วันที่ 4 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านเก่ง คาร์แคร์ เลขที่ 4/81 หมู่ 1 ถนนเทศบาล2 ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบกับ น.ส.อัยย์รีณ นาราภัคชนากุล อายุ 34 ปี เจ้าของคาร์แคร์ และนายณัฐพร จันทร์แก้ว รองนายกเทศบาลตำบลไทรน้อย เพื่อตรวจสอบความเสียหายบริเวณลานจอดรถของคาร์แคร์ดังกล่าว หลังถูกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อวอลโว่ สีขาว ไม่ทราบหมวดจังหวัด บรรทุกเหล็ก ขับหลงเข้ามากลับรถบริเวณดังกล่าวจนทำให้เกิดความเสียหายลานซีเมนต์ด้านหน้าแตก และลานหินคลุกเป็นร่องจากยางรถรถบรรทุกจำนวนมาก ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณร้านคาร์แคร์สามารถบันทึกภาพรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวได้เมื่อเวลา 22.05 น. ขับมาตามถนนเทศบาล 2 มุ่งหน้าที่ว่าการอำเภอไทรน้อย จากนั้นพยายามถอยหลังเพื่อกลับรถตรงทางเข้าคาร์แคร์ โดยถอยหลังเข้าไปเกือบสุดลานจอดรถ เนื่องจากรถคันดังกล่าวมีความยาว ต่อมากล้องตัวที่ 2 จากร้านขายแก๊ส ตรงข้ามคาร์แคร์ยันทึกภาพรถบรรทุกได้เมื่อเวลา 22.02 น.ขับผ่านหน้าร้านไปโดยเปิดสัญญาณไฟกระพริบเพื่อจะกลับรถ โดยมีชาวบ้านที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินของคาร์แคร์เดินออกมาบอกว่าไม่วามารถกลับรถได้ แต่รถบรรทุกก็พยายามที่จะกลับ จนหน้ารถเกือบพุ่งเข้าร้านขายแก๊ส
จากการสอบถาม นายปิยะ พลเยี่ยม อายุ 22 ปี พนักงานร้านแก๊สที่เดินออกมาขณะนั่งเล่นอยู่ที่โต๊ะหิน กล่าวว่า เมื่อคืนตอนเกิดเหตุตนนั่งเล่นกับเพื่อนรุ่นน้องอีก 2 คนที่โต๊ะหินภายในลานจอดรถของคาร์แคร์ จากนั้นได้มีรถบรรทุกพ่วงขับเข้ามาแล้วตะโกนถามว่าถนนเส้นนี้ไปออกหน้าวัดไทรใหญ่ได้หรือไม่ ซึ่งตนตอบว่าออกไม่ได้ต้องหาที่กลับรถ จากนั้นคนขับก็ถอยรถเข้ามากลับในพื้นที่ลานจอดรถของทางร้านทันที แม้ตนจะบอกไปแล้วว่าตรงนี้กลับรถไม่ได้ก็ตาย แต่คนขับก็ยังพยายามขับรถถอยขยับเข้าออกอยู่ตลอดเวลา จนตนต้องบอกให้น้องอีก 2 คนที่นั่งอยู่โต๊ะม้าหินวิ่งหลบไปด้านในคาร์แคร์ เพราะเกรงว่าด้วยความที่รถมันยาวมากจะตีวงไม่พ้นแล้วไปเบียดใส่จนได้รับอันตราย ทำให้ตนต้องไปช่วยโบกรถให้ จนเมื่อรถบรรทุกถอยหลังเข้ามาแล้วด้วยความหนักของสิ่งที่ขนมาด้วยจึงทำให้ลานหินคลุกยุบพังลงเพราะรถมีน้ำหนักมาก หลังจากกลับรถได้จนสำเร็จแล้ว คนขับรถบรรทุกก็ตะโกนบอกขอบคุณแล้วขับออกไปในทันที โดยไม่ได้ลงจากรถมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นเลย
นายณัฐพร จันทร์แก้ว รองนายกเทศบาลตำบลไทรน้อย กล่าวว่า ถนนเส้นนี้คือถนนเทศบาล 2 เป็นถนนเข้าที่ว่าการอำเภอไทรน้อย ซึ่งโดยปกติถนนเส้นนี้จะไม่มีรถขนาดใหญ่เข้ามาอยู่แล้ว แต่ก็มีหลงเข้ามาบ้าง ซึ่งก็จะต้องวนออกไปบริเวณตรงที่ว่าการอำเภอเพราะรถไม่สามารถไปต่อได้อยู่แล้ว เนื่องจากเลยที่ว่าการอำเภอไปเป็นซอยเล็กรถขนาดใหญ่เข้าไม่ได้ ซึ่งรถคนในพื้นที่จะรู้ว่าถนนเส้นนี้รถใหญ่เข้าไม่ได้ แต่รถที่เข้ามาครั้งนี้เจ้าของคาร์แคร์ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถที่มาจาก จ.ระยอง พอคนขับทราบว่าไปไม่ได้ก็ได้ถือวิสาสะกลับรถตรงจุดนี้เลย ซึ่งลานจอดรถคาร์แคร์ไม่สามารถรองรับน้ำหนักรถขนาดใหญ่ได้จนทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมา คาดว่าคนขับรถน่าจะไม่ชำนาญเส้นทางแล้วพึ่งจีพีเอสนำทางจนพลัดหลงเข้ามาในซอยนี้ซึ่งเป็นทางสำหรับรถเล็กใช้สัญจรเท่านั้น
น.ส.อัยย์รีณ นาราภัคชนากุล อายุ 34 ปี เจ้าของคาร์แคร์ กล่าวว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่แฟนของตนตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดทค่ร้านคาร์แคร์ ก็พบว่ามีรถบรรทุกพ่วงขนาดใหญ่พยายามจะถอยรถเข้ามาเพื่อกลับรถ แฟนของตนยังได้ตะโกนแจ้งเตือนผ่านลำโพงจองกล้องวงจรปิดไปเลยว่า อย่าเลี้ยว เข้ามากลับรถในนี้ แต่คนขับรถบรรทุกคงไม่ได้ยิน ยังคงพยายามถอยเข้าออกในพื้นที่ลานจอดรถของร้านตน ตนกับแฟนจึงรีบเดินทางออกมาจากบ้านเพื่อมาตรวจสอบดู ก็บพบกับสภาพที่เห็นคือลานหินคลุกที่บดอัดไว้เละเป็นร่องรอยของล้อรถบรรทุก ขอบพื้นปูนซีเมนต์ที่ราดไว้ก็แตกร้าว เพราะพื้นลานจอดรถตนทำไว้เพียงแค่รองรับน้ำหนักสำหรับรถตู้ทึบ รถกระบะ รถยนต์ และรถ 6 ล้อเล็กที่เข้ามาใช้บริการ สภาพลานจอดรถไม่สามารถใช้งานได้ต้องให้ช่างมาปรับพื้นที่ใหม่และเทปูนตรงจุดที่แตกใหม่ หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนตนได้หมายเลขป้ายรถแล้ว ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปบริษัทต้นทางของรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนก็เตรียมจะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน ในระหว่างที่รอให้ทางคนขับรถหรือบริษัทออกมาแสดงความรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความมักง่าย.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี