วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ปาฏิหาริย์ลิ้นจี่ 4 เมล็ดจากปาก 'หลวงปู่จันทร์'เกจิดังนครพนมเมื่อ 60 ปีที่แล้วกลายเป็นสินค้าดังทั่วโลก

ปาฏิหาริย์ลิ้นจี่ 4 เมล็ดจากปาก 'หลวงปู่จันทร์'เกจิดังนครพนมเมื่อ 60 ปีที่แล้วกลายเป็นสินค้าดังทั่วโลก

วันพฤหัสบดี ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566, 17.38 น.
Tag : เกจิดังนครพนม ปาฏิหาริย์ ลิ้นจี่ หลวงปู่จันทร์
  •  

ปาฏิหาริย์ลิ้นจี่ 4 เมล็ดจากปากหลวงปู่จันทร์เกจิดังนครพนมเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้วกลายมาเป็นสินค้า GI โด่งดังทั่วโลก

วันที่ 27 เม.ย.66 นายวีรเดช ซามาตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ได้จัดงานวันลิ้นจี่ของดีตำบลขามเฒ่า และโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ บริเวณหน้า อบต.ขามเฒ่า ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม โดยนายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานร่วมกับนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม


โดย อบต.ขามเฒ่า จับมือกับภาคีเครือข่ายจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ได้รู้จักกับลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ของจังหวัดนครพนม ที่เป็นสินค้า GI ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นการรับรองถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ โดยมีความเฉพาะโดดเด่นเป็นพิเศษ คือ มีผลขนาดใหญ่ เปลือกสีแดงอมชมพู รูปทรงเหมือนไข่ เนื้อผลแห้งสีขาวขุ่น รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาด ที่สำคัญอีกอย่างคือผู้ผลิตผ่านการตรวจสอบระบบควบคุมภายในทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพของสินค้า สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบได้ ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดผลไม้ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรในชุมชน ที่ในปีนี้มีผลผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ออกสู่ท้องตลาดประมาณ 2,700 ตัน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านนาโดน หมู่ 4 ต.ขามเฒ่า ถือเป็นแหล่งที่เกษตรกรปลูกลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 เป็นจำนวนมาก และกำลังเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวบ้านแต่ละหลังจึงสาละวนกับการเก็บผลลิ้นจี่ นำลงมาตัดแต่งให้สวยงาม ชั่งมัดละ 1 กิโลกรัมเพื่อให้ทันส่งลูกค้าตามออเดอร์ โดยนางสาวเวียงใจ บัวลอย อายุ 24 ปี เกษตรกรรุ่นใหม่ อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 4 บ้านนาโดน เปิดเผยว่า ทางครอบครัวลงปลูกลิ้นจี่จำนวน 2 ไร่ มีทั้งหมด 25 ต้น สำหรับปีนี้อากาศหนาวเย็นกว่าที่ผ่านมาจึงทำให้ลิ้นจี่ให้ผลผลิตมากกว่าปีที่แล้ว ราคาจึงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะผลผลิตล้นตลาด สวนลิ้นจี่ตนส่งให้ลูกค้าราคาหน้าสวนกิโลกรัมละ 50 บาท บางสวนอาจจะส่งลูกค้าเจ้าประจำในกิโลกรัมละ 35-45 บาท สำหรับสวนตนปีนี้คาดจะได้ผลผลิตประมาณ 2 ตันเป็นอย่างน้อย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 48 หมู่ 4 บ้านนาโดน ต.ขามเฒ่า อยู่ข้างกำแพงวัดพุทธยาภิบาล ซึ่งบ้านหลังนี้มีความสำคัญมาก เพราะมีต้นลิ้นจี่ซึ่งเป็นแม่พันธุ์ ต้นกำเนิดลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ปัจจุบันมีอายุเกือบ 70 ปี ขนาดลำต้นความสูงประมาณ 10 เมตร ลำต้นเส้นรอบวงราว 2 เมตร ซึ่งเป็นต้นที่นักวิชาการนำเนื้อเยื่อไปขยายพันธุ์จากการพัฒนาด้านผลผลิตทางการเกษตรจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ซึ่งจากเดิมชาวสวนปลูกด้วยเมล็ดพันธุ์ไว้รับประทานกันเองในครัวเรือน

ภายหลังจากมีการพัฒนาสายพันธุ์ กลายมาปลูกด้วยกิ่งตอน และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย เนื้อกรอบ หวานฉ่ำ รสเปรี้ยวอมหวาน ภายหลังได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าเกษตร GI บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ อีกทั้งกลายเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม โดยเฉพาะบ้านนาโดนมายาวนานร่วม 50 ปีปัจจุบันพื้นที่ตลอดแนวริมฝั่งน้ำโขงบ้านนาโดน มีการปลูกลิ้นจี่สายพันธุ์ นพ.1 มากกว่า 1,500 ไร่ สร้างรายได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท

โดยนางคำตัน ทันที อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า คนที่นำเมล็ดลิ้นจี่มาปลูกที่บ้านนาโดนคนแรกคือพี่ชายของตนชื่อนายวีระ สุทธิโสม ปัจจุบันอายุ 84 ปี อดีตข้าราชการสังกัดกรมไปรษณีย์ มีที่มาที่ไปว่า ประมาณปี 2499 นายวีระพี่ชายบวชเรียนเป็นสามเณรที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม

วันหนึ่งมีโยมนำลิ้นจี่สายพันธุ์ทางภาคเหนือมาถวายหลวงปู่จันทร์ เขมิโย เจ้าอาวาสในขณะนั้น และเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอันดับ 1 ของจังหวัดนครพนม หลังท่านได้ชิมแล้วบอกมีรสชาติดี จึงให้พี่ชายเอาเมล็ดไปปลูกไว้ที่บ้านจำนวน 4 เมล็ด โดยปลูกไว้ที่หน้าบ้าน 1 เมล็ด หลังบ้าน 2 เมล็ด และข้างบ้านด้านทิศตะวันออก 1 เมล็ด คิดแต่จะปลูกไว้กินในบ้านและหวังไว้เป็นร่มเงา ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์ดังในเวลาต่อมาที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน ปัจจุบันเหลือเพียงต้นเดียว อายุมากเกือบ 70 ปี ส่วนอีก 3 ต้นถูกฟ้าผ่ายืนต้นตาย และยังสามารถเก็บผลผลิตได้ในบางปี ทั้งนี้ตนจะรักษาต้นลิ้นจี่นี้ไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม

ผู้สื่อข่าวรายเพิ่มเติมว่า หลังนายวีระขณะเป็นสามเณร นำเมล็ดผลลิ้นจี่มาปลูกไว้ประมาณ 10 กว่าปีลิ้นจี่ได้เริ่มออกผลผลิต และมีรสชาติอร่อยกว่าสายพันธุ์เดิม หรือเรียกกันว่ากลายพันธุ์ ต่อมาปี 2517 สถานีทดลองพืชสวนนครพนม ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตรจังหวัดนครพนม ได้มาศึกษาวิจัยทำกิ่งตอนและเพาะเนื้อเยื่อจนเป็นสายพันธุ์ลิ้นจี่ชื่อดัง ได้ชื่อใหม่เป็นสายพันธุ์ นพ.1 ที่ให้ผลผลิตลูกดกมีคุณภาพ รสชาติอร่อยและมีการขยายผลออกสู่ชุมชนให้ชาวบ้านปลูกเป็นอาชีพสร้างรายได้มาถึงปัจจุบัน บางครอบครัวมีพื้นที่ปลูกเยอะ สามารถสร้างรายได้ทำเงินปีละนับล้านบาท โดยต้นลิ้นจี่ต้นแรกที่เหลือเพียงต้นเดียวเป็นจุดกำเนิดสายพันธุ์ประจำถิ่น สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมปีละเกือบ 100 ล้านบาทไม่คิดว่าจากเมล็ดลิ้นจี่เพียง 4 เมล็ดนำมาปลูกตามมีตามเกิดจะกลายเป็นพืชผลทางการเกษตรที่สร้างรายได้ให้ชุมชนมหาศาล

ทั้งนี้ ลิ้นจี่บ้านนาโดน ต.ขามเฒ่า ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปีถือเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตลิ้นจี่ เพื่อส่งออกขายสู่ท้องตลาด เยอะสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถ้าทั้งปีไหนอากาศหนาวจัด จะทำให้ลิ้นจี่ออกดอกมากและผลดก การเก็บผลผลิตตกประมาณ 1.5 ตัน หรือ 2 ตัน/ไร่ ส่วนการดูแลถือว่าง่าย ให้น้ำปุ๋ยเหมือนพืชการเกษตรทั่วไป ที่สำคัญพื้นที่บ้านนาโดน มีความได้เปรียบเป็นพื้นที่ดินติดน้ำโขง ทำให้ผลผลิตดี ลูกดก ผลโต และมีรสชาติอร่อยกว่าพื้นที่อื่น สำหรับราคาหน้าสวนซื้อขายราคากิโลกรัมละ 35-45 บาท มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อตลอด ไม่มีปัญหาเรื่องการตลาด

ก่อนหน้าที่จะเกิดโรคโควิดระบาด จะมีพ่อค้าทางประเทศจีนมาเหมาซื้อจากเกษตรกรทุกปี ภายหลังทางการจีนเข้มงวดการนำเข้า มีกระบวนการตรวจสอบหยุมหยิมมากเดิม ทำให้ลิ้นจี่เน่าคาตู้คอนเทรนเนอร์ จึงถูกตีกลับไทยทั้งตู้ ถึงกระนั้นการผลผลติตนำออกขายในประเทศ ยังถือว่าตลาดมีความต้องการลิ้นจี่นครพนมมากพอสมควร เพราะผลผลิตมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เกษตรกรบางรายสร้างรายได้ปีละเป็นล้านบาท ที่สำคัญการปลูกใช้ระยะเวลาสั้นมากแค่ 2 ปี สามารถเก็บผลผลิตได้ และลิ้นจี่ต้นหนึ่งเก็บผลผลิตต่อเนื่องนานมากกว่า 20 ปี ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมาก - 003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • นางงามจักรวาลประทับใจ! กระเป๋าแฟชั่นผ้าคราม ชิมผลไม้ไทยอร่อยยกนิ้ว นางงามจักรวาลประทับใจ! กระเป๋าแฟชั่นผ้าคราม ชิมผลไม้ไทยอร่อยยกนิ้ว
  •  

Breaking News

'ธนกร' จี้ รัฐบาล-เกษตร-พณ. เร่งแก้ราคาปาล์มตกต่ำสุดรอบหลายปี

'สุรเดช' นำทีม พปชร.ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหาราคาน้ำนมดิบตกต่ำ

กมธ.เทคโนโลยีสารสนเทศฯ หารือร่วม อสมท. ถกอนาคตทีวีดิจิทัล ชี้ต้องเร่งปรับตัวแข่งเอกชน

'นายกฯอิ๊งค์' สั่งการ 'อนุทิน' รุดช่วยเหลือน้ำท่วมแม่สาย พร้อมให้ตรวจสอบสารปนปื้นในน้ำด้วย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved