ชาวอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร พร้อมการจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน "แชมป์ ชน แชมป์" ณ ลำน้ำยม มีการแข่งขันเรือยาวกลางคืนประกอบ แสง สี เสียง ขณะที่ชาวบ้านจูงควาย วัว และ แพะ ร่วมเป็นรางวัลใหญ่ทำบุญตักไข่ชาละวันกับทางวัดหารายได้จัดงาน

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ที่วัดท่าบัวทอง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร นายปริวัชร วัชรวิภา นายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง และพระครูศรีรัตนวิเชียร เจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง ร่วมกันแถลงความพร้อมการจัดงานแข่งเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ศึก "แชมป์ ชน แชมป์" ประจำปี 2566 ณ ลำน้ำยม หลังศาลสมเด็จพระเจ้าเสือ หน้าวัดท่าบัวทอง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งกำหนดการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 19-25 กันยายน 2566

การจัดงานในปีนี้นับว่ายิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่มีเรือยาวจากภูมิภาคจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขันแล้วกว่า 30 ลำแข่งในช่วงกลางวันและกลางคืนรวมถึงมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินดังทั่วฟ้าเมืองไทย รวมถึงการตักไข่ชาละวันพาโชค ที่มีของรางวัล ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น หม้อหุงข้าว รถจักรยาน และของรางวัลจำนวนมาก 

แต่รางวัลใหญ่ของการตักไข่ชาละวันพาโชคในปีนี้คงจะไม่พ้นรางวัลใหญ่ที่ชาวบ้านจูงควาย หรือกระบือ มาร่วมงานบุญ รวมถึงลูกวัว 1 ตัวกับลูกแพะ 2 ตัวที่ชาวบ้านที่เลี้ยงไว้มาร่วมบุญแทนการ นำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเป็นรางวัลของการตักขาชาละวันพาโชคในครั้งนี้ด้วย

ลุงเบิ้ม เจ้าของควาย กล่าวว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงควายกว่า 10 ตัวเมื่อทางวัดมีการจัดงานจึงอยากร่วมทำบุญกับทางวัดจึงนำควายมาถวายให้เป็นรางวัลของการตักไข่ชาละวันแทนการทำบุญด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า

พระครูศรีรัตนวิเชียร เจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง กล่าวว่า การแข่งขันเรือในปีนี้ทางวัดท่าบัวทอง มีการจัดการแข่งขันทุกปี มีการแข่งขันเรือและการตักไข่ชาละวันในราคาใบละ 20 บาทกับของรางวัลมากมาย เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น หม้อหุงข้าว รถจักรยาน เพื่อนำรายได้ร่วมจัดงานแข่งเรือ แต่ในปีนี้รางวัลใหญ่ ในปีนี้น่าจะเป็น ควาย ที่ชาวบ้านนำมาร่วมบุญ ซึ่งทางวัดเองได้ตั้งกติกาว่า หากมีคนโชคดีตักได้รางวัลใหญ่ที่เป็นควายจะต้องนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพห้ามฆ่าเป็นอาหาร

สำหรับการจัดงานศึก "แชมป์ ชน แชมป์" ประจำปี 2566 จะมีการจัดงาน 7 วันคือตั้งแต่ 19 - 25 กันยายน 2566 ความสนุกสนานเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 - 21 กันยายนเป็นการแข่งขันเรือ 7 ฝีพาย ไฮไลท์คือการแข่งขันเรือในเวลากลางคืนประกอบแสง สี เสียง ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันหนึ่งเดียวในประเทศไทย ส่วนวันที่ 23- 24 กันยายน 2566 เป็นการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯใน 2 ประเภท ได้แก่ 12 และ 30 ฝีพาย ซึ่งมีเรือยาวทั้งจากจังหวัดพิจิตร และ เรือยาวจากภูมิภาคจังหวัดต่างต่าง เข้าร่วมการแข่งขัน ท่ามกลางการตักไข่ชาละวันพาโชค ที่มีรางวัลใหญ่ คือ ควาย เพื่อหารายได้เข้าวัดในการจัดงานในปีนี้ - 003