ปั่นตามรอยเพลงดังอมตะ พ่อเมืองนครพนมควงเจ้าแขวงคำม่วน สปป.ลาว ปั่นข้ามโขง เชื่อมสัมพันธ์ไทย-ลาว ไหว้พระธาตุศรีโคดตะบอง
วันที่ 29 ก.ค.66 เมื่อเวลา 05.00 น.บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ ท่านวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวงคำม่วน สปป.ลาว ร่วมเปิดกิจกรรมปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพสองฝั่งโขง (นครพนม-เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ เสมือนบ้านพี่เมืองน้องอยู่ใกล้ชิดกัน มีเพียงแม่น้ำโขงกั้นเป็นพรมแดนเท่านั้น
โดยมีกลุ่มนักปั่นน่องเหล็กทั้งสองประเทศกว่า 500 คน ร่วมปั่นจักรยาน สัมผัสวิวทิวทัศน์อันงดงามของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่มีความสวยงามที่สุด ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรี และกระตุ้นการท่องเที่ยวสองฝั่งโขง สร้างการรับรู้ถึงสถานที่สำคัญที่กระจายอยู่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมอันดีงามในแบบ Slow life ของบ้านใกล้เรือนเคียง รวมถึงเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ วิวทิวทัศน์ในมุมมองที่แตกต่าง เป็นการเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักที่จังหวัดนครพนมแล้วข้ามฝั่งไปเที่ยว สปป.ลาว ได้แบบชิล ๆ ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือจะพักค้างคืนก็ได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องมาลงทะเบียนรายงานตัว เพื่อตรวจสอบเอกสารการข้ามแดนตามระเบียบกฎหมายและขั้นตอนปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม (ตม.) จากนั้นคณะผู้จัดงานทั้งสองฝั่งโขง ก็พาทุกคนปั่นจักรยานข้ามสะพานมิตรภาพฯ แวะด่าน ตม.แขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อตรวจเอกสารอีกครั้ง เรียบร้อยแล้วจึงได้ปั่นไปตามทางริมฝั่งโขง หยุดพักเข้ากราบไหว้ศาลหลักเมือง วัดนาโบสีพัดทะนาลาม ก่อนจะปั่นมุ่งหน้าสู่พระธาตุศรีโคตตะบอง เพื่อกราบไหว้สักการะปูชนียสถานที่สำคัญในราชอาณาจักรลาว
โดยมีเรื่องเล่าไว้ในนิทานอุรังคธาตุ ว่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์พระยาศรีโคตตะบอง กษัตริย์นครศรีโคตตะบุระ เนื่องจากที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ คือ พระกะกุสันโท, พระโกนาคะมะโน, พระกัดสะโบและพระโคตะโม ถือเป็นพระธาตุพี่น้องกับพระธาตุพนม จากนั้นนักปั่นได้ย้อนกลับไปอีกหนึ่งเส้นทางหนึ่ง ผ่านชุมชนชาวท่าแขก ได้เห็นบรรยากาศและวิถีชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรฟูนันและเจนฬะ มีเมืองหลวงชื่อ ศรีโคตรบูร หรือ ศรีโคตรบอง ที่เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าจากต่างเมือง และมีการสร้างบ้านเรือนตามแบบฝรั่งเศสไว้บริเวณท่าแม่น้ำ
นอกจากนี้ ผวจ.นครพนม และ เจ้าแขวงคำม่วน สปป.ลาว ได้ร่วมหารือในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องระหว่างดำเนินกิจกรรม อาทิ ด้านการรักษาความมั่นคง ความร่วมมือด้านการลงทุน การค้าชายแดน การท่องเที่ยว เสริมสร้างความร่วมมือด้านการสาธารณสุข ส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าชายแดน และด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณี
กิจกรรมนี้จังหวัดนครพนมมุ่งหวังให้เกิดการขับเคลื่อนตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย มีวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของประชาชนที่คล้ายคลึงกัน
อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนตามพันธกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” พี่น้องประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอาศัยการบูรณาการความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างประชาชนคนไทยและประชาชน สปป.ลาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างคนในพื้นที่ นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและของทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้นได้
สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการขจัดความยากจน ความเสมอภาคและความเท่าเทียม ความมั่นคงด้านอาหาร การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือด้านความร่วมมือของพันธมิตร (Partnership) ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์การพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนร่วมกับองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ตามบันทึกข้อตกลงสัญญา (MOU) 76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน
ในการปั่นจักรยานข้ามโขงครั้งนี้ ยังถือเป็นการตามรอยเพลงรักข้ามโขง ขับร้องโดย อมร อมาตยกุล มี ครูจำนง เป็นสุข หรือ สรวง สันติ ประพันธ์คำร้อง-ทำนอง เผยแพร่ประมาณปี 2509 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลเวียงจันทน์มีความสัมพันธ์แนบแน่น การไปมาหาสู่ของคนสองประเทศก็ง่ายดาย ทำให้หนุ่มไทยคนหนึ่งมีโอกาสข้ามแม่น้ำโขงที่นครพนม ไปเที่ยวฝั่งลาวที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน และพบสาวลาวที่สวยถูกใจ ทั้งคู่ร่วมสาบานรักกันต่อหน้าพระธาตุศรีโคตตะบอง สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวคำม่วนบูชากราบไหว้ แต่แล้วบุรุษหนุ่มมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับไทย โดยที่หัวใจยังฝากไว้กับสาวลาวคนสวย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้สรวง สันติ แต่งเพลงนี้ขึ้นมา ต่อมาได้กลายเป็นเพลงอมตะสองฝั่งโขงที่ชาวนครพนมและแขวงคำม่วน ขับร้องในงานรื่นเริงต่างๆเสมอ ภายหลังมีนักร้องรุ่นใหม่นำมาบันทึกเสียงใหม่อีกครั้ง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี