวจอดเสียอยู่ข้างทาง สอบถามนายดาวเรือง อายุ 51 ปีเจ้าของรถบอกว่า เดินทางมาจากบ้านบงเหนือ อ.สว่างแดนดิน จะมาธุระที่บ้านคำเลาะ อ.ไชยวาน แต่บังเอิญน็อตขันล้อหลุดทำให้ไปต่อไม่ได้แถมเมียไม่ให้เงินติดตัวมาสักบาท ส.ต.ท.อนุสรณ์ จึงตัดสินใจควักเงินตัวเองในกระเป๋าไปซื้อน็อตมาเปลี่ยนให้กับเจ้าของรถทันที 300 บาทและรถสามารถไปต่อได้ เจ้าของรถขอบคุณในน้ำใจของตำรวจไชยวาน ที่ช่วยเหลือในครั้งนี้
ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือประชาชนพี่ตำรวจใจดีช่วยออกค่าน็อตซ่อมล้อรถยนต์แล้ว ขณะที่รถสายตรวจกำลังกลับ สภ.ไชยวาน ปรากฏพบเด็กน้อยเดินเท้าเปล่าอยู่ริมถนนบริเวณบ้านคำน้ำทิพย์ ต.คำเลาะ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ส.ต.ท.อนุสรณ์ จึงได้เดินลงไปสอบถามทันทีว่าทำไมถึงมาเดินแบบนี้และจะไปไหน ทราบชื่อหนูน้อยคนนี้ชื่อ น้องเฟียร์ อายุประมาณ 9 ปี บอกกับพี่ตำรวจว่า เดินมาจากบ้านวัดป่าคำบอนจะกลับไปบ้านที่บ้านเพียปู่ ระยะทางกว่า 10 กม. ตอนเช้าวันนี้ตนเดินทางไปวัดกับเพื่อนๆ เพื่อหาข้าวกินประทังชีวิต แต่เพื่อนหายหาไม่เจอ เหลือตนคนเดียวในวัด พอกินข้าววัดเสร็จจึงเดินกลับบ้านที่คุ้มข้าวปุ้นบ้านเพียปู่คนเดียว ขณะที่พี่ตำรวจถามว่า รู้ไหมว่าไกล แต่น้องเฟียร์ก็บอกว่า "ไม่เป็นไรครับผมเดินมาตลอดทางแล้ว" ตำรวจสอบถามได้ข้อมูลจากน้องเฟียร์ อีกว่าพ่อชื่อแชมป์ แม่ชื่อเต้ แต่แม่จริงชื่อเพ็ญ แต่พ่อแม่แยกทางกันและน้องเฟียร์ อาศัยอยู่บ้านคนเดียว ทาง ส.ต.ท.อนุสรณ์ เห็นไกลจึงให้น้องเฟียร์ขึ้นรถไปส่งที่บ้าน
ขณะที่อยู่ในรถสายตรวจ น้องเฟียร์ บอกอีกว่า ตนอยู่บ้านคนเดียว กินข้าวหากินเอง กินตามวัดและขอชาวบ้านกินบ้าง พ่อและแม่แยกทางกันไม่ได้อยู่กับน้องเฟียร์ ส่วนเงินที่ซื้อข้าวก็ไปรับจ้างครูช่วยรดน้ำต้นไม้ ได้ครั้งละ 50-60 บาท เวลาไปหาพ่อ พ่อก็ทำร้าย ตนไม่ดื้อ แต่พ่อตีตน โดยช่วงที่น้องเฟียร์พูดถึงพ่อน้ำตาจะไหลออกมา พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบเงินจำนวน 100 บาทให้น้องเฟียร์ ไปซื้อรองเท้าใหม่มาใส่ด้วย
พอถึงบ้าน พบสภาพบ้านที่น้องเฟียร์อยู่บ้านลำพังเพียงคนเดียวและคาดว่าเป็นบ้านของญาติ ส่วนพ่อแม่แยกทางกันทำให้น้องเฟียร์ต้องนอนอยู่บ้านคนเดียว โดยขณะที่พี่ตำรวจจะขึ้นไปดูห้องนอน น้องเฟียร์ บอกว่า "กลัวมันพัง" พร้อมกับชี้ให้ดูที่นอนกับเสื่อเก่าๆ อยู่ผืนหนึ่ง ไม่มีแม้ผ้าห่ม พี่ตำรวจเห็นภาพแล้วหดหู่ใจอย่างยิ่ง แต่ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ฝากเรื่องนี้ไว้กับนายสมศักดิ์ ศรีลาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเพียปู่ รอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลน้องเฟียร์ต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี