คืบหน้ากรณีหนุ่ม30 ปีแจ้งความพระวัดป่า รุมทำร้ายร่างกายเย็บหลายเข็ม ฝั่งพระโต้มาหนังคนละม้วน หนุ่มมีอาการเพี้ยน เข้ามาอยู่ในวัดกับมารดาซึ่งเป็นแม่ชี เล่นพิเรนทร์หลอกผีพระชีทั้งคืน เดินทั่ววัดกลางคืน
14 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีนายกิตติ อายุ 30 ปี ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น อ้างถูกพระวัดป่าที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ทำร้ายร่างกาย พร้อมกับโชว์บาดแผลที่บริเวณศีรษะมีร่องรอยหัวแตกมีรอยเย็บ 2 เข็ม แขนและด้านหลังมีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย และตามเสื้อก็เปื้อนด้วยเลือด
สอบถามเบื้องต้น นายกิตติ บอกว่าถูกพระวัดป่า 3 รูปรุมใช้ไม้ฟาดตามร่างกาย จากนั้นได้ไปแจ้งความที่ สภ.เพ็ญ และให้หน่วยกู้ภัยมาส่งบ้านแม่ที่ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่ไม่เจอแม่ จึงได้เดินทางมานอนพักที่หน้าสภ.เมืองอุดรธานี
โดยนายกิตติอ้างว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันพระ เวลาประมาณสองทุ่ม ตนเองอยู่ที่วัดป่าฯ แห่งหนึ่งใน อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้จุดเทียนภายในวัดข้างที่นอนในวัดเพื่อจะนั่งสมาธิ ปรากฏว่ามีพระลูกวัด 3 รูปเดินมาหาบอกว่าไม่ให้จุดเทียนและให้กลับไปนอน แต่ตนเองก็ไม่ยอมจนเกิดการทะเลาะกัน พระ 3 รูปได้ใช้ไม้รุมตีที่ศีรษะตนเองจนหัวแตก ต่อมาจึงได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพระ 3 รูปนี้ ตนเองยืนยันจะเอาเรื่องพระ 3 รูปนี้ให้ถึงที่สุด เป็นพระเป็นเจ้าไม่น่าจะทำกันแบบนี้เลย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าแห่งหนึ่งใน อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พระทั้ง 3 รูปก็ออกมายอมรับว่าทำร้ายนายกิตติจริง แต่นายกิตติมีอาการเพี้ยนสร้างความวุ่นวายในวัด ทั้งเดินทั่วทั้งคืน เดินไปหากุฏิแม่ชี เอาผ้าคลุมโปงทำเป็นผีหลอกแม่ชี จุดเทียนไปทั่ววัดอ้างจะทำสมาธิ
มิหนำซ้ำยังไปรื้อชักโครกบอกว่ามีผีอยู่ในชักโครก พระได้ไปเตือนแต่ถูกนายกิตติถือมีดจะทำร้าย จึงป้องกันตัว แถมนายกิตติบอกว่า 'พระตีกู โอกาสนี้มาถึงแล้วกูจะได้เงินหละตอนนี้' นายกิตติเขาขอมาอยู่กับแม่ซึ่งบวชชีที่วัด และทราบว่าหลังประสบอุบัติเหตุตายแล้วฟื้น ทำให้เขามีอาการเพี้ยนไปเลย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับแม่ชีน้อย ซึ่งเป็นแม่ของนายกิตติ เปิดเผยว่า ยอมรับตรงๆ ลูกชายมีอาการเพี้ยนเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากเขาเคยประสบอุบัติเหตุที่ชลบุรีเมื่อหลายปีก่อน ตอนแรกคิดว่าลูกชายตายไปแล้ว แต่เขาก็รักษาจนหายเดินได้ แต่มีอาการทางประสาท ลูกชายไปอยู่วัด ยอมรับสร้างเรื่องวุ่นวายให้พระท่าน จนตนเองต้องหนีมาอีกอำเภอ
สำหรับเรื่องของลูกชายนั้นตนรู้เรื่องแล้ว ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าลูกชายเป็นคนสติไม่สมประกอบ จากนั้นมาก่อความเดือดร้อนสร้างความวุ่นวายให้กับพระสงฆ์ ลูกชายคนนี้จะชอบตามราวีแม่มักจะทำให้แม่อยู่ไม่เป็นสุขปกติลูกชายจะชอบพูดจาไม่รู้เรื่องและสร้างปัญหา
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ตนบวชลูกชายก็เป็นคนปกติทำงานที่ชลบุรี หลังเขาประสบอุบัติเหตุรถ 6 ล้อ ไหลมาทับร่าง อาการสาหัส ที่อำเภอศรีราช ปี 2560 ก็เปลี่ยนไปตอนนั้นได้บนบานกับสิ่งสักสิทธิ์ว่าหาลูกชายหายจะบวช จากนั้นอาการลูกชายก็ดีขึ้น จากนั้นตนก็บวชชีมาไม่สึก ยอมรับลูกชายมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
กรณีเหตุล่าสุดตนในฐานะแม่ ยืนยันว่าการที่เขาไปอยู่วัดอาศัยวัดอยู่และที่เขาทำไปเขาเป็นคนทำผิด” ตอนนี้แม่ไม่สามารถทนพฤติกรรมของลูกคนนี้ได้แล้วและไม่สามารถดูแลลูกคนนี้ได้ซึ่งสุดที่จะเยียวยา
ลูกชายคนนี้เคยพาลูกชายไปรักษาหมดเงินไปก็มากแต่ก็ไม่หาย และมิหนำซ้ำยังมีพฤติกรรมที่เลวร้ายขึ้น ลูกชายคนนี้เคยให้อยู่ในความดูแลศูนย์คนไร้ที่พึ่งแต่เขาก็ไม่อยู่ ตามแม่มาอยู่วัดได้พระอาจารย์ที่วัดก็สอนให้ปฏิบัติ ก็ไม่ปฏิบัติคอยแต่จะก่อกวนพระสงฆ์และแม่ชี
ตอนนี้ความต้องการของแม่คืออยากให้เขาอยู่ในความดูแลของทางภาครัฐ การที่แม่ชีไม่สามารถดูแลลูกชายคนนี้ได้ จำเป็นที่จะต้องทิ้งลูกไว้แบบนี้ทางโลกอาจจะมองว่าตนเองใจดำ แต่ทางธรรมถือปล่อยวางได้แล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี บอกว่า หลังได้รับแจ้งความแล้ว ตำรวจจะได้ลงพื้นที่รวบพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะได้เชิญตัวพระสงฆ์ให้มาปากคำเพิ่ม ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งขอหาอะไรกับพระสงฆ์ทั้ง 3 รูป แต่อย่างใดต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี