คณะทำงาน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำโดย รศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วยนพ.สุรทิน มาลีหวล ผอ.สปสช.เขต 6 ระยอง ลงพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อเยี่ยมชมการพัฒนาการเข้าถึงบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสิทธิสถานะ ภายใต้ “โครงการพัฒนาเครือข่ายการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร” ที่ดำเนินการโดย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา
การลงพื้นที่ครั้งนี้มี พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และทีมสหวิชาชีพ ต้อนรับสรุปภาพรวม ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล สำหรับโครงการพัฒนาเครือข่ายการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร เป็นผลสืบเนื่องจากบันทึกความร่วมมือ(MOU) เมื่อปี 2564 ของ 9 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย(มท.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ สปสช. เพื่อบูรณาการความร่วมมือดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ยังเข้าไม่ถึงบริการในระบบบัตรทอง
โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรเริ่มต้นเข้าร่วมโครงการจากการที่มีเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์เข้ามาปรึกษาถึงปัญหาผู้ป่วยที่มีปัญหาสิทธิสถานะต้องเข้ารับการรักษาและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูง อีกทั้งไม่สามารถเข้าร่วมสิทธิบัตรทองได้ เนื่องจากขาดหลักฐานแสดงตัวตน มีการตรวจยืนยันตัวตนด้วย DNA ครั้งแรกเมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งขณะนั้นต้องมีการพาผู้ป่วยที่มีปัญหาสิทธิสถานะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อเข้ารับการยืนยันตัวตน และพบว่ามีค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการดำเนินการสูง จึงได้มีการปรึกษาหารือร่วมกันถึงวิธีการแก้ปัญหา
“โรงพยาบาลมองว่าการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ไม่เฉพาะแค่การรักษาอย่างเดียว แต่รวมถึงให้กลุ่มนี้ได้เข้าถึงสิทธิอีกด้วย โดยได้ประสานงานกับหลายหน่วยงาน ทั้ง สปสช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อผลักดันให้ได้รับบัตรประชาชนและเข้าถึงสิทธิในการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลนำร่องพิสูจน์อัตลักษณ์สามารถผลักดันให้ผู้มีปัญหาสิทธิสถานะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ตัวตนและได้รับบัตรประชาชนไปแล้ว 61 ราย” พญ.โศรยา กล่าว
ด้าน รศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า สปสช. ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นแห่งแรกที่มีการรับหน้าที่เป็นศูนย์ในการเก็บตัวอย่าง DNA ส่งตรวจ ซึ่งจะเห็นว่าผู้ที่มีปัญหาสิทธิสถานะส่วนใหญ่มักจะเป็นคนยากจนหรือคนที่ด้อยโอกาส ซึ่งแม้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีนโยบายช่วยเหลือและมีโครงการตรวจ DNA โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ที่ผ่านมายังมีอุปสรรคที่ผู้เข้ารับการตรวจ DNA เพราะต้องเดินทางมาตรวจที่กรุงเทพฯ ทำให้หลายรายไม่มีค่าเดินทางเพียงพอ กลายเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในการเข้าถึงบริการ
ดังนั้น การที่มีโรงพยาบาลในพื้นที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจ DNA จึงช่วยลดอุปสรรคเรื่องการเดินทาง อีกทั้งทำให้กระบวนการตรวจ DNA รวดเร็วขึ้น ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการได้บัตรประชาชน และสิทธิการรักษาพยาบาลในระบบบัตรทอง รวมถึงอีกส่วนสำคัญในการดำเนินการในครั้งนี้ คือ เครือข่ายการปกครองและเครือข่ายยุติธรรมประจำจังหวัดที่สนับสนุนเอื้ออำนวยให้บุคคลที่มีปัญหาเหล่านี้สามารถเข้าถึงสิทธิของตนเองได้ ไม่ใช่เพียงสิทธิทางสาธารณสุขอย่างเดียว แต่ยังได้สิทธิสวัสดิการทางสังคมอีกด้วย
“ขอเชิญชวนประชาชนที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนแต่มั่นใจว่าตนเองเป็นคนไทย มาเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งสามารถทำได้โดยการเดินทางไปที่หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ในแต่ละจังหวัด หรือเข้าพบหน่วยงานภาคประชาชนที่เรียกว่าหน่วย 50(5) ที่เป็นหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนอิสระ เพื่อที่จะพาท่านเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ตัวตนต่อไป” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.นาดี มีผู้ที่มีปัญหาสิทธิสถานะที่ถูกตรวจสอบโดยรายที่มีปัญหาและได้รับการแก้ไขปัจจุบันคือ กรณีของ น.ส.หนึ่งลำพอง ที่มีสมาชิกผู้มีปัญหาสิทธิสถานะในครอบครัวจำนวนมากถึง8 ราย ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการเข้าถึงการดูแลรักษาจากระบบสุขภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่ารักษาพยาบาล หรือเรื่องของสิทธิที่ควรได้รับจากรัฐบาล ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมามีการพิสูจน์สิทธิสถานะ โดยใช้วิธีการดูเอกสารหลักฐานต่างๆ
ดังนั้นผู้ที่มีรายชื่อตกหล่นก่อนจะได้สัญชาติไทยต้องมีหลักฐานและต้องมีการทดสอบพยานบุคคล แต่ผู้คนเหล่านี้ส่วนมากมักจะไม่มีพยานหลักฐานจึงทำให้ประสบปัญหาเรื่องเอกสารและไม่มีพยานบุคคล กระทั่งปัจจุบันได้มีการเกิดวิธีการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถช่วยได้มาก และสามารถตรวจสอบได้ง่าย เพราะผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์จะเป็นตัวช่วยยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวคือใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรในครอบครัว
“อย่างไรก็ตาม ในอดีตการที่จะได้เข้ารับการตรวจ DNA จะต้องมีการเดินทางเข้าไปตรวจที่ส่วนกลางหรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงทำให้มีประชาชนไม่สามารถเดินทางเพื่อรับการตรวจ DNA ได้ แต่ปัจจุบันได้มีการตรวจ DNA ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทำให้ประชาชนเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งสามารถลดเวลาในการดำเนินการจากอดีตที่เคยดำเนินการยาวนานประมาณ 1 ปีให้เหลือระยะเวลาเพียง 5-6 เดือน” นายธรรมรัฏฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี