อลังการงานวิจิตร ททท.นครพนม จัดไฟแสงสีระยิบตา ฉายภาพประวัติศาสตร์ บนผนังปูนสถาปัตกรรมโบราณ กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว 9 คืน
นครพนม ขณะนี้กำลังเป็นที่ฮือฮาของประชาชน นักท่องเที่ยว ล้วนต่างให้ความสนใจหลังมีการเปิดตัวโครงการส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม (ททท.นครพนม) และจังหวัดนครพนม ในการจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ วิจิตรนครพนม ถือเป็นไฮไลท์สำคัญหนึ่งเดียวของอีสาน
โดยทั้งนี้ จ.นครพนม ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของภาคอีสาน จากทั้งหมด 5 ภาค ในการจัดประดับตกแต่งแสงสี ในสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญของ จ.นครพนม และสถานที่ที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ยุคล่าอาณานิคม บอกกล่าวเล่าเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน เป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยว
นอกจาก ประชาชน นักท่องเที่ยว จะได้ชื่นชมความสวยงามของการใช้เทคโนโลยีแสงสีประดับสถานที่สำคัญ ให้เกิดความสวยงาม ยังได้เซลฟี่ภาพสวยๆเป็นที่ระลึก พร้อมได้มีโอกาสศึกษาความเป็นมาของสถานที่สำคัญ ที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของ จ.นครพนม รวมทั้งหมด 15 จุด โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม-4 มิถุนายน 2566 รวม 9 คืน
มีสถานที่สำคัญ ถือเป็นไฮไลท์สำคัญ ที่บอกกล่าวเล่าเรื่องราว และเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของ จ.นครพนม นอกจาก องค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คพญานาคศักดิ์สิทธิ์ นาคาธิบดีสองฝั่งโขง ที่บอกเล่าเรื่องราวความเชื่อศรัทธาต่อองค์พญานาคสองฝั่งไทยลาว รวมไปถึงโบสถ์คาทอลิก วัดนักบุญอันนา ชุมชนหนองแสง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี อดีตเคยเป็นชุมชนที่พักพิงของชาวลาวและเวียดนาม ในสมัยสงครามอินโดจีน ที่มีประวัติศาสตร์การอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จึงทำให้มีเกิดความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ ศาสนา พร้อมมีการการก่อสร้างศาสนสถานแห่งนี้ขึ้น ราวปี ค.ศ.1926 เป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ด้านหน้าเป็นหอคอยคู่ยอดแหลมสูง
สถานที่สำคัญต่อมา คือ จวนผู้ว่าราชการหลังเก่า ก่อสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2455 เป็นอาคารก่อสร้างโดยฝีมือช่างญวน แบบก่ออิฐถือปูนได้รับอิทธิพลการก่อสร้างจากตะวันตกแบบฝรั่งเศส ในยุคสงครามอินโดจีน และยังเป็นสถานที่สำคัญ เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อม สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จประทับแรม ทอดพระเนตรชมงานประเพณีไหลเรือไฟ เมื่อปี 2498 ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้ศึกษาเยี่ยมชม
นอกจากนี้ยังมี หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯนครพนม หรือหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ แต่เดิมเคยเป็นศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) มาก่อน มีความโดดเด่นที่น่าสนใจ คือ อาคารเก่าแก่สีเหลืองสวยงามที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป ในรูปแบบเรอเนสซอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2458 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ต่อมายุคสงครามล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส เคยถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงข้ามแม่น้ำโขง จนอาคารพรุนทั้งหลัง ภายหลังได้ซ่อมแซมปรับปรุงมาเป็นหอสมุดฯ เป็นแหล่งรวบรวมมรดกทางสติปัญญาของชาติ ที่อยู่ในรูปของหนังสือ สิ่งพิมพ์ โสตทัศนวัสดุ หนังสือภาษาโบราณ หนังสือตัวเขียน จารึก คัมภีร์ใบลาน หนังสือหา ยากที่ผลิตขึ้นในภูมิภาค และหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีของชาวนครพนม กับชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม และเชื้อสายจีน สร้างขึ้นโดยชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม และเพื่อเป็นที่รำลึกก่อนย้ายกลับภูมิลำเนาตามท่านโฮจิมินห์ หลังชนะสงครามเดียนเบียนฟู ยุคสงครามฝรั่งเศส โดยชาวเวียดนามที่ลี้ภัยมาอาศัยในนครพนมได้ร่วมกัน สร้างหอนาฬิกาขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2503 เพื่อระลึกถึงไมตรีจิตของคน ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้รำลึกถึงความเป็นมา
โดยมีการฉายภาพวาดจากปลายพู่กันของ อาจารย์นพพีระ โบศรี นักวาดภาพการ์ตูนล้อเลียนผู้โด่งดัง ที่ฉายบนผนังอาคารหอสมุดฯ และ โบสถ์นักบุญอันนา ทั้งสองอาคารต่างมีอายุเก่าแก่นับร้อยปีตามที่กล่าวข้างต้น ถือเป็นการเล่าเรื่องราวต่างๆในจังหวัดนครพนมจากอดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงคติความเชื่อ ความผูกพัน วัฒนธรรม ประเพณี ลงผนังปูนโบราณ
ด้าน นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนายการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับงานจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว วิจิตรนครพนม ถือเป็นโครงการสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ต้องการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ทั้ง 5 ภาค
“สำหรับ จ.นครพนม ถือว่าโชคดี ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของภาคอีสาน ในการจัดงานขึ้น เน้นการโชว์เทคโนโลยีประดับแสงสี ในสถานที่สำคัญต่างๆ รวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญที่เชื่อมโยงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความเป็นมา รวมถึง ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านจากอดีตถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่สำคัญ ที่เป็นสถาปัตยกรรม เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง อาทิ โบสถ์คาทอลิก วัดนักบุญอันนา ชุมชนหนองแสง หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ จวนผู้ว่าราชการหลังเก่า อาคารศาลจังหวัดนครพนมหลังเก่า หอสมุดแห่งชาติฯ และสถานที่อื่นๆ อีกหลายจุด นอกจากจะสร้างสีสันความสวยงาม ยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของ จ.นครพนม อีกด้วย เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ได้เป็นอย่างดี ฝากประชาชนนักท่องเที่ยวห้ามพลาด งานวิจิตรนครพนม ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 66 โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤษภาคม นี้” นางสาว กนกวรรณ ดุงศรีแก้ว กล่าว