เกือบไปแล้วลุงวัย 77 ปีครูเกษียนชาวอุดรอยู่บ้านคนเดียว มิจฉาชีพโทรมาแจ้งมีเงินสะสมตกเบิกอยู่ในกรมบัญชีกลางรวม 2 คนตายายกว่าแสนบาท แนะให้เบิกเงินทำตามขั้นตอนในโทรศัพท์ ครูเกษียนหลงเชื่อกำลังกดตามที่มิจฉาชีพเหลือแค่กด "ตกลง" ขั้นตอนสุดท้าย แต่โชคดีลูกสาวทำงานที่พิษณุโลกเปิดกล้องวงจรปิดดูพ่อพอดิบพอดีเอะใจร้องถาม"พ่อทำอะไร" พ่อจึงบอกลูก"เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางพาเบิกเงินสะสมอยู่ลูก" ลูกสาวร้องเสียงหลงตะโกนบอก "วางสายนั่นมิจฉาชีพ" ครูเกษียนตกใจเสียงลูกรีบวางสาย รอดสูญเงิน 2 แสนหวุดหวิด เกือบจะซวยเลยออกซื้อหวยเลขที่บ้าน 44 แก้เคล็ด
วันที่ 29 ส.ค.66 นายสุรพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี อดีตข้าราชการครูในอำเภอกุมภวาปี แต่มีบ้านพักอยู่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากถูกมิจฉาชีพหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลางโทรมาบอกว่า มีเงินสะสมตกเบิกของข้าราชการครูที่เกษียนทั้งของนายสุรพงษ์ และภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วรวมเป็นเงินแสนกว่าบาท มิจฉาชีพบอกว่า ทำไมไม่เบิกเอาเงินมาใช้ ขณะที่หลงเชื่อกำลังกดโทรศัพท์ทำตามขั้นตอนเหลือแค่กดตกลงเท่านั้น บังเอิญลูกสาวที่ทำงานเป็นครูอยู่พิษณุโลกเปิดกล้องมาดูพ่อพอดี จึงสามารถช่วยพ่อเอาไว้ทันหวิดสูญเงินที่อยู่ในบัญชีกว่า 2 แสนบาท
นายสุรพงษ์ อดีตครูเกษียน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนอยู่ที่บ้านคนเดียวนอนเล่นที่โซฟาดูทีวีอยู่ ได้มีโทรศัพท์เข้ามาเป็นเสียงผู้ชาย ถามว่า "นี่เป็นลูกหรือเป็นใครของคุณวัชรี ที่เสียชีวิต ผมก็บอกว่าเป็นสามีครับ ปลายสายก็ตอบว่าอ๊อเป็นสามีหรือ" พร้อมกับบอกว่า "มีเงินสะสมในกรมบัญชีกลางของคุณพ่อและคุณแม่ มีอยู่คนละ 56,000 บาท ยังไม่มาเบิกเอานะ ไม่ต้องให้ลูกหลานลงมา จะโอนให้เลย บอกแค่หมายเลขบัญชีมาแล้วจะโอนเงินให้"
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ที่ตนเชื่อเพราะเขารู้ชื่อตนและภรรยาที่เสียชีวิต แล้วเขาก็แนะนำการกดในโทรศัพท์ ตนก็ทำตามที่เขาบอก เขาก็บอกว่า กด 3 ตัว กด 5 ตัว กดเครื่องบวก กดเครื่องหมายลบ บอกให้กดเยอะมาก จนถึงขั้นตอนสุดท้ายกดตกลง 5 ครั้ง พอกดตกลงครั้งที่ 3 และกำลังจะกดตกลงที่เหลืออีกแค่ 2 ครั้ง
ปรากฏว่าลูกสาวที่เปิดกล้องดูร้องมาถามว่า "คุณพ่อๆๆ ทำอะไร ผมก็บอกว่า เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางจะโอนเงินสะสมมาให้ ลูกสาวร้องว๊ายเลย แล้วบอกว่ารีบวางเลยนั่นมิจฉาชีพ ผมก็รีบวางสาย แต่ก่อนจะวางสายได้ยินเสียงมิจฉาชีพมันลอดออกมาจากโทรศัพท์ว่า เกือบจะสำเร็จแล้วเชียว หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวลูกชายอีกคนก็พาไปเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดทั้งของธนาคารและเงินบำนาญ ดีใจที่รอดมาได้ แต่หากไม่มีลูกสาวเปิดกล้องดู คงสูญเงินในบัญชีที่มีกว่า 2 แสนบาทแน่"
ต่อมานายสุรพงษ์ ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบันและอยู่บ้านคนเดียว พร้อมกับชี้ให้ดูตรงกล้องวงจรปิดที่ลูกสาวซื้อมาติดในบ้านให้พ่อเพราะอยู่คนเดียว โดยนายสรุพงษ์บอกว่า "ลูกสาวจะส่องมาดูทุกช่วงเวลา คือเรื่องนี้ถ้าจังหวะนั้นลูกสาวไม่เปิดกล้องมารับรองเงิน 2 แสนกว่าบาทปลิวแน่ ก็อยากจะฝากเตือนผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่บ้านคนเดียวให้ระวังมิจฉาชีพ มีอะไรให้ปรึกษาลูกเลย หรือถ้าจะให้ดี ให้ลูกหลานติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ หากมีอะไรผิดสังเกตลูกหลานจะได้ทักท้วงทัน ตอนนี้มิจฉาชีพมันเยอะเสียเหลือกัน แต่ที่แน่ๆ ลุงแกเกือบซวย เลยตัดสินใจซื้อหวยเลขที่บ้าน 44 ซะเลย" - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี