‘ไฟ’โหมเสียง‘ครหา’!? เพลิงไหม้‘หน่วยงานรัฐ เชื้อปะทุความแคลงใจ‘มวยล้ม’คดีใหญ่
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ช่วงนี้คง “ร้อน” กันสักหน่อย เรียกว่ายังไม่ทันได้พักหายใจจากข่าว “ขบวนการตบทรัพย์” ที่มีผู้เกี่ยวข้องทั้ง “นักร้อง (เรียน) คนดัง” ศรีสุวรรณ จรรยา รวมถึงอดีตดาวตลกที่หันไปเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มเสื้อแดงก่อนย้ายค่ายมาซบ “พรรคลุง” รวมไทยสร้างชาติ อย่าง “เจ๋ง ดอกจิก” ยศวริศ ชูกล่อม ถูกตำรวจจับกุมหลังได้รับการร้องเรียนว่าไปข่มขู่เรียกรับเงินจาก ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว และกำลังอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่ายังมีใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมอีกแล้ว
กับกรณี “เพลิงไหม้อาคารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.พ. 2567 บริเวณชั้น 2 ของอาคาร 3 ชั้น โดยเบื้องต้น อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานต้นเพลิงเกิดที่โซนปีกซ้ายของอาคาร ฝั่งห้อง ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นห้องประชุมย่อย ก่อนจะลุกลามไปยังห้องคณะที่ปรึกษาของ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งภายในห้องต้นเพลิงมีเพียงโต๊ะประชุมยาว 1 ตัว เก้าอี้ประมาณ 10 ตัว ส่วนห้องคณะที่ปรึกษาฯ มีโต๊ะทำงาน และเอกสารต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร
แต่แน่นอนเรื่องนี้หนีไม่พ้น “ทฤษฎีสมคบคิด” อันหมายถึงความเชื่อที่ว่า เหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ แต่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลจงใจทำให้เกิดขึ้นเพื่อหวังผลบางอย่าง โดยกรณีไฟไหม้อาคารกระทรวงเกษตรฯ มี “ข่าวลือ” แพร่กันอย่างหนาหูว่า บริเวณที่ถูกเพลิงไหม้ อาจเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ นอกเหนือจากกรมการข้าว ที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ เนื่องจากมีรายงานว่าได้รับความเสียหายจากแก๊งตบทรัพย์เช่นกัน
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปดู “ข่าวเก่าๆ ว่าด้วยเหตุเพลิงไหม้อาคารหน่วยงานของรัฐ” ก็มีเกิดขึ้นหลายครั้ง อาทิ “ไฟไหม้ห้องเก็บเอกสาร สน.วังทองหลาง” เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มี.ค. 2555 ห้องเก็บของกลางหลังห้องผู้ต้องขัง ชั้น 1 บริเวณพัดลมระบายอากาศ มีจุดร่องรอย ไหม้อย่างเห็นได้ชัด โดยมีพื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 10 ตาราง เมตร และของกลางเสียหายจำนวนหนึ่ง ตำรวจต้องอพยพผู้ต้องขังออกไปควบคุมตัวในพื้นที่อื่น และมีผู้ต้องขัง 2 ราย บาดเจ็บจากการสำลักควัน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจเนื่องจาก สน.วังทองหลาง คือท้องที่รับผิดชอบ “คดีปล้นบ้าน สุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม” ในบ้านพักที่ซอยลาดพร้าว 64 เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2554 ทำให้สังคมตั้งข้อคำถามว่าจะส่งผลต่อรูปคดีหรือไม่ โดยในเบื้องต้น พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง (ในขณะนั้น) ยืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้ไม่กระทบรูปคดีอย่างแน่นอน เพราะของกลางคือเงิน 18 ล้านบาท ยังอยู่ครบ และ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. (ในขณะนั้น) ก็ย้ำอีกเสียงว่า ห้องที่ถูกไฟไหม้ไม่ใช่ห้องเก็บสำนวนคดี
คดีปล้นบ้านอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมนั้นสังคมจับตามองอย่างมาก เพราะต่อมาได้ “งอก” กลายเป็น “คดีอดีตปลัดคมนาคมร่ำรวยผิดปกติ” เพิ่มขึ้นอีกคดีหนึ่ง โดยกลุ่มคนร้ายถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และหัวหน้าแก๊งปล้นเพิ่งถูกส่งตัวจาก สปป. ลาว กลับมาดำเนินคดีที่เมืองไทยเมื่อปี 2565 หรือหลบหนีไปนานถึง 11 ปี ขณะที่ สุพจน์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินว่ามีความผิดคดียื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 ต้องบอกว่า “เรื่องแดง” เพราะแก๊งโจรให้การกับตำรวจว่า “เจอเงินเป็นฟ่อนๆ จนขนออกมาหมดไม่ไหว” ในบ้านของอดีตปลัดคมนาคมผู้นี้
“กรมสรรพสามิต” เป็นอีกหน่วยงานที่เจอไฟไหม้ 2 ครั้งในเวลาห่างกันเพียง 2 ปี ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงสามทุ่มของคืนวันที่ 12 พ.ค. 2564 ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสำนักบริหารการคลังและรายได้ อยู่ภายในรั้วกรมสรรพสามิต โดยเพลิงลุกไหม้บริเวณห้องเก็บเอกสารชั้น 4 ของอาคาร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นในวันที่ 5 มิ.ย. 2566 เวลา 10.50 น. ก็เกิดไฟไหม้อีกครั้ง คราวนี้เกิดที่บริเวณอาคารสำนักงาน สูง 6 ชั้น พบไฟไหม้อยู่ที่ชั้น 3 ใกล้กับฝั่งทางขึ้นสำนักบริหารการคลังและรายได้ ใช้เวลา 30 นาทีเพลิงจึงสงบ เบื้องต้นพบห้องเก็บเอกสารเสียหาย 1 ห้อง
ทั้ง 2 ครั้ง ทางกรมสรรพสามิตต้องรีบชี้แจงว่า “ไม่มีเอกสารสำคัญใดๆ ได้รับผลกระทบ” โดยวันที่ 13 พ.ค. 2564 ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต (ในขณะนั้น) กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้วันที่ 12 พ.ค. 2564 สำนักกฎหมายซึ่งเป็นจุดต้นเพลิงเสียหายบางส่วน คิดเป็นร้อยละ 20 ของพื้นที่ชั้น 4 ทั้งหมด ส่วนเอกสารของทางราชการไม่ได้รับ ความเสียหาย เนื่องจากมีการจัดเก็บเอกสารในระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่ในวันที่ 6 มิ.ย. 2566 เกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต (ในขณะนั้น) ชี้แจงว่า กรณีมีการลือกันในโลกออนไลน์ ว่าเหตุเพลิงไหม้วันที่ 5 มิ.ย. 2566 เกิดที่ห้องเก็บเอกสารลับและมีเอกสารได้รับความเสียหาย ว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ความจริงคือบริเวณที่เกิดเหตุเป็นห้องส่วนวางแผนและพัฒนาคุณภาพการบริหารงาน สำนักแผนภาษี ซึ่งรับผิดชอบงานด้านยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต อีกทั้งกรมสรรพสามิตได้ยกระดับการทำงานด้วยการบันทึกเอกสารทั้งหมดไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล เหตุเพลิงไหม้จึงไม่สร้างความเสียหายกับข้อมูล
กลับไปที่เหตุล่าสุดอย่างไฟไหม้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกครั้ง หลังจากนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่า หน่วยงานอื่นที่ว่าตกเป็นเหยื่อ “แก๊งตบทรัพย์” นั้นคือหน่วยงานใด และจะมีใครเอี่ยวเรื่องนี้อีกบ้าง “สังคมกำลังจับตา” คาดหวังว่าจะไม่กลายเป็น “มวยล้มต้มคนดู”!!!
#ทีมข่าวออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี