18 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวกลุ่มฮามาส ประกาศพร้อมปล่อยตัวผู้ที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอลที่ถูกควบคุมตัวไว้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวประกันที่เป็นแรงงานไทย คือนายมณี จิรชาติ โดยบรรยากาศที่บ้านของนายมณี พบเพียงนางบัวศรี จิรชาติ ผู้เป็นแม่ ยังคงติดตามข่าวรอฟังข่าวลูกชายที่ถูกจับเป็นตัวประกันนาน 11 วันแล้ว โดยมีเพื่อนบ้านเดินทางมาให้กำลังใจและคอยติดตามข่าวไปด้วย
นางบัวศรี จิรชาติ อายุ 50 ปี แม่นายมณี หรือ “ลักกี้” เปิดเผยว่า 11 วันที่ทรมานใจ รอฟังข่าวลูกชายที่ถูกจับเป็นตัวประกัน พอวันนี้ได้ยินข่าวว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกัน เห็นข่าวแว็บแรก บอกตามตรงใจชื้นขึ้นมาเลย ดีใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง ลูกชายจะไม่ตายแล้ว รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันที พอยิ้มได้ ตอนนี้อยากให้รัฐบาลช่วยเจรจาเร่งรัดช่วยตัวประกันออกมาโดยเร็วภายในวันนี้จะยิ่งดี เวลาผ่านมาแล้ว 11 วัน ยังมีความหวังลูกชายยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อและแม่นอนหลับๆตื่นๆ กินข้าวได้บ้างไม่ได้บ้าง หากได้เห็นหน้าลูกน้ำตาตนคงจะไหลออกมาโดยไม่มีคำบรรยาย ตนก็ได้ไปหาที่พึ่งทางใจ ซึ่งทางหมอดูก็บอกว่าลักกี้ลูกชายยังปลอดภัยดี
สำหรับแรงงานไทยชาวอุดรธานี ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน มีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายเกียรติศักดิ์ พาที ชาว อ.พิบูลย์รักษ์ นายมณี จิราชาติ ชาว อ.บ้านดุง นายอนุชา อ่างแก้ว ชาว อ.กุดจับ นายบุญถม พันธ์ฆ้อง ชาว อ.สร้างคอม และนายจักรพันธ์ สีเคนา ชาว อ.ศรีธาตุ
ขณะเดียวกัน นายทิว นครเพ็ญ หนุ่มอุดรธานี ที่ร้องข้ามโลกขอความช่วยเหลืออยากกลับบ้าน ตอนนี้เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่อุดรธานีเรียบร้อยแล้วพร้อมกับเพื่อนแรงงานไทยจำนวน 130 คน ที่เดินทางจากประเทศอิสราเอลกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยหนุ่มทิว นครเพ็ญ เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้โพสต์บอกว่า 'พี่เอ๊ย ถึงเฮาสิบ่รวย กะซ่าง ขอแค่เฮามีชีวิต กลับบ้าน มาหาครอบครัว กะดีล่ะ ค่อยหาทางใหม่'
ส่วนที่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 1 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายทรงวุฒิ ศรีสุนาครัว ปลัดอำเภอหนองหาน พร้อมด้วย พ.ต.สุเมธ คำพิมาน และกำนันผู้ใหญ่บ้าน เดินทางมาให้กำลังใจกับนายจักรี จันทะมาตร หรือ “ต่อ” อายุ 37 ปี หนุ่มอุดรที่เดินทางกลับถึงบ้านเมื่อเช้าวัน 17 ตุลาคม โดยเจ้าตัวยิ้มได้หลังกลับถึงบ้าน หลังไปทำงานอิสราเอลได้ 3 ปี แต่ต้องเจอสมรภูมิสงคราม ขอกลับบ้านก่อน ตั้งหลักพักผ่อนค่อยว่ากันใหม่
นายจักรี เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางไปทำงานเกษตรทางตอนกลางของอิสราเอลได้ 3 ปีแล้ว จุดที่อยู่ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 30 กม. แม้จะไม่รุนแรงเหมือนภาคใต้ แต่เราก็กลัวตายเพราะมีเสียงระเบิดตลอด กลัวจะลามมาถึงที่ทำงานอยู่ จึงขอกลับบ้านมาตั้งหลักก่อน จะกลับไปหรือไม่นั้นค่อยว่าอีกที
ส่วนนายสมป่าน จันทะมาตร อายุ 70 ปี พ่อของนายจักรี บอกว่า หลังมีข่าวสู้รบกัน พ่อและแม่นอนไม่หลับทุกวัน ห่วงลูกชาย นอนก็นอนไม่หลับ ยิ่งคนเป็นแม่บอกให้โทรหาลูกชายเรื่อยๆ พอดูข่าวสักระยะดูท่าสงครามไม่จบง่ายๆ ดูท่าไม่ดี รีบโทรไปหาลูกชายบอกว่ากลับมาบ้านเราก่อนได้ไหม เงินหาใหม่ได้ แต่ถ้าตายทำอะไรไม่ได้ แม้จะไม่ครบสัญญาให้กลับมาก่อน
มาวันนี้เห็นลูกชาย บอกตรงๆ น้ำตาจะไหล พูดกับลูกจนเสียงสั่น ลูกปลอดภัยกลับมา มีลูกชาย 3 คน คนนี้มีลูกชายคนสุดท้าย ดีใจมาก ลูกชายจะกลับไปทำงานที่เดิมหรือไม่นั้น ใจของคนเป็นพ่อก็ไม่อยากให้ไป แต่อย่างไรแล้วก็ขอให้ลูกชายเขาเป็นตัดสินใจเองแล้วกัน ขอขอบคุณทุกหน่วยงานราชการที่เอาใจใส่แรงงานไทยด้วยครับ
'ลูกชายผมฮอดบ้านฮอดช่องแล้ว หัวอกคนเป็นพ่อสุดดีใจ' พ่อกล่าวขอบคุณตอนท้าย.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี