‘ราชกิจจานุเบกษา’เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน เป็นกรณีพิเศษ หรือ‘ฟรีวีซ่า’ 25 ก.ย.66-29 ก.พ.67
19 กันยายน 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน เป็นกรณีพิเศษ
โดยที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวถดถอย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไปด้วย เมื่อภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหนึ่งที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและเข้าถึงประชาชนในระดับพื้นที่ในภาพรวมได้รวดเร็ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 13 วรรคหนึ่ง (3) (ก) แห่งกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา พ.ศ. 2545 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2566 ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้กำหนดรายชื่อประเทศผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการนกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน ดังนี้
(1) สาธารณรัฐประชาชนจีน
(2) สาธารณรัฐคาซัคสถาน
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2566 จนถึงวันที่ 29 ก.พ.2567
ประกาศ ณ วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี