ใหญ่สุดในศรีสะเกษ! ทุ่งดอกไม้เมืองหนาวแลนด์มาร์คใหม่ พร้อมเปิดให้เที่ยว 11 ธันวานี้เป็นต้นไปยาวไปจนถึงเดือนแห่งความรัก 2567
วันที่ 5 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการประกอบกับเป็นฤดูการท่องเที่ยวในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และยาวไปถึงวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีก็จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ เริ่มวางแผนในการพาครอบครัว คู่รัก และกลุ่มเพื่อนออกเดินทางเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าเขา เพื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงสวนดอกไม้ ร้านอาหาร ร้านกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เพื่อไปเช็กอินเป็นจำนวนมาก
เช่นเดียวกับที่ "สวนดอกไม้วนิดา" บริเวณถนนศรีสะเกษ-กันทรารมย์หลักกิโลเมตรที่ 13 พื้นที่บ้านกะบา ต.โพนเขวา (อ่านว่า โพน-เขวา) อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางสายชล โพธิ์พัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของสวนได้เร่งปลูกดอกไม้และตัดเตรียมสถานที่ จุดพักผ่อน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านของฝาก จุดเช็คอิน และจุดถ่ายรูป สำหรับนักท่องเที่ยว บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ที่มีการเนรมิตพื้นที่ เปลี่ยนจากทุ่งนา ออกแบบเป็นสวนดอกไม้ได้อย่างสวยงาม เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
นางสายชล โพธิ์พัฒน์ เจ้าของสวน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนประกอบอาชีพค้าขาย เปิดร้านดอกไม้ในตัวเมืองศรีสะเกษ ต่อมาได้ประสบปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลทำให้ร้านดอกไม้ได้รับผลกระทบยอดขายตก ค้าขายไม่ค่อยดีเหมือนเช่นเคย บางครั้งรับดอกไม้มาขายก็ประสบปัญหาขาดทุน ตนจึงมีแนวคิดที่อยากจะเปลี่ยนพื้นที่นาที่มีอยู่ 50 ไร่ แบ่งมาปลูกสวนดอกไม้จำนวน 30 ไร่ เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ตอนแรกมีแนวคิดแค่ว่าปลูกดอกไม้ไว้ขายเองเพื่อเป็นการลดต้นทุน ไม่ต้องสั่งซื้อดอกไม้มาขาย แต่พอมาปลูกแล้ว กลับเกิดเป็นความรัก จึงมีแนวคิดอยากสร้างให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของ จ.ศรีสะเกษ ไม่ต้องไปเที่ยวไกลถึงภาคเหนือ
โดยตัดสินใจเอาเงินที่ตนเองเก็บสะสมมาทั้งชีวิต 3.5 ล้านบาทและกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส.สาขาศรีสะเกษ อีก 1.5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาทมาลงทุนปรับพื้นที่ ซื้อพันธุ์ดอกไม้มาปลูก ออกแบบร้านกาแฟและมุมถ่ายรูป ซึ่งในปีที่ผ่านมาเป็นปีแรก ตนมีรายได้จากการเก็บค่าเข้าชมสวน ในอัตราผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาทและรายได้จากการขายดอกไม้ ของที่ระลึก และอื่นๆ ประมาณ 2 ล้านบาทจึงนำเงินไปปิดหนี้ที่กู้ยืมมา 1.5 ล้านบาท
ต่อมาปี 2566 นี้ ทาง ธ.ก.ส.สาขาศรีสะเกษ ก็ได้สนับสนุนอนุมัติเงินกู้ให้ตนนำมาลงทุนต่อยอดปรับปรุงสวนให้ยิ่งใหญ่สวยงามกว่าเดิม จำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะมีความสวยงามเป็นพิเศษอย่างแน่นอน ตอนนี้ดอกไม้เริ่มออกดอกแล้ว ประมาณ 60 เปอร์เซ็น คาดว่าจะเต็ม 100 เปอร์เซ็น ในช่วงปีใหม่ แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ไปจนถึงช่วงปลายเดือน ก.พ. 2567 ทั้งนี้รายได้ส่วนหนึ่งตนก็จะนำไปช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ยากจน ยากไร้ อีกด้วย
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สวนดอกไม้แห่งนี้ถือว่าเป็นสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในศรีสะเกษ และมีดอกไม้นานาชนิดให้ชมอย่างสวยงาม และต้องขอชื่นชมเจ้าของสวน ที่นอกจากจะสร้างแลนด์มาร์คใหม่ให้กับชาวศรีสะเกษแล้ว ยังจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเกิดการจ้างงาน เป็นแรงงานจากชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้ชุมชนมีรายได้ เจ้าของสวนมีความมุ่งมั่นที่อยากจะเปลี่ยนแปลง พัฒนา สร้างแหล่งท่องเที่ยวให้กับชาวศรีสะเกษ ไม่ต้องเดินทางไกลไปเที่ยวชมถึงภาคเหนือ และยังใจบุญแบ่งปันช่วยเหลือสังคมอีกด้วย ต้องขอชื่นชมและเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี