‘ปัว’คึกคัก!เปิดแล้วเทศกาล‘โลกของกว่าง’นักสู้แห่งขุนเขา
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 กันยายน 2566 ที่สนามข้างสถานีขนส่งรถโดยสารเทศบาลอำเภอปัว จังหวัดน่าน นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานเทศกาล “โลกของกว่าง” นักสู้แห่งขุนเขา ประจำปี 2566
ทั้งนี้ อำเภอปัว ได้จัดขบวนแห่ เพื่อแสดงออกถึงวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของท้องถิ่น ในงานเทศกาลโลกของกว่าง นักสู้แห่งขุนเขา ประจำปี 2566 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาว อ.ปัว และ จ.น่าน อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป
อำเภอปัว ได้ร่วมกับชมรมพ่อค้าอำเภอปัว สภาวัฒนธรรม และผู้ประกอยการผลิตภัณฑ์สินค้า (OTOP) อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จัดนิทรรศการภายในบริเวณงาน และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงองค์การพัฒนาพื้นที่สูงได้นำผลิตภัณฑ์พืชเมืองหนาวไปวางจำหน่ายในราคาถูกให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวในบริเวณงานอีกด้วย งานได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน-8 ตุลาคม 2566
“กว่าง” เป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่ง บางท้องถิ่นเรียกว่า “แมงคาม” เนื่องจากธรรมชาติมันชอบคามกัน (คาม เป็นการต่อสู้ของกว่าง โดยเอาเขาประสานกัน คีบและดันกันไปมา) หรืออาจเนื่องมาจากมักพบแมลงชนิดนี้อาศัยหากินอยู่ตามต้นคาม มีขนาดประมาณเท่าหัวแม่มือหรือโตกว่านั้นเล็กน้อย มีขา 6 ขา มีเขาสองเขา ใช้เป็นอาวุธต่อสู้กันจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้และหลีกทางไป ซึ่งบางครั้งตัวที่มีขนาดเท่าๆกันใช้เวลาในการต่อสู้กันนานหลายชั่วโมง มันจึงได้รับฉายาว่า “นักสู้แห่งขุนเขา”
“กว่าง” มีวงจรชีวิตประมาณ 1 ปี โดยเริ่มจากไข่ ฟักตัวเป็นตัวอ่อนอยู่ในดิน ตามโพรงไม้ ตอไม้ผุๆหรือกองขี้เลื่อย เรียกว่า(แมงกั่นตู่) จากนั้นจะเป็นดักแด้ แล้วลอกคราบเป็นแมลงกว่าง ออกจากดินบินออกมา หาคู่ผสมพันธุ์ วางไข่ในราวเดือน สิงหาคม-พฤศจิกายน แล้วตายไป กว่างตัวผู้จะมีเขาสองเขา 5 เขา โดยใช้เขาล่างงัดและหนีบศัตรูเพื่อแย่งตัวเมียในการผสมพันธุ์ มีหลายขนาด ตัวเล็กเขาสั้นเรียกว่า “กว่างกิ” ตัวปานกลางเขายาวปานกลาง เรียกว่า “กว่างแซม” ตัวใหญ่เขายาวเรียกว่า “กว่างโซ้ง” ส่วนตัวเมียไม่มีเขาเรียกว่าอีโม๊ะ หรืออีหลุ้ม ส่วนอาหารของกว่างตามธรรมชาติได้แก่เปลือกไม้ ยางไม้ที่มีรสหวาน เช่น ต้นคาม ต้นมะค่า เถารกฟ้า ส่วนอาหารที่คนนิยมนำมาเลี้ยงกว่าง เช่น อ้อย กล้วย แตงไทย เป็นต้น
แต่ละวันจัดให้มีการประลองกว่าง ที่ชาวภาคเหนือได้ถือเป็นการเล่น เพื่อผ่อนคลาย เพื่อรอจะเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งเป็นประเพณีอันเก่าแก่ของคนภาคเหนือ อีกทั้งเพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา และดำรงรักษาให้คงอยู่ ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อ.ปัว และ จ.น่าน
สำหรับการเปิดงานเทศกาลโลกของกว่าง “นักสู้แห่งขุนเขา” ประจำปี 2566 ภายในงานได้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ หลากหลายอย่าง อาทิ จัดให้มีการประกวด การละเล่นพื้นบ้านและวิถีชีวิตของชนเผ่า การประลองชนกว่าง การประกวดกว่างสวยงาม การประกวดธิดากว่าง การแสดงนิทรรศการโลกของกว่าง และวงจรชีวิตของกว่าง การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน นำสินค้าออกมาวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ และผลิตภัณฑ์ของชุมชน ผ้าทอมือพื้นเมือง นำมาจำหน่ายในงาน ด้วย โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากโดยในวันที่ 8 ตุลาคม 2566 หลังเสร็จสิ้นงาน จะมีการปล่อยกว่าง กลับคืนสู่ป่า เพื่อเป็นการให้กว่างได้ขยายพันธุ์ต่อไป...........-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี