แม่เอารองเท้าสตั๊ดใส่โลงลูกชาย ใฝ่ฝันเป็นนักบอลชื่อดัง ครอบครัวทุกข์ยากลำบาก เพื่อนบ้านขนหน่อไม้-มะละกอช่วยงานศพ
13 สิงหาคม 2566 สืบเนื่อง ได้เกิดอุบัติเหตุเด็กนักเรียนชั้นประถม 6 จำนวน 3 คน จมน้ำเสียชีวิตบริเวณฝายน้ำล้นห้วยหนองแซง บ้านใหม่ศรีปทุม หมู่ 10 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับบ้านนาหลวง หมู่ 12 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ทราบว่าชื่อคือ 1. ด.ช.ภูตะวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 11 ปี ชาว ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม 2. ด.ช.ธนเสฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 12 ปี ชาว ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม และ 3. ด.ช. สิงหา (สงวนนามสกุล) หรือน้องตะวัน อายุ 12 ปี ชาว ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม
โดยจากสภาพศพไม่พบบาดแผลตามร่างกาย แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย จึงมอบศพไปบำเพ็ญกุศลที่หมู่บ้านผู้เสียชีวิตของแต่ละคน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2566
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนกัน ถึงแม้จะอยู่คนละหมู่บ้าน แต่รู้จักกันในฐานะที่แต่ละคนชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเหมือนๆกัน จึงมักจะรวมตัวไปแข่งฟุตบอลในพื้นที่ใกล้เคียงเสมอ วันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุดยาว ทีมนักฟุตบอลรุ่นจิ๋วได้รวมตัวได้ 5 คน คือผู้เสียชีวิต 3 คน และเพื่อนอีกสองคน คือ ด.ช. ศรัญ (สงวนนามสกุล) และ ด.ช. ธนเดช (สงวนนามสกุล)
โดยใช้รถจักรยานยนต์คันเดียวซ้อนสาม ไปพบเพื่อนที่รออยู่ที่บ้านใหม่ศรีปทุม หมู่ 10 ต.ขามเฒ่า ปรากฏว่าระหว่างนั้นเด็กสามคน เห็นฝายน้ำล้นห้วยหนองแซงมีน้ำเอ่อล้นออกมาเหมือนสไลด์เดอร์ จึงชวนกันเล่นลื่นไถลอย่างสนุกสนาน แต่หารู้ไม่ว่าฝายดังกล่าวมีขนาดความลึกกว่า 2 เมตร
ประกอบกับน้องทั้งสามว่ายน้ำไม่เป็น จึงเป็นเหตุให้ตัวเองลื่นสไลด์ไปยังจุดที่มีความลึก และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ร่างจึงจมลงก้นอ่างเก็บน้ำ ในขณะที่เพื่อนอีกสองคน ตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนทั้งสาม ก่อนจะมีชาวบ้านละแวกนั้นผ่านมาประสบเหตุ จึงช่วยกันลงไปจมร่างขึ้นมา ในสภาพเสียชีวิตแล้ว
ล่าสุดวันที่ 13 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 บ้านโพนงาม ต.นาทราย ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญศพน้องตะวัน นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม มีเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันหุงหาอาหาร แต่ด้วยฐานะทางบ้านน้องตะวันยากจน เพื่อนบ้านจึงช่วยกันคนไม้ละมือ หาหน่อไม้สดที่มีมากในช่วงนี้ และมะละกอมาสมทบ ช่วยกันปรุงแกงหน่อไม้ และส้มตำ ไว้ต้อนรับแขก
โดยสภาพบ้านสร้างจากอิฐบล็อกชั้นเดียว พื้นทางเดินเฉอะแฉะจากฝนตก หลังคาสังกะสีเพิ่งได้รับการอนุเคราะห์จาก อบต.นาทราย มาเปลี่ยนให้ใหม่ โลงศพน้องตะวันวางอยู่กลางบ้าน มีคุณย่าชื่อนางติ๋ม สมตัว อายุ 67 ปี นั่งไม่ห่างจากบริเวณนั้น พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่าตอนเช้าหลานชายมาขออนุญาตไปเตะบอลกับเพื่อน ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ประจำทุกวันหยุด เพราะหลานชอบกีฬาฟุตบอล ใฝ่ฝันอยากเป็นนักบอลดังในอนาคต โดยจะไปนั่งรอกันที่ศาลาริมถนนใหญ่ ปากทางเข้าหมู่บ้าน แต่ตนมารู้ทีหลังว่าหลานไม่ได้ไปเตะบอลเพราะโปรแกรมถูกยกเลิก จึงชวนกันไปเล่นน้ำกัน หากรู้ว่าจะไปเล่นน้ำตนไม่ให้ไปแน่นอน
นางติ๋มเล่าทั้งน้ำตา ขณะอยู่บ้านเลี้ยงหลานชายวัย 4 ขวบ น้องของน้องตะวัน ก็มี น.ส.ภคพร แพงทรัพย์ หรือฟ้า อายุ 31 ปี แม่ของน้องตะวันวิ่งร้องไห้มาบอก ว่าน้องตะวันจมน้ำเสียชีวิต ตนถึงกับช็อคเป็นลมล้มพับ คาดไม่ถึงว่าหลานชายที่เลี้ยงมาแต่แบเบาะ และรักถนุถนอมมาตลอดต้องถูกพรากจากไป ซึ่งไม่มีลางสังหรณ์อะไรทั้งสิ้น จึงขอให้น้องตะวันไปเป็นนักฟุตบอลบนสวรรค์ ขณะที่นางติ๋มกล่าวก็เอามือไปเคาะโลงศพของน้องให้รับรู้
ด้าน น.ส.ภคพร แพงทรัพย์ มารดาน้องตะวัน เล่าว่า แต่งงานอยู่กินกับนายจตุรงค์ สมตัว หรือโตโต้ อายุ 32 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน คือน้องตะวันและน้องชายวัย 4 ขวบ ด้วยฐานะทางบ้านเร้นแค้น ตนกับสามีก็จะออกรับจ้างทั่วไป รายได้ในแต่ละวันไม่ถึง 300 บาท โดยวันเกิดเหตุหลังตนกินข้าวเที่ยวเสร็จ ก็มีไลน์กลุ่มโรงเรียนเด้งขึ้นมา จึงเปิดอ่านข้อความระบุว่า มีเด็กนักเรียนจมน้ำเสียชีวิต 3 คน หนึ่งในนั้นมีชื่อลูกชายของตนรวมอยู่ด้วย แต่ก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า มันเป็นความจริงไหม แล้ววิ่งร้องไห้โฮไปบอกแม่ย่า
นอกจากนี้ น.ส.ภคพร หรือฟ้า ยังเล่าต่อว่าลูกชายชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ตนจึงเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง เพื่อไปซื้อรองเท้าสตั๊ดให้ลูกชาย หลังเสียชีวิตก็เอาสตั๊ดคู่เก่งใส่โลงไปด้วย ส่วนกระเป๋านักเรียน และเสื้อผ้าที่น้องชอบใส่ ก็จะเผาไปให้ในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.66) และรถจักรยานที่ลูกชอบปั่นไปในหมู่บ้าน ตนจะเก็บไว้ดูต่างหน้า ยอมรับว่าครอบครัวยากจน การต้อนรับแขกคงไม่ดีเท่าที่ควร
“ก่อนหน้านี้ได้คุยกับสามีไว้ ว่า เย็นวันแม่ 12 สิงหาคม จะพาลูกไปกราบขอพรปู่ย่าตายาย ไม่คิดจะต้องมาจัดงานศพลูกชายแทน” น.ส.ภคพรกล่าวพร้อมกับปาดน้ำตาไปด้วย.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี