วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen’) : ความสุข ความสวยงามของชีวิตที่หล่นหาย หรือ ถูกทำให้หล่นหาย

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen’) : ความสุข ความสวยงามของชีวิตที่หล่นหาย หรือ ถูกทำให้หล่นหาย

วันพุธ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : คิดด้วยพลเมือง
  •  

“คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen’)”

คอลัมน์ใหม่ที่ว่าด้วยเรื่อง “พลเมือง” ไม่ใช่แค่ผู้รับคำสั่งหรือดำรงภายใต้การปกครองของรัฐเท่านั้น แต่คือผู้เป็นพลัง/กำลังของบ้านเมือง ประคองให้ประเทศเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาที่ส่งผลให้ประเทศรั้งท้าย ดังนั้น SeeThinkCen จึงย่อมาจากCitizen โดยมีความหมายว่า See - คือการจับตามอง เฝ้าดู เฝ้าระวัง Think - ความคิด ในที่นี้หมายถึงการออกแบบด้วย Cen ที่เอามาจาก Human Centric คือคิดแก้ปัญหาด้วยมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อออกแบบโลกที่อยากเห็น พลเมืองที่อยากเป็น และนี่เป็นบทความแรกสำหรับคอลัมน์นี้ ที่หวังจะได้เห็นพลเมืองชาวไทยใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยจะมีโอกาสได้เสพความสุข ชื่นชมความงามของชีวิต และชวนผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่“คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen’)”


เราอาจจะเคยเห็นการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกผ่านตากันมาบ้าง ปี 2566 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 60 จาก 137 ประเทศ โดยอันดับ 1 ยังคงเป็น ประเทศฟินแลนด์ที่ครองแชมป์มาถึง 6 ปีซ้อน ดัชนีความสุขนั้นวัดด้วยหลักการหลายอย่างแต่ถ้าจะถามว่าเหตุใดฟินแลนด์ครองแชมป์ถึง 6 ปี คงต้องมานั่งดูว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่รัฐบาลให้ความสำคัญ จากที่ผู้เขียนหาข้อมูลมานั้นมีด้วยกันอยู่ 4 ปัจจัยหลักคือ สวัสดิการที่ยอดเยี่ยม ธรรมชาติที่สมบูรณ์ การศึกษาที่ดีที่สุดในโลกและสังคมที่เท่าเทียมกัน นี่เป็นปัจจัยสำคัญของการบริหารจัดการประเทศที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับประชาชน อีกหนึ่งข้อสังเกตที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้นั่นคือฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันที่น้อยมากถือว่าอยู่ในกลุ่มที่น้อยที่สุดในโลกโดยในปี 2565 ดัชนีการรับรู้การทุจริตคอร์รัปชัน(Corruption Perceptions Index: CPI) อยู่อันดับ 2 ด้วยคะแนน 87 คะแนน จาก 180 ประเทศด้วยเหตุนี้ทำให้มีอัตรา GDP ของประเทศสูงและอัตราความไม่เสมอภาคในสังคมก็ต่ำตามไปด้วย รวมถึงภาษีที่แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงกว่าหลายๆ ประเทศแต่รัฐบาลมีการจัดการภาษีที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สวัสดิการที่ประชนทุกคนจะได้รับเป็นไปอย่างเหมาะสมและเท่าเทียมกัน เช่น ประชาชนทุกคนมีสิทธิในการรักษาพยาบาลและได้รับการศึกษาฟรี (ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาโท-เอก) มีระบบขนส่งที่ประสิทธิภาพ แถมยังมีระบบน้ำประปาที่สะอาดที่สุดในโลกอีกด้วย

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นผลกำไรจากการที่ประเทศมีอัตราการทุจริตคอร์รัปชันน้อยที่สุดในโลกคือ สังคมที่เสมอภาค ความสุขที่เท่าเทียม ด้วยรัฐบาลให้ความสำคัญทั้งยังมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมและความเป็นธรรมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค เช่น ความเท่าเทียมทางเพศ การเข้าถึงการศึกษาอันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทั้งด้านบุคคลและสังคมในที่สุด

“แล้วความสุข ความสวยงามในชีวิตของคนไทยอย่างเราล่ะ เราทำหล่นหายเองหรือว่ามันถูกทำให้หล่นหายกันนะ?”

ความจริงที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ว่าประชาชนชาวไทยไม่มีเวลาที่จะค้นหาความสุข ความสวยงามมากขนาดนั้น จาก
สถานการณ์บ้านเมืองที่ชวนให้ขื่นขม ทำให้ออกไปชื่นชม ดื่มด่ำกับความสวยงามของการมีชีวิตบนโลกนี้ไม่ลง สังคมเริ่มอิดโรย ผู้คนหมดไฟและไร้ความหวัง เพราะถูกทำให้เบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตจากรถติด ค่ารถแพง ผู้คนแออัดในสถานที่ เดียวกัน ติดกับดักการไม่พัฒนา จมอยู่กับปัญหาที่แก้ไขไม่ได้เสียที การจะใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีในฐานะมนุษย์คนหนึ่งในประเทศนี้ช่างยากเย็นและกำลังถูกทำให้หล่นหายไปหรือไม่ ต้นต่อใหญ่ของการผลักความสุข ความงดงามให้ทิ้งห่างจากประชาชนแต่ปล่อยให้จมอยู่กับความเหลื่อมล้ำ สังคมที่ไม่เท่าเทียมมาอย่างช้านาน

สาเหตุหลักที่สำคัญ คือ การคอร์รัปชัน ไม่เปิดเผยข้อมูลและขาดการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่รัฐไม่ให้ความสำคัญและมองข้ามสิ่งพื้นฐานที่ประชาชนควรจะได้รับ เราเห็นข่าวมากมายจากการที่ประชาชนเห็นความไม่เหมาะสมและความไม่จำเป็นของการใช้งบประมาณไปกับสิ่งที่รัฐทำ โดยแจ้งเบาะแสผ่านเพจเฟซบุ๊ก (ต้องแฉ, หมาเฝ้าบ้าน) ส่วนหนึ่งในผู้คอยจับตา เฝ้าระวัง ตั้งข้อสงสัยกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นกรณีการติดตั้งเสาไฟกินรีบนถนนรกร้างที่คนไม่ใช้แล้ว การก่อสร้างแลนด์มาร์คเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้งบประมาณไม่เหมาะสมหรือสร้างบนพื้นที่ไม่เหมาะสมบ้าง หรือแม้แต่การพยายามจะช่วยให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้นด้วยการติดตั้งตู้กดน้ำ เครื่องสูบน้ำ เพื่อหวังจะได้ใช้งานแต่กลับพังและใช้งานไม่ได้ การที่รัฐมองข้ามสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ที่เป็นพื้นฐานคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ควรจะได้รับ แต่ดูเหมือนเป็นการโกงคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนหนึ่งเพื่อให้คนอีกกลุ่มหนึ่งเสียมากกว่า คนบางกลุ่มสามารถมีความสุข ชื่นชมความสวยงามของท้องฟ้า อากาศ สายลมได้อย่างไม่ต้องรู้สึกอะไรเพียงเพราะตนไม่เดือดร้อน แต่คนบางคนกลับไม่มีโอกาสจะได้ชื่นชม สัมผัสหรือเสพสุขจากสิ่งรอบตัวเลยด้วยซ้ำ บางคนลุกขึ้นสู้กับอำนาจเพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียง อยากมีโอกาสที่จะได้ลิ้มรสของความสุขนั้นบ้าง จนถึงตรงนี้ก็ยังคงเกิดคำถามขึ้นมาว่า

แล้วทำไมพื้นฐานในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขถึงไม่เท่าเทียมกัน ?

จากข้างต้นผู้เขียนอยากชวนผู้อ่านทุกท่านใช้ความเป็นมนุษย์ของทุกท่านคิดสักดูสักนิดว่าความสุข ความสวยงาม ความเป็นชีวิตของพวกเรานั้นกำลังถูกทำให้หล่นหายไปบ้างหรือเปล่า เรามีห้างสรรพสินค้ามากมายทั่วทุกมุมเมืองที่หาได้ง่ายกว่าสวนสาธารณะ มากกว่าสนามเด็กเล่น มากกว่าอาร์ตแกลเลอรี่หรือแม้แต่สนามกีฬา เรามีรถไฟฟ้าที่ช่วยลดเวลาการเดินทางแต่เราไม่มีเวลาและเงินสำหรับค่าโดยสารที่สูงขึ้นสวนทางกับเงินเดือน เรามีโรงหนังที่ราคาตั๋วแพงขึ้นออกจะแพงเกินไปเมื่อเทียมกับรายได้ไปด้วยซ้ำสิ่งเล็กน้อยที่มักถูกมองข้ามจากการจัดสรรปันส่วนงบประมาณและพื้นที่อย่างไม่คำนึกถึงการใช้ชีวิตของผู้คน การกระจุกตัวของความเจริญ ความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ หลายๆ เรื่องส่งผลให้ประชาชนต้องทิ้งชีวิตที่เคยวาดฝันทิ้งความสุข ทิ้งความสวยงาม เพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอดในสังคมที่ยังไม่มีความเท่าเทียม ท้ายนี้หวังว่าเมื่อความเป็นมนุษย์ในใจมากขึ้น จิตสำนึกร่วมในสังคมมีมากพอ สังคมที่มีความสุขและความสวยงามในชีวิตของประชาชนคงจะไม่มีวันหล่นหายอีกต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ปลุกพลัง ‘กรรมการชุมชนรุ่นใหม่’ Up Skill จัดตั้งกองทุนเสริมความเข้มแข็ง

กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย

หยิ่น–วอร์ เปิดฉากคริสต์มาสแรกของ Central Park กับต้น ‘The Velvet Pine’

สพฉ. ผนึกภาคี จัด ‘CPR on the Beach’ สร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved