ชาวบ้าน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ออกหาหอยกันขวาน หรือหอยสันขวาน จากป่าโกงกางหน้าบ้านหลังน้ำลด นำมาทำเมนูอาหารหลายชนิด ให้รสชาติเหมือนกินหอยชักตีนหรือหอยหลักไก่ แต่เนื้อเยอะ เคี้ยวกรุบ ๆ เหมือนกินเอ็นไก่ และหากินได้เฉพาะในป่าโกงกางเท่านั้น ทำคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักกิน
ที่บริเวณป่าโกงกาง บ้านหาดยาว หมู่ที่ 6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นายย่าเหตุ หะหวา อายุ 67 ปี กับหลานชาย เดินข้ามถนนหน้าบ้านไปยังป่าโกงกางที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อเก็บหอยกันขวาน ที่ออกมาหากินหลังน้ำทะเลลดลงต่ำสุด โดยจะพบเกาะอยู่ใกล้กับรากต้นโกงกาง ซึ่งมีรูปร่างลักษณะคล้ายหอยหลักไก่หรือหอยเจดีย์ แต่ตัวใหญ่กว่า 4-5 เท่า และมักจะฝังตัวอยู่ในดินเลนลึกประมาณ 1-2 นิ้ว หากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่เห็น เพราะมีดินโคลนเกาะอยู่เป็นสีเดียวกันกับธรรมชาติ
ทั้งนี้ คนสมัยก่อนนิยมหาหอยกันขวานมากินเป็นอาหาร แต่ปัจจุบันหอยกันขวานกลับขายไม่ได้ราคา เพราะคนรุ่นใหม่ไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่รู้จักกิน เก็บไปขายก็ไม่ได้ราคา อีกทั้งเป็นหอยที่อาศัยอยู่เฉพาะในป่าโกงกางเท่านั้น ชาวบ้านทั่วไปจึงเข้ามาเก็บขายได้ยาก จึงทำให้หอยกันขวานมีกินเฉพาะในครัวเรือนของชาวบ้านในพื้นที่
โดยชาวบ้านไปหามาได้ครั้งละเป็นกระสอบภายในเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนจะนำมาต่อยเปลือกให้แตก เพื่อเอาเนื้อข้างในมาล้างทำความสะอาด และนำไปทำเป็นเมนูอะไรก็อร่อย ทั้งแกงคั่ว แกงกะทิ ผัด ต้ม นึ่ง ลวกจิ้ม เผาและอื่น ๆ ได้สารพัดเมนู หอมคล้ายกับหอยชักตีนหรือหอยหลักไก่ แต่เนื้อเยอะกว่า มีความกรุบ ๆ เหมือนกินเอ็นไก่ หวานมัน กำลังดี ใครได้กินเป็นต้องติดใจแน่นอน
และชาวบ้านยังออกหาหอยกันขวานกินเป็นอาหารตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่มีหอยกันขวานมากที่สุด คือ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยหอยกันขวาน 10 กิโลกรัม เมื่อแกะเนื้อแล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 1.50 กิโลกรัม สามารถนำไปต้ม ก่อนจะเอาไปย่างไฟหรือตากแห้ง เก็บไว้กินได้นานนับเดือนเลยทีเดียว
นายย่าเหตุ หะหวา อายุ 67 ปี กล่าวว่า ชาวบ้านเรียกหอยกันขวานหรือหอยสันขวาน แต่จะเรียกหอยกันขวานมากกว่า ลักษณะคล้ายหอยเปหรือหอยหลักไก่ที่อยู่ชายหาดแต่หอยนี้อยู่ป่าชายเลน ส่วนมากเอามาแกงคั่ว ทำน้ำจิ้มหรือเผาก็ได้ รสชาติคล้ายกับหอยชักตีน ถ้าได้มาเยอะก็เอามาแกะเนื้อเอาไปต้มเสียบไม้แล้วตากแดด สามารถเก็บไว้ได้นาน
ซึ่งหอยกันขวานมีเยอะ แต่ส่วนมากตนจะเอามาไม่เยอะ แค่เอามากินครั้งละ 1 มื้อ ถ้าอยากกินจึงจะไปหา โดยหาได้เยอะที่สุดประมาณ 10 กิโลกรัม แกะเนื้อแล้วได้ประมาณ 1.5 กิโลกรัม ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักหาไม่เหมือนตนสมัยเด็ก ๆ ที่ชอบเรียนรู้ว่าคนแก่ ๆ เขาไปเอามาจากที่ไหน แต่เด็กสมัยใหม่ของกินเยอะทำให้ไม่รู้จัก
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี