คนไทยใจดี? นิยามสู่ปรายทางนิยมของ‘ขอทาน’ แม้เป็นพฤติกรรม‘ผิดกฎหมาย’
คนไทยใจดี...
เรื่องนี้ก็ไม่ใช่การกล่าวอ้างลอยๆ เห็นจากการจัดอันดับ “ดัชนีการให้ (World Giving Index)” ที่รายการกันทุกปี คิดคะแนนจาก 3 ด้าน คือ การบริจาคเงิน การช่วยเหลือคนแปลกหน้า และการใช้เวลาเป็นจิตอาสา ในด้านการบริจาคเงินนั้นไทยแลนด์เฉลี่ยติด “ท็อปไฟว์-ท็อบเท็น” แทบทุกปี นับตั้งแต่การเริ่มรายงานในปี 2554 และบางปีไปถึงตำแหน่ง “แชมป์” ด้านการทำบุญ-ทำทานกันเลยทีเดียว
ล่าสุดรายงาน World Giving Index 2023 พบว่า ในปี 2566 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ไทยอยู่ในอันดับ 10 ด้านการบริจาคเงิน จากทั้งหมด 142 ประเทศ
เพราะแบบนี้หรือเปล่า?
เมืองไทยเลยกลายเป็นหนึ่งใน “จุดหมายปลายทาง” ของเหล่า “ขอทาน” ที่ระยะหลังๆ ไม่ได้พบเฉพาะขอทานชาวไทยท้องถิ่น แต่กลายเป็นชาวต่างชาติ ที่ถูกพูดถึงกันบ่อยๆ คือ มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นที่ร่ำลือกันว่ามีรายได้ต่อวันสูงกว่าคนทำงานงกๆ กินค่าแรงขั้นต่ำเสียด้วยซ้ำไป หรือกรณีที่มี “ชาวจีน” สภาพบาดเจ็บคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย สวมชุดนักศึกษาของไทยมาขอทานในไทย
กระทั่งล่าสุดที่เพิ่งเป็นข่าวคือ “ฝรั่งหัวทอง” ที่ชาวเน็ตแชร์ภาพและคลิปวีดีโอ นั่งริมถนนเขียนป้ายข้อความภาษาไทย “ต้องการเงิน 20 บาท” อ้างว่าเป็นการระดมเงินเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด
อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนกันไว้ว่า “การขอทานถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย” โดยตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ระบุว่า...
“มาตรา 13 ห้ามบุคคลใดทำการขอทาน การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นการขอทาน
(1) การขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความ หรือการแสดงกิริยาอาการใด
(2) การกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้ การแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือการแสดงอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ชมหรือผู้ฟัง การขอเงินหรือทรัพย์สินกันฐานญาติมิตร หรือการเรี่ยไรตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไร ไม่ถือว่าเป็นการขอทานตามพระราชบัญญัตินี้”
“มาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
นอกจากนั้น “หากเป็นผู้ที่แสวงหาประโยชน์จากการขอทาน อัตราโทษจะหนักขึ้น” ดังนี้
มาตรา 22 ผู้ใดแสวงหาประโยชน์จากผู้ทำการขอทานโดยการใช้ จ้าง วาน สนับสนุน ยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใดให้ผู้อื่นทำการขอทาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำดังต่อไปนี้ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) กระทำต่อหญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้เจ็บป่วย
(2) ร่วมกันกระทำหรือกระทำกับบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป
(3) กระทำโดยนำผู้อื่นจากภายนอกราชอาณาจักรให้มาขอทานในราชอาณาจักร
(4) กระทำโดยผู้ปกครองหรือผู้ดูแลของผู้ทำการขอทาน
(5) กระทำโดยพนักงานเจ้าหน้าที่
(6) กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลหรือให้คำปรึกษาบุคคลตาม (1)
ความในวรรคหนึ่งและวรรคสอง (1) (2) และ (4) ไม่ใช้บังคับกับการกระทำระหว่างบุพการีและผู้สืบสันดาน
อนึ่ง หากบุคคลนั้นเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็อาจถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และหากพบการทำเป็นขบวนการ มีการบังคับขู่เข็ญหรือล่าลวง ก็อาจเข้าข่าย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ซึ่งอัตราโทษจะสูงขึ้น
อีกด้านหนึ่ง สำหรับผู้ที่จะแสดงความสามารถ เช่น อย่างที่เรียกว่า “วณิพก” ร้องรำทำเพลงเล่นดนตรี ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ระบุว่า
“มาตรา 14 ผู้ใดประสงค์จะเป็นผู้แสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือ การแสดงอื่นใด ตามมาตรา 13 วรรคสาม ให้ผู้นั้นแจ้งเพื่อเป็นผู้แสดงความสามารถตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด และเมื่อจะแสดงความสามารถในพื้นที่ใด ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้น เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่ได้รับแจ้งแล้ว ให้ออกใบรับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่ประกาศเป็นการทั่วไปเพื่อกำหนดเขตพื้นที่หรือสถานที่ใดอันเป็น ที่สาธารณะ วันเวลา การใช้อุปกรณ์ หรือสิ่งอื่นใด ให้ใช้ในการแสดงความสามารถ ผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่ง พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดหรือเลิกกระทำการดังกล่าวได้”
“วราวุธ ศิลปะอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เคยให้ความเห็นไว้เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 ตอนหนึ่งว่า ปัญหาเรื่องขอทานไม่ยากเลย หากประชาชนที่เดินผ่านไป ผ่านมา ร่วมใจกัน อย่าให้เงินแก่ขอทาน เมื่อเขาไม่ได้เงิน ย่อมไม่เป็นธุรกิจ ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้วการแก้ปัญหาขอทาน ถ้าว่ายาก ถือว่ายาก ปราบปรามเก็บกวาดเท่าไหร่ก็เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ
“การแก้ปัญหาขอทาน คือ ไม่ให้เงินขอทานเท่านั้น เพราะเท่าที่มีข้อมูล ขอทานบางคนมีเงินมากกว่านักศึกษาจบปริญญาตรี ดังนั้นสำคัญที่สุดคือคนไทยเป็นคนใจบุญ แต่เราต้องใจบุญในทางที่ถูกต้องดีกว่า อย่าส่งเสริมในทางที่ผิดกฎหมาย” รมว.พม.กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี