หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย จ.ตรัง พาชมฝูงค้าวคาวขอบหูขาวเล็ก หรือค้างคาวหน้าหมา ที่มีหน้าตาเหมือนสุนัข ซึ่งปกติจะอาศัยอยู่ในถ้ำ แต่ระยะหลังจะมากัดใบพืชตระกูลปาล์มให้หุบลงเพื่ออาศัยหลบแดดหลบฝน กลายเป็นจุดไฮไลท์ในการเดินชมป่าของนักเรียนและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก
22 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายกอบศักดิ์ เพ็ญนุกูล หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ฯ พาผู้สื่อข่าวไปชมฝูงค้างคาวขอบหูขาวเล็ก หรือค้างคาวหน้าหมา เนื่องจากมีหน้าตาเหมือนหมาหรือเหมือนสุนัขมาก
ซึ่งแต่เดิมมีอยู่จำนวนไม่กี่ตัว บินมาทำรังอยู่ใกล้กับทางเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติภายในสวนพฤกษศาสตร์ฯ ต่อมาค้างคาวหน้าหมาได้ขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น เพราะพื้นที่ป่ากว้างถึง 2,483 ไร่ จึงมีความอุดมสมบูรณ์ มีผลไม้ป่าหลากหลายชนิด และปราศจากการถูกรบกวน ทำให้ค้างคาวหน้าหมาขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
โดยมาอาศัยอยู่ใต้ใบพืชตระกูลปาล์ม เช่น ปาล์มจีบ ปาล์มชวา ปาล์มเจ้าเมืองตรังและปาล์มชนิดอื่น ๆ ใช้วิธีกัดใบปาล์มให้หุบลงคล้ายร่ม เพื่อช่วยในการบังแดดบังฝน ซึ่งแต่ละใบจะพบค้างคาวหน้าหมา 1-6 ตัวในบริเวณใกล้เคียงกัน ทำให้นักเรียนนักศึกษาและนักท่องเที่ยวที่เดินชมป่าสองข้างทาง ไม่พลาดที่จะแวะชมค้างคาวหน้าหมาได้ด้วย แต่หากไม่ใช้ไฟฉายส่อง ก็จะมองเห็นในระยะไกล เพราะค้างคาวตัวเล็ก
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป็นเพราะถ้ำตามธรรมชาติ ถูกมนุษย์รบกวนหรือขาดแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ ทำให้ค้างคาวหน้าหมาเกิดการอพยพย้ายถิ่น แต่ก็ไม่พบอาศัยอยู่ที่อื่น นอกจากใต้ใบปาล์มที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มานานกว่า 3-4 ปีแล้ว ซึ่งข้อดีคือมีต้นไม้นานาชนิดที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ เกิดขึ้นจากมูลค้างคาวที่ถ่ายเอาไว้ใต้โคนต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ฯ ได้เก็บกล้าไม้เหล่านี้ไปเพาะชำต่อ โดยไม่ต้องไปหาจากแหล่งอื่นให้เสียเวลา
ส่วนใครสนใจสามารถเข้าชมฝูงค้างคาวหน้าหมาได้ฟรีทุกวัน ในวันและเวลาราชการ ซึ่งนอกจากจะได้พบกับค้างคาวหน้าหมาแล้ว ยังมีพรรณไม้พื้นถิ่นและไม้เบญจพรรณหลากชนิด และหากโชคดีก็จะได้พบกับนกหายาก พญากระรอกดำและสัตว์อื่นๆ ด้วย
ด้านนายกอบศักดิ์ เพ็ญนุกูล หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย กล่าวว่า จุดไฮไลท์ที่น้องๆ นักเรียนตัวเล็กๆ ชอบคือค้างคาวขอบหูขาวเล็กหรือค้างคาวหน้าหมา ซึ่งจะพบมากในช่วงผลไม้ติดผล เพราะพวกนี้จะกินผลไม้เป็นอาหาร โดยปกติค้างคาวหน้าหมาจะมีอยู่ทั่วไป แต่ในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายจะมาทำรังที่ใบปาล์ม โดยการกัดใบปาล์มให้งุ้มลงเพื่อทำเป็นถ้ำสำหรับการอยู่อาศัย ส่วนข้อดีของค้างคาวกินผลไม้คือสัตว์ที่สร้างป่า คือกินผลไม้แล้วจะถ่ายมูลลงมา ซึ่งเมล็ดไม้ที่ถ่ายมูลลงมาก็จะงอกเติบโตขึ้นในอนาคต
โดยพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์มีทั้งหมด 2,483 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ป่าคือป่าดิบชื้นและป่าพรุ ประโยชน์คือเป็นแหล่งฟอกอากาศที่ดี โดยที่นี่สามารถเก็บกักคาร์บอนได้ถึง 140,000 ตันคาร์บอนเทียบเท่า และปล่อยก๊าซอ๊อกซิเยนออกมาให้เราสูดหายใจถึง 100,000 ตัน ถือว่าเป็นแหล่งฟอกปอดของเมืองตรังเพราะเป็นป่าผืนใหญ่ที่อยู่ใกล้เมือง ส่วนสัตว์ที่หาชมได้ยากและพบเห็นไม่บ่อยนักคือพญากระรอกดำและนกแซงแซวสวรรค์.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี