ประเพณีผูกข้อมือเรียกขวัญเดือนเก้า หรือ "ไคยจูวหล่าเขาะว์" ของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นประเพณีสำคัญต่อจิตวิญญาณและการดำรงอยู่ของชาวกะเหรี่ยง ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล ซึ่งพิธีจะจัดให้มีขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี
วันนี้ (31 ส.ค.66) ซึ่งตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 ร้อยตรีสุทธิวงศ์ เมฆฉาย ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ และนายทวีป พัฒนมาศ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมส่วนราชการ ผู้นำชุมชนและประชาชนได้ร่วมงานประเพณีผูกข้อมือเรียกขวัญเดือนเก้า หรือ ไคยจูวหล่าเขาะว์ ของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงตำบลไล่โว่
โดยองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ทั้ง 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วยหมู่ที่ 1 บ้านสะเน่พ่อง หมู่ที่ 2 บ้านกองม่องทะ หมู่ที่ 3 บ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ที่ 4 บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ที่ 5 บ้านทิไล่ป้า และหมูที่ 6 บ้านจะแก เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามในพื้นที่ ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง โดยการจัดกิจกรรมจะหมุนเวียนไปตามหมู่บ้านต่างๆสลับกันไปเพื่อให้ครอบคลุม สำหรับปีนี้ได้จัดขึ้นที่บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ที่ 4 ตำบลไล่โว่ อำเภอ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
พิธีในช่วงเช้าจะเริ่มด้วยการไหว้พระรับศีลจากพระภิกษุสงฆ์ ก่อนที่ผู้มาร่วมงานจะร่วมกันทำบุญตักบาตร และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นจึงจะเข้าสู่พิธีผูกข้อมือโดยการอัญเชิญเครื่องประกอบพิธีผูกข้อมือ ด้วยการใช้เด็กชาย-หญิง 7 คู่ ค่อยๆเดินขึ้นวัดเข้าสู่พื้นที่ที่จัดไว้สำหรับประกอบพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญ บรรจงถือกระด้งที่สานจากไม้ไผ่
ภายในบรรจุสิ่งมงคลที่เป็นตัวแทนแห่งความสุขความเจริญรุ่งเรือง ได้แก่ จานไม้ ถาดไม้ (สอนให้ลูกหลานเชื่อฟังพ่อแม่ปู่ย่าตายายหรือผู้นำ), ไม้พายข้าว (อุปกรณ์ทำอาหารใช้เคาะเรียกขวัญ), ด้ายสีขาว ( สื่อถึงความรักใคร่ปรองดอง), ข้าวสุก (สื่อถึงความสามัคคีเป็นกลุ่มก้อน), ข้าวต้มมัด (สื่อถึงความร่วมมือ ไม่แตกแยก), น้ำ (สื่อถึงความร่มเย็น), กล้วย (สื่อถึงความเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน), อ้อย (สื่อถึงสัมพันธไมตรีอันดี) และ ดอกดาวเรือง (สื่อถึงความเจริญเติบโต)
จากนั้นผู้สูงอายุซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่ดำเนินชีวิตบนความดีงาม มีครอบครัวที่ดี (ผัวเดียว-เมียเดียว) เป็นที่ยกย่องจากชาวบ้านจะเป็นผู้ประกอบพิธีเรียกขวัญ ตามด้วยผู้สูงอายุชาย(เจ้าพิธี)จะทำการผูกข้อมือเรียกขวัญให้พระภิกษุที่จำพรรษาในวัดไล่โว่ พร้อมกันนั้นผู้สูงอายุจะเริ่มผูกข้อมือเรียกขวัญให้กันและกันก่อน โดยจะเลือกสิ่งของมลคลทั้ง 5วนรอบเทียนที่ถูกจุดไว้เพื่อให้แสงสว่าง 3 รอบ จุ่มน้ำ 1 ครั้ง ก่อนจะ วางลงในมือ พร้อมนำด้ายขาวที่จัดเตรียมไว้ มาผูกข้อมือ 3 รอบ
โดยเริ่มจากมือขวาต่อด้วยมือซ้าย ระหว่าผูกข้อมือก็จะกล่าวคำเรียกขวัญเป็นภาษากะเหรี่ยงที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า "ปรื้อยหล่า ปรื้อยหล่า" ก่อนจะต่อด้วยการเรียกให้ขวัญกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว กลับมาอยู่กับพ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย กลับมาอยู่กับพี่น้อง อยู่กับเหย้ากับเรือน (จากเดิมทีที่อาจไปหลงอยู่ตามป่าเขา แม่น้ำลำธาร) เมื่อขวัญกลับมาแล้วก็ขอให้ปราศจากทุกข์โศกโรคร้าย พบแต่สิ่งที่ดี มีทรัพย์สินเงินทอง อยู่เย็นเป็นสุข
จากนั้นผู้ประกอบพิธีเรียกขวัญจะรวบมือทั้ง 2 ข้างของผู้เข้าพิธี แล้วนำเศษด้ายที่ตัดแล้วรวมกับข้าวต้มและดอกไม้ จุ่มน้ำลากจากข้อมือขึ้นไปตามแขนก่อนจะนำไปวางไว้บนศรีษะของผู้เข้าพิธี เป็นอันเสร็จพิธี ต่อจากนั้นผู้สูงอายุจะทำการผูกข้อมือเรียกขวัญให้คู่เด็กชาย-หญิง ก่อนจะทำการผูกข้อมือเรียกขวัญให้ผู้ที่มาร่วมพิธีฯจนครบทุกคน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวกะเหรี่ยงมีความเชื่อว่าทุกชีวิตมี “ขวัญ” เป็นส่วนประกอบสำคัญทางจิตวิญญาณ แต่การที่ต้องออกจากบ้านไปไกลเพื่อทำงาน หรือการเข้าป่าทำไร่ หาของป่า การต้องพบเจอเหตุการณ์ที่อาจทำให้ตกใจ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ขวัญที่มีนั้นหายไป เมื่อถึงเวลาในเดือน 9 จึงต้องมีการทำพิธีเพื่อเรียกขวัญให้กลับคืนมา เพื่อให้ขวัญได้กลับคืนมาอยู่กับเจ้าของ ซึ่งจะส่งผลให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความสุขความเจริญในทุกๆด้าน
แต่เดิมพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญฯ จะทำกันภายในครอบครัว หรือในหมู่เครือญาติ แต่ด้วยสภาพสังคมและวิถีชีวิตในปัจจุบันที่หลายคนต้องจากบ้าน บางครั้งจึงไม่สามารถเดินทางกลับไปร่วมพิธีกับครอบครัวที่บ้านได้ จึงได้มีการริเริ่มจัดพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญที่วัด เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางอำนวยความสะดวกกับประชาชนบางกลุ่ม การจัดพิธีฯที่วัด มีข้อดีที่ทำให้ ประชาชนได้มีโอกาสพบปะกันในหมู่เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน และญาติพี่น้อง ทำให้เกิดความรักความสามัคคี และเกิด ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โดยนายทวีป พัฒนมาศ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริม ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม เห็นถึงความสำคัญของประเพณีผูกข้อมือเดือนเก้า(ไคยจูวหล่าเขาะว์)ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขะบุรี ทั้ง3ตำบล(ตำหนองลู ตำบลไล่โว่ และตำบลปรังเผล) ซึ่งเป็น ประเพณีที่ดีงาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ส่งเสริม ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป โดยพร้อมที่จะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการให้การสนับสนุนกิจกรรมดีๆเช่นนี้ เพื่อให้อยู่คู่กับพี่น้องชาวอำเภอสังขละบุรีต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี