ของดีมีคุณภาพ! สองสามีภรรยา ข้าราชการครูบำนาญ ปลูกกระท้อนอินทรีย์ ไร้สารเคมี เพียงแค่ 23 ต้น โดยใช้เนื้อที่หลังบ้าน 3 ไร่ เพื่อเป็นอาชีพรองรับหลังเกษียณ ผลผลิตกลับงดงามด้วยความตั้งใจ ลูกโต หวาน ปุยฝ้ายเยอะ โกยรายได้หลักแสนบาทต่อปี เผยจะทำการห่อผลทุกลูก และคัดคุณภาพ ก่อนส่งจำหน่าย โดยส่งขายทั่วประเทศกิโลกรัมละ 40-70 บาท
ที่สวนกระท้อนสุวรรณศิลป์ ตั้งอยู่เลขที่ 29 หมู่ 2 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสวนของนายไพรัตน์ สุวรรณศิลป์ อายุ 64 ปี นางมยุรา สุวรรณศิลป์ อายุ 61 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นข้าราชการครูบำนาญ โดยได้ริเริ่มทำสวนผสมผสานในที่ดินเนื้อที่แค่เพียง 3 ไร่ เมื่อช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับไว้เป็นอาชีพในชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ โดยได้ปลูกกระท้อนพันธุ์ดีจำนวน 23 ต้น แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ 1.พันธุ์เขียวหวาน ผิวเป็นสีเขียว ผลไม่โตมาก แต่เนื้อข้างในมีความอร่อย ปุยน้อย รสชาติหวานมาก ไม่มีรสเปรี้ยว 2.พันธุ์อีล่า มีผลขนาดปานกลาง ผิวสีเหลือง มีเส้นติดผิว ปุยนุ่มมาก รสชาติหวาน ส่วนเมล็ดหวานอมเปรี้ยวนิดๆ แต่เนื้อนุ่มมาก 3.พันธุ์ทองอุไร ผิวสีเหลืองอร่าม ปุยน้อย รสชาติหวานเย็น ละมุนลิ้น และ 4.พันธุ์ปุยฝ้าย ผิวเหลืองอร่าม ปุยฝ้ายเยอะมาก นุ่ม รสชาติหวาน
นอกจากนี้ภายในสวนยังมีการปลูกผลไม้หลายชนิดอีกด้วย เช่น ทับทิมจันทร์ ลองกอง ขนุน สละ และ จำปาดะ แต่กระท้อนเป็นพืชหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งต้นกระท้อนภายในสวน มีอายุกว่า 10 ปี ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-13 เมตร โดยเจ้าของสวนทำการห่อกระท้อนทุกลูก เพื่อกันแมลง ไม่ให้กัดกินผลผลิต ด้วยวิธีภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นเครื่องมือที่ออกแบบเอง โดยการใช้ถุงพลาสติกห่อ เพื่อจะได้มองเห็นสีของผลกระท้อน เมื่อผลออกมาเป็นสีเหลืองแล้วนั้นแสดงว่า ผลกระท้อนสุกแล้ว สามารถสอยลงมาได้ ซึ่งการสอย ก็จะสอยที่ละช่อ หากสอยแล้วร่วงหล่นลงพื้น ทางเจ้าของจะทิ้งทันที ซึ่งในปีนี้ได้ใช้ถุงพลาสติกห่อไป จำนวน 1 หมื่นลูก เมื่อห่อไปแล้วระยะหนึ่ง ผลจะโตขึ้นน้ำหนักจะเพิ่มมาก ตกอยู่ที่ลูกประมาณลูกละ 400- 700 กรัม จึงต้องมีความจำเป็นนำไม้ไผ่มาค้ำยันไว้ เพื่อไม่ให้กิ่งหักโค่นลงมาได้
ส่วนขั้นตอนเมื่อกระท้อนเริ่มจะสุกก็จะดูว่าที่ผิว โดยผิวจะต้องมีสีเหลือง หากอยู่ที่สูงก็ต้องใช้บันไดขึ้นไปดู ให้แน่ใจว่าผลสุกแล้ว จึงสอยลงมา แต่หากผลเกิดร่วงลงพื้น ก็จะทิ้งไปเลย จะไม่นำมากินหรือจำหน่ายให้กับลูกค้าเด็ดขาด ฉะนั้นกระท้อนที่จำหน่ายออกไป ต้องผ่านการคัดกรองอย่างดี ไม่มีตำหนิ ต้องดีที่สุด จึงแพคลงกล่องส่งไปจำหน่ายตามออเดอร์ ที่สำคัญเมื่อส่งถึงมือผู้รับแล้ว หากเกิดความเสียหาย ที่ไม่ตรงตามที่สั่ง หรือไม่สามารถทานได้ ก็สามารถแจ้งกลับมาได้ โดยที่ทางสวนพร้อมจะเคลม และส่งให้ใหม่ทันที จึงเป็นผลที่สะท้อนกลับมาว่ากระท้อน ที่ทางสวนนำออกจะหน่าย ต้องผ่านการห่อทุกลูก มีคุณภาพจริงๆทุกลูก ก่อนจะส่งถึงมือของลูกค้า
นายไพรัตน์ สุวรรณศิลป์ สามีกล่าวว่า ได้คิดที่จะทำสวนกระท้อน ตั้งแต่ก่อนจะเกษียณอายุราชการ โดยใช้พื้นที่หลังบ้าน โดยหาเวลาว่างจากการสอนหนังสือ เข้ามาดูแล โดยการใช้ปุ๋ยคอก มูลวัว มูลไก่ ตามไปด้วยน้ำหมัก โดยรดเพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ย่อยสลาย ส่วนน้ำหมักก็ทำง่ายๆ โดยใช้อีเอ็มกับกากน้ำตาล โดยไม่ใช้สารเคมี สำหรับการให้น้ำก็ให้ต่อเมื่อกระท้อนเริ่มปริดอก หากฝนตกก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรดน้ำ เมื่อกระท้อนออกผล ขนาดเท่ากับลูกมะนาว ก็เริ่มทำการห่อหุ้มลูกกระท้อนด้วยถุงพลาสติก จนระยะเวลาหลังจากห่อประมาณ 3 เดือน กระท้อน ก็เริ่มจะสุก สามารถเก็บขายได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงที่ทั้งคู่เกษียณอายุราชการแล้ว จึงสามารถเข้ามาดูแลได้อย่างเต็มที่ และขายผลผลิตได้แล้วตั้งแต่ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
โดยเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่ได้ทำอย่างจริงจัง สามารถห่อไปได้ จำนวน 3,000 ลูก รอบนั้นได้ผลผลิตดยอดเงิน ประมาณ 70,000 บาท ซึ่งได้รับมากกว่าตอนที่รับราชการอยูเสียอีก ผ่านมาปีที่ 2 เพิ่มเป็น 4,000 ลูก ยอดเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสน ในช่วงปีที่ 3 ห่อเพิ่มเป็น 6,000 ลูก น้ำหนักเกือบ 2 ตัน เพิ่มยอดเป็น 2 แสนบาท มาในปีนี้ห่อไปประมาณ 10,000 ลูก หักจากลูกร่วงไปแล้วเอาส่วนที่เหลือคงจะได้ประมาณ 1.5 แสนบาท น้ำหนักรวมแล้วอยู่ที่ 2 ตันกว่า
ด้านนางมยุรา สุวรรณศิลป์ ภรรยา กล่าวว่า ในครอบครัวได้วางแผนด้วยกันในเรื่องของราคาจะสูงกว่าตามท้องตลาด เพราะว่ากระท้อนของเรา คัดที่มีคุณภาพจริงๆ จึงเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั่วประเทศ ตอนนี้จัดส่งไปทั่วประเทศ จะมีขนาดตั้งแต่ไซส์ M – XXL เริ่มต้นที่ กิโลกรัม ละ 40 บาท ไซส์ XXL ราคากิโลละ 70 บาท ซึ่งเราก็ไม่หวั่นในเรื่องของราคาเพราะกระท้อนของเรามีคุณภาพจริงๆ หากใครสนใจจะไปเยี่ยมชม สวนกระท้อนสุวรรณศิลป์ ได้ที่เลขที่ 29 หมู่ 2 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หรือจะติดต่อสอบถามทาง Facebook : Mayura Pirat Suwanasin หรือเพจ สวนกระท้อนสุวรรณศิลป์ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 089-592-5416
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี