ในภาวะที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกธุรกิจจำเป็นต้องเร่งฟื้นตัวในปีนี้ เพื่อส่งต่อยอดขายและรายได้ไปยังปี 2567 นับเป็นการดำเนินธุรกิจที่ต้องต่อลมหายใจอย่างเร่งด่วน ดังนั้น ในตลาดธุรกิจศัลยกรรมตกแต่ง และ หัตถการทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าการตลาดมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจศัลยกรรมตกแต่ง และ หัตถการในไทย ต้องเร่งโหมโรมทำการตลาดเพื่อส่งต่อรายได้ยอดขายไปยังปีงบประมาณใหม่ในปี 2566
เจาะตลาดคนรักสวย เงินเดือนมั่นคง
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนที่ผ่านมา ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เซ็นทรัลพัฒนา” ร่วมกับ บริษัท ยันเรือรบ ออร์แกไนซ์เซอร์ จำกัด จัดงาน Beauty Full Fest 2023 ณ BCC HALL ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในวันที่ 21-24 กันยายน 2566 ซึ่งถือเป็นการรวบรวมคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชื่อดังของประเทศไทย ไว้อย่างครบครันที่สุดเป็นครั้งแรกของประเทศไทยมากกว่า 30 ราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรม รวมถึงสร้างตัวตนสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าของคลินิกและโรงพยาบาลได้พบกับกลุ่มลูกค้าหลักโดยตรง ภายในงานได้รวบรวมสถาบันความงามชื่อดังและจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะที่นี่ที่เดียว จึงขอเชิญชวนให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้
รวมทั้งยังทุ่มสุดตัวกับกิจกรรมกระตุ้นตลาดศัลยกรรมไทย ด้วยการนำดาราศิลปินที่วัยรุ่นชื่นมาเป็นไฮไลท์ของงาน อาทิ นุนิว (ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์) แม็ก (กรธัสส์) -ณฐ (ณฐสิชณ์) ทิกเกอร์ Perses
ทั้งนี้ ยังพบว่าตลาดศัลยกรรมตกแต่งในไทยยังมีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา , แคนาดา และ ยุโรป ราว 50-80% และ ยังรักษาคุณภาพไว้ไม่แพ้กลุ่มประเทศที่มีราคาแพง ซึ่งนอกจากค่าเงินที่ต่างกันแล้ว มูลค่าในวิชาชีพของแพทย์ที่ทำศัลยกรรมตกแต่งในประเทศอื่นๆนั้นยังพบว่ามีราคาสูงกว่าในไทยหลายเท่า
ศัลยกรรมไทยจัดอยู่ในท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ติดอันดับ 15 ของโลกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
สถาบันโกลบอลเวลเนสส์ อินสติติวท์ (Global Wellness Institute: GWI) ประเมินว่า ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกมีแนวโน้มเติบโตจาก 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 เป็น 11 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2568 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 20.9% ต่อปีในช่วงปี 2563-2568 สำหรับตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย เมื่อ 3 ปีที่แล้ว หรือ ในปี 2563 ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลกที่มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี
ขณะที่ มูลค่าตลาดเสริมความงามทั่วโลกคาดว่าในปี 2570 จะขึ้นไปแตะระดับ 2.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.14 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 13.9% (CAGR ปี 2563-2570) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 2.5 เท่า ขณะที่ในไทยจะแตะระดับ 7.51 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.48 แสนล้านบาท โตเฉลี่ยปีละ 16.6% (CAGR ปี 2563-2570) เพิ่มจากปี 2563 เกือบ 3 เท่า
ก่อนหน้านี้ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) (MASTER) ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมความงามคาดการณ์ว่า ปี 2566 มูลค่าการตลาดศัลกยกรรมความงามไทยจะมีมูลค่าแตะถึง 40,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 มูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นปีที่สถานการณ์โควิด 19 เริ่มคลี่คลาย
เช่นเดียวกับ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่เสริมความงามโดยศัลยแพทย์เพิ่มขึ้นถึง 19.3% เมื่อปี 2564 โดยเป็นการทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดรวมกว่า 12.8 ล้านครั้ง และศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัด 17.5 ล้านครั้งทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยเองอุตสาหกรรมศัลยกรรมและความงามในปีที่แล้ว คือ ปี 2565 มีมูลค่าการตลาดรวมสูงกว่า 60,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท
ส่วนสถิติผู้ทำศัลยกรรมในไทย ยังพบว่ายังนิยมทำจมูกมากเป็นอันดับหนึ่ง! ตามด้วยการเน้นโปรแกรมดูแลผิวให้ขาวใสยังได้รับความนิยมเช่นกัน
อ้างอิงข้อมูล :-
https://mgronline.com/business/detail/9620000123207
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/marketing/2720705
https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/beauty/556904
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี