วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
อภัยภูเบศรจัดเต็มภูมิปัญญาไทยรับมือโลกร้อน  ในงาน'เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567'

อภัยภูเบศรจัดเต็มภูมิปัญญาไทยรับมือโลกร้อน ในงาน'เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567'

วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567, 13.37 น.
Tag : อภัยภูเบศร เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567
  •  

อภัยภูเบศร จัดเต็ม ภูมิปัญญาไทย รับมือโลกร้อน  ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567” พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำสมุนไพรลดโรคที่มากับความร้อน และแจกสูตรเมนูอาหารคลายร้อนเพียบ พลาดไม่ได้วันนี้ถึงวันที่ 1 เมษายน 2567 

ในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายน  มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 ครั้งที่ 42 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อเตรียมวางแผนท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลแห่งความสุข และเป็นปีแรกที่จะได้เฉลิมฉลองในโอกาสที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียน “สงกรานต์” เป็นมรดกโลก


ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ปีนี้มูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร อยู่ในโซนภาคตะวันออก โดยได้จัดกิจกรรมภายในพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง ที่ได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม ถ่ายภาพ และร่วมกิจกรรมที่เน้นไฮไลท์สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย มีไว้เพื่อรับมือกับโลกร้อน ประกอบด้วย เมนูอาหารที่ให้ร่างกายชุ่มชื้น อาหารต้านอนุมูลอิสระ เมนูอาหารจากดอกไม้ รวมไปถึง หัตถการดูแลสุขภาพในช่วงอากาศร้อน  

 

ดร.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า โรคที่น่ากังวลในช่วงฤดูร้อนคือ “ลมแดด” หรือ “Heatstroke” ที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก จากสถิติกรมการแพทย์พบ 7 ปี มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว 234 คน หรือปีละ 33 คน มากกว่านั้นคือ การสะสมความร้อนในร่างกายที่มากเกินไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาวะการอักเสบเรื้อรังในร่างกายและส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยในอนาคตได้ ดังนั้นการป้องกันด้วยการนำองค์ความรู้ดั้งเดิม กินอยู่อย่างไทย มาใช้ร่วมกับผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จะเป็นทางรอดต่อการดำรงชีวิตในภาวะที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ  และจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ เด็ก ผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ผู้พิการ นักกีฬา หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ คนไร้บ้าน ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง 

เลขาธิการมูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงการป้องกันและจัดการผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน ตามภูมิปัญญาดั้งเดิม ว่า ความร้อนที่สะสมในร่างกาย ทำให้เกิดการสูญเสียระบายความร้อน ส่งผลให้ไฟกำเริบ  กระทบต่อ จิตใจ ทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูงขึ้น กระทบต่อกลไกการควบคุมความร้อนของตับเสียสมดุล อาจมีอาการร้อนในได้ง่ายขึ้น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ นอกจากนี้ยังกระทบต่อสมอง ทำให้เกิดอาการปวดหัวหน้ามืดวิงเวียน สมุนไพรที่จะนำมาส่งเสริมกลไกขับความร้อนของร่างกายให้ทำงานได้ปกติได้แก่ ยาหอมเทพจิตร ดื่มน้ำลอยมะลิ น้ำใบบัวบก น้ำย่านาง น้ำมะพร้าว น้ำตรีผลา ลดอารมณ์ฉุนเฉียว รับประทานอาหารรสขม ยาเขียวหอมในช่วง 10.00 น. หรือ 14.00 น. หลีกเลี่ยงของมันของทอดเพื่อควบคุมความร้อนในตับ และใช้ยาหอมทิพโอสถ กินอาหารที่มีฤทธิ์เย็น พอกยา พอกหน้า ใช้แป้งเย็น สระยาเย็น ยาอาบ ยาแช่ เพื่อลดอาการปวดหัว หน้ามืด และวิงเวียน 

 

นอกจากนี้ ยังใช้อาหารเป็นตัวช่วย  ซึ่ง ดร.สุภาภรณ์ ได้ให้หลักในการนำสมุนไพรในการมาดูแลตัวเองในช่วงที่มีอากาศร้อนว่า อาบน้ำ เช็ดตัวหรือใช้แป้งร่ำ หรือพ่นด้วยสเปรย์รางจืด กินตำรับตรีผลา , กินอาหารรสเย็น เช่น รางจืด ฟักแฟง แตงโมแตงกวา น้ำเต้า หรือใช้เมนูอาหาร ยำดอกแค ซุปฟักข้าว ข้าวแช่น้ำลอยดอกมะลิ เป็นต้น, กินอาหารที่ทำให้ร่างกายชุ่มชื่น เช่น กระเจี๊ยบแดง แตงโม ฟักแฟง ส่วนเมนูที่แนะนำคือ แตงโมหน้าปลาแห้ง สมูทตี้ดับกระหายคลายร้อน ต้มฟักใส่ไก่สับดอกบัวสาย , กินอาหารรสเผ็ดร้อนให้เหงื่อออก จะช่วยระบายความร้อนที่สะสมอยู่ในร่างกาย และยังสามารถเสริมอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรที่ช่วยต้นอนุมูลอิสระลดการอักเสบ เช่น ขิง ขมิ้นชัน มะขามป้อม เป็นต้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบูทของอภัยภูเบศ ยังมีการแนะนำอาหารจากดอกไม้และสมุนไพรเพื่อคลายร้อน พร้อมแจกสูตรฟรี  อาทิ   ยำดอกไม้น้ำปลาหวาน ยำดอกกุหลาบ แกงส้มผักปลัง ข้าวยำปักษ์ใต้ เมี่ยงคำกลีบบัว แกงจืดไข่น้ำดอกเล็บมือนาง ซุปดอกกระเจียว ข้าวแช่น้ำลอยดอกมะลิ ลาบดอกบัว  ฯลฯ 

ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมบูทอภัยภูเบศรได้ในโซนภาคตะวันออก มีจุดสังเกตคือพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำและให้บริการตลอดกิจกรรม โดยงานจะมีไปถึงวันที่ 1 เมษายน 2567

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เปิดภาพ'ทหารเขมร'! แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ลั่นพร้อมรับคำสั่ง'ฮุน มาเนต'

'ฉลามจัส-น้องหญิง'พร้อมแชมป์กีฬามหาลัย 6 สมัย ร่วมปฐมนิเทศน์ ต้อนรับนักศึกษาใหม่ มกธ.

จากแนวหลัง สู่แนวหน้า!! พ่อค้า แม่ค้า ร่วมมอบของกิน-ของใช้แก่ทหารชายแดน

จะได้รู้ใครเป็นใคร? 'อดีตครูวีระ'ยุส่ง'ไทย'ปฏิบัติตามมาตรการ'ตระกูลฮุน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved