จากกรณีเฟสบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว 2" ได้เผยภาพพิธีกรรมแปลกประหลาดจากสำนักลัทธิแห่งหนึ่งในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยในภาพมีหญิงโกนผม สวมใส่ชุดสีเหลือง ได้นำชาวบ้านมาร่วมปิดทองให้กับรูปปั้นที่มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศหญิง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการขอขมา สะเดาะเคราะห์ จะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์และเสริมบุญบารมี นอกจากนี้ในลัทธิดังกล่าวยังมีรูปปั้นอวัยวะเพศชายอยู่ด้วย โดยให้ผู้ศรัทธาเข้ามาปิดทองเช่นกัน ต่อมาทราบว่าเจ้าของสำนักลัทธิดังกล่าวเป็นหญิงคนหนึ่งที่เคยมีประเด็นเรื่องการดูดวง เปลี่ยนชื่อช่วยเรื่องเสริมมงคล ชีวิตการงานจะดีขึ้นและได้ไปออกรายการโทรทัศน์ ถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดกับพระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร ในขณะนั้นจนเป็นประเด็นมาก่อนแล้ว
ต่อมาหลังตกเป็นข่าวนายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ น.ส.พรณัฐชา บำรุง ปลัดอำเภอปากช่อง ร่วมกับนายพรประดิษฐ์ นันขุนทด กำนันตำบลขนงพระ ประธานกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ปากช่อง และสำนักพระพุทธศาสนาอำเภอปากช่อง เข้าร่วมตรวจสอบสำนักลัทธิดังกล่าวแล้ว พร้อมให้นำป้ายข้อความไม่เหมาะสมออก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้ศาสนาพุทธเสื่อมเสีย แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นสำนักปฏิบัติธรรมตามความเชื่อส่วนบุคคลก็ตาม
วันนี้ (22 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามความคิดเห็นกับทางพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งพระพยอม กล่าวว่า พระพุทธเจ้าไม่ยอมรับในเรื่องเหล่านี้ว่าจะเป็นเหตุทำให้พ้นทุกข์ได้ เรื่องความร่ำรวยเป็นเรื่องความเชื่อขั้นพื้นฐานของคนที่อยากรวย ทำให้คิดไปเองว่า เอาทองไปแปะตรงนั้นตรงนี้แล้วจะรวยขึ้น ถ้าให้เรียกตามสมัยใหม่ก็ต้องเรียกว่า ทัศนะอุจาด เพราะเอาสิ่งที่ปกปิดมาเปิดเผย เอาสิ่งที่คนเขาอำพรางมาเปิดเผย ซึ่งลัทธิพรรค์นี้สมัยก่อนก็เคยมีเกิดขึ้นมาแล้ว
"การที่จะมาอ้างว่าเป็นองค์กำเนิดอะไรนั้นก็ไม่ใช่เพราะเมื่อคนเราเกิดมาแล้วก็กลายเป็นอดีต มั่วแต่ไปยึดติดอยู่กับทางที่เราเกิด แต่ทำไมถึงไม่ยึดติดอยู่กับปัจจุบันในตอนนี้ว่าจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ดีที่สุด ไม่ใช่มั่วแต่ท้าวภูมิหลังอยู่แต่ว่า เกิดมาจากจุดไกน ตรงไหน อะไรทำให้เกิด ซึ่งพระพุทธเจ้าก็สอนไว้แล้วว่า เพราะตัณหาจึงทำให้เกิดไม่ใช่อวัยวะ อวัยวะมีกันทุกคนแต่ถ้าคนที่ทำอุปสมบท อวัยสะเหล่านี้ถึงจะมีก็ไม่ต้องใช้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่อยากตั้งตนเป็นศาสดาเป็นเจ้าลัทธิ จึงสร้างลัทธิขึ้นมา เป็นยุคที่เกลื่อนกลาดศาสดา แต่มาแล้วก็จะเสื่อมลง ดับลงไปเอง" พระพยอม กล่าว
พระพยอม กล่าวอีกว่า หลักของเรามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องไปพึ่งพาไอ้สิ่งที่ปั้นแต่งขึ้นมา ซึ่งคนไทยในสังคมจะมีอยู่ 3 แบบ คือ เห็นด้วยชื่นชอบ ไม่เห็นด้วยคัดค้านและพวกเฉยๆ ไม่สนใจอะไร ลัทธิแบบนี้เกิดขึ้นมาได้สักพักแล้วก็จะเสื่อมดับไปเองเพราะถูกต่อต้าน เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบดูอย่าปล่อยไว้อะไรที่ดูแล้วเป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ อุจาด ลามก ก็ไม่ควรปล่อยไว้ แล้วถ้าคนอยากรวยพระพุทธเจ้าก็สอนเอาไว้แล้วว่า อุ อา กะ สะ ซึ่งเป็นหัวใจเศรษฐีคือ ขยันหา รักษาทรัพย์ดี มีมิตรชี้ขุมทรัพย์ และใช้ชีวิตให้สมดุลกับรายได้ แต่ไม่ใช่การเอาทองไปแปะตรงนั้นตรงนี้แล้วจะรวยขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลย ใช้แต่ความเชื่อนำ โดยไม่สัมปะยุทธ์ด้วยปัญญา เหมือนกับปล่อยให้ศรัทธาเดินนำไปโดดเดี่ยว แต่ปัญญาไม่ตามไปด้วย ก็จะพาเข้ารกเข้าพงแบบนี้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี