8 มิ.ย. 2566 สืบเนื่องจากเพจ “เพื่อนตำรวจ” ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยการเลื่อนขั้นของตำรวจหญิงรายหนึ่ง จากยศ " ส.ต.ต.หญิง " ใช้เวลา 4 ปีติดยศเป็น " ร.ต.อ. " หลังเข้าอบรมหลักสูตร กอส. จนกลายเป็นประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์ถึงระบบการเลื่อนขั้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักสูตร กอส. ที่ถูกกล่าวถึงมีชื่อเต็มว่า “หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร” ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อ 2.4 ของ “ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 11 การศึกษา การฝึกและอบรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2558” ประกาศ ณ วันที่ 26 พ.ค. 2558 โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในขณะนั้นเป็นผู้ลงนาม
นักเรียนอบรมหลักสูตร กอส. จะใช้คำย่อว่า “นอส.” เป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนหรือชั้นสัญญาบัตรดังต่อไปนี้
2.4.1 ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนผู้มีคุณวุฒิระดับปริญญาหรือประกาศนียบัตร และมีสิทธิได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ซึ่งหมายถึงข้าราชการตำรวจผู้มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ 2.4.1.1 ได้รับอนุญาตให้ลาศึกษาตามระเบียบของทางราชการ 2.4.1.2 ได้รับอนุมัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ไปศึกษาตามระเบียบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด 2.4.1.3 ได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาตามความต้องการของสำนักตำรวจแห่งชาติ 2.4.1.4 ได้รับอนุมัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้ารับการฝึกอบรม
2.4.2 ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนซึ่งบรรจุจากบุคคลภายนอก หรือบรรจุกลับ หรือโอนมา โดยการบรรจุหรือรับโอนในฐานะผู้มีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาหรือประกาศนียบัตร และมีสิทธิได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร
2.4.3 ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรซึ่งบรรจุจากบุคคลภายนอก หรือโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจหรือพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ หรือบรรจุข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจหรือพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ
ข้าราชการตำรวจตาม 2.4.1-2.4.3 หากสำเร็จการศึกษาหรือการฝึกอบรมหลักสูตรพื้นฐานในระดับชั้นสัญญาบัตรหลักสูตรอื่นๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้ว ไม่ต้องเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรนี้อีก
ในข้อ 4.2 ระบุว่า การฝึกอบรมตาม 2.4 ให้โรงเรียนนายร้อยตำรวจประสานงานกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ วัน เวลา และจำนวนผู้เข้ารับการอบรมก่อนถึงกำหนดการฝึกอบรมไม่ต้องกว่า 1 เดือน โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
4.2.1 กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล แจ้งหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งรายชื่อข้าราชการตำรวจผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเข้ารับการฝึกอบรมมายังกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล
4.2.2 กองบัญชาการหรือเทียบเท่า กองบัญชาการหรือเทียบเท่าในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วแต่กรณี เป็นผู้ส่งรายชื่อข้าราชการตำรวจในสังกัดที่จะต้องเข้ารับการฝึกอบรมไปยังกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล พร้อมด้วยเอกสารดังนี้
4.2.2.1 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมตาม 2.4.1 และ 2.4.2 จัดทำบัญชีรายชื่อตามแบบบัญชีหมายเลข 1 ท้ายบทนี้ พร้อมด้วยหลักฐานดังนี้ (1) เอกสารแสดงคุณวุฒิหรือรายละเอียดผลการศึกษาซึ่งสภาการศึกษาของแต่ละสถาบันได้อนุมัติผลการศึกษาแล้ว (2) เอกสารแสดงการตรวจสอบคุณวุฒิตาม (1) ซึ่งสถานศึกษาได้ยืนยันว่าสำเร็จการศึกษาจริง (3) สำเนาคำสั่งบรรจุหรือบรรจุกลับเข้ารับราชการตำรวจ หรือสำเนาคำสั่งโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจ หรือเอกสารแสดงการได้รับอนุญาตให้ลาไปศกึษา หรืออนุมัติให้ไปศึกษาตาม 2.4.1.1-2.4.1.4 อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่กรณี
4.2.2.2 บัญชีรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมตาม 2.4.3 ตามบัญชีหมายเลข 2 ท้ายบทนี้ ในกรณีที่ไม่ส่งข้าราชการตำรวจหรือมีคุณสมบัติเข้ารับการฝึกอบรมให้ระบุเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจน เพื่อเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาอนุมัติเป็นรายๆ ไป
4.2.3 ให้กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล ตรวจสอบหลักฐานตาม 4.2.2 หากจำนวนผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมเกินกว่าจำนวนที่สถานฝึกอบรมกำหนด ให้พิจารณาจัดลำดับผู้ที่จะได้เข้ารับการฝึกอบรมตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
4.2.3.1 ให้พิจารณาผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมตาม 2.4.1 ก่อน ถ้าหากจำนวนผู้ที่จะได้เข้ารับการฝึกอบรมมีจำนวนเกินกว่าที่จำนวนสถานฝึกอบรมจะรับได้ ให้พิจารณาจัดลำดับ ดังนี้ (1) พิจารณาผู้ที่สำเร็จการศึกษาก่อน (2) ถ้าสำเร็จการศึกษาพร้อมกัน ให้ผู้ที่เข้ารับการศึกษาก่อน (3) ถ้าสำเร็จการศึกษาและเข้ารับการศึกษาพร้อมกันให้ผู้ที่มีอายุราชการมากกว่าก่อน (4) ถ้าอายุราชการเท่ากัน ให้ผู้ที่มีอายุตัวมากกว่าก่อน
4.2.3.2 ถ้าสามารถรับผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมได้อีก ให้พิจารณาผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมตาม 2.4.2 หากจำนวนผู้ที่จะได้รับการฝึกอบรมมีจำนวนเกินกว่าจำนวนที่สถานฝึกอบรมจะรับได้ ให้พิจารณาจัดลำดับดังนี้ (1) พิจารณาผู้ที่ได้รับการบรรจุ บรรจุกลับ หรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจก่อน (2) ถ้าได้รับการบรรจุ บรรจุกลับ หรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจพร้อมกัน ให้พิจารณาผู้ที่มารายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่ก่อน (3) ถ้าได้รับการบรรจุ บรรจุกลับ หรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจ และมารายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่พร้อมกัน ให้ผู้ที่มีอายุตัวมากกว่าก่อน
4.2.3.3 ถ้าสามารถรับผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมได้อีก ให้พิจารณาผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมตาม 2.4.3 หากจำนวนผู้ที่จะได้รับการฝึกอบรมมีจำนวนเกินกว่าจำนวนที่สถานฝึกอบรมจะรับได้ ให้พิจารณาจัดลำดับผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมตาม 4.2.3.2 โดยอนุโลม
สำหรับผู้ขอเข้ารับการฝึกอบรมที่มีจำนวนเกินกว่าที่สถานฝึกอบรมจะรับได้ ให้กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล แจ้งหน่วยงานต่างๆ ส่งรายชื่อเข้ารับการฝึกอบรมในรุ่นต่อไป
ในข้อ 10 วรรคสี่ ระบุว่า สำหรับนักเรียนอบรมตาม 2.3 และ 2.4 ที่ไม่สำเร็จการฝึกอบรมให้เข้ารับการฝึอบรมในรุ่นต่อไปซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้ายังไม่สำเร็จการฝึกอบรม ให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของนักเรียนอบรมผู้นั้นรายงานเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งการต่อไป
ข้อ 11 ผู้สำเร็จการฝึกอบรมและสอบได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับประกาศนียบัตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้อำนวยการฝึกอบรมและผู้อำนวยการสถานฝึกอบรมเป็นผู้ลงนามในประกาศนียบัตร ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่จะถึอว่าเป็นผู้สำเร็จการฝึกอบรมจะต้องมีระยะเวลาการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาการฝึกอบรมทั้งหมด ไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 40 คะแนน และสอบได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 60
ขณะที่ หลักสูตรการฝึกอบรมพื้นฐานสำหรับข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2562 ระบุเนื้อหาของหลักสูตร กอส. ไว้ในข้อ 6.4 ว่า หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) ระยะเวลาการฝึกอบรม 17 สัปดาห์ 4 วัน มีโครงสร้ํางหลักสูตรประกอบด้วย ภาควิชาการและการฝึก 16 สัปดาห์ ภาคสนาม 1 สัปดาห์ 4 วัน
6.4.1 ภาควิชาการและการฝึก มีรายวิชา ดังนี้
1) วิชาพื้นฐาน จำนวน 330 ชั่วโมง รายวิชาตาม 1) ในข้อ 6.1.1.1 ดังนี้ 1.กฎหมายตำรวจแห่งชาติ 2.กฎหมํายปกครอง 3.หลักสิทธิมนุษยชนสำหรับตำรวจ 4.หลักการสืบสวนสอบสวน 5.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม 6.การบริหารงานยุติธรรมทางอาญา 7.หลักการบริหารงานตำรวจ 8.หลักการปกครองบังคับบัญชา 9.เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับตำรวจ 10.การฝึกแบบตำรวจ 11.ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเบื้องต้น 12.การยิงปืนขั้นพื้นฐาน 13.การปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิต 14.จริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพตำรวจ 15.การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น 16.จิตวิทยาและการสื่อสาร 17.การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 18.ภาษาอังกฤษสำหรับตำรวจ 19.วิทยาศาสตร์การกีฬาและการดูแลสุขภาพ
2) วิชาเฉพาะ จำนวน 170 ชั่วโมง ประกอบด้วย 1.กฎหมายเบื้องต้นสำหรับตำรวจ 2.กฎหมายอาญาสำหรับตำรวจ 3.กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาสำหรับตำรวจ 4.กฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับตำรวจ 5.ระเบียบการตำารวจไม่เกี่ยวกับคดี 6.งานสารบรรณตำรวจ 7.ฝ่ายอำนวยการตำรวจ 8.การฝึกยุทธวิธีตำารวจ
6.4.2 ภาคสนาม ประกอบด้วย 1) การฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ (หลักสูตร 28 ชั่วโมง) จำนวน 4 วัน 2) การศึกษาดูงานหน่วยงานตำรวจ ระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี