วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ปีนี้แพงกว่าเดิม! อากาศร้อน'ทุเรียนนนท์'ติดลูกน้อยลง ยอดจองกับผลผลิตไม่พอขาย

ปีนี้แพงกว่าเดิม! อากาศร้อน'ทุเรียนนนท์'ติดลูกน้อยลง ยอดจองกับผลผลิตไม่พอขาย

วันพฤหัสบดี ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567, 13.31 น.
Tag : ทุเรียนนนท์
  •  

4 เมษายน 2567 ผลกระทบจากสถานการณ์ที่อุณหภูมิความร้อนปกคลุมไปทั้งประเทศ ส่งผลให้ทุเรียนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน จากสภาพอากาศที่ร้อนไวและร้อนนาน ส่งผลทำให้เกสรของต้นทุเรียนนนท์ติดลูกเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากผลผลิตของปีที่แล้ว จึงทำให้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้ราคาพุ่งสูงอีกหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน เนื่องจากยอดคนจองกับผลผลิตที่ออกมาไม่พอขาย


เกี่ยวกับเรื่องนี้นายสำเริง สุนทรแสง เจ้าของสวนทุเรียนยายละมัย/ประธานชมรมอนุรักษ์และฟื้นฟูทุเรียนนนท์ อำเภอเมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ตนเองทำอาชีพชาวสวนทุเรียนนนท์มา 20 ปี ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่วิกฤติของทุเรียนนนท์ก็ว่าได้ จากสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนไวขึ้น ทำให้ชาวสวนทุเรียนได้ผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้นทุเรียนไม่ติดดอกหรือติดดอกแล้วแต่หลุดร่วงง่าย

แม้ว่าชาวสวนทุเรียนจะมีการดูแลบำรุงเหมือนปกติก็ตาม แต่ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งส่งผลกระทบตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา อากาศหนาวมาน้อยเพียงวันสองวันเท่านั้นก็หมดหนาวแล้ว และก็เข้าสู่หน้าร้อนทันที เป็นหน้าร้อนที่มาไว ทำให้ต้นทุเรียนนนท์ติดผลน้อยมาก

ซึ่งสถานการณ์แบบนี้จะทำให้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้พุ่งสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวโดยเฉพาะทุเรียนนนท์พันธุ์ก้านยาวกับหมอนทอง เนื่องจากผลผลิตแต่ละสวนที่ตนได้สำรวจมาออกผลเพียงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผลผลิตของปีที่แล้ว โดยสวนของตนเองผลผลิตทุเรียนนนท์เคยออกมาเมื่อปีที่แล้ว 1,500 ลูก มาปีนี้เหลือเพียง 150 ลูกเท่านั้น

นายสำเริง กล่าวอีกว่า ปีก่อนสวนของตนผลผลิตออกมาประมาณ 1,500 ลูก ได้พันธุ์ก้านยาวมาประมาณ 50 ลูก แต่มาในปีนี้พันธุ์ก้านยาวมีไม่ถึง 10 ลูก พวงมณีปีที่ผ่านมามีประมาณ 600-700 ลูก ปีนี้เหลือไม่ถึง 20 ลูก หมอนทองปีนี้ก็ได้ประมาณไม่ถึง 100 ลูก ถือเป็นปีที่ผลผลิตออกมาน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้าปริมาณผลผลิตมีน้อยมากก็จะทำให้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้แพงสูงขึ้นไปตามความต้องการของตลาดอย่างแน่นอน ต้องถือว่าในปีนี้ใครได้กินทุเรียนนนท์ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะขนาดสวนของตนเองมีคนจองไว้ตั้งแต่ยังไม่ออกลูก แต่เมื่อผลผลิตออกมาน้อยมากแบบนี้ ก็คงต้องเฉลี่ยแบ่งขายกันไป ได้คนละไม่กี่ลูกเท่านั้น

โดยปกติแล้วทุเรียนนนท์จะชอบสภาพอากาศที่มีความชื้นกับร่มเงา และสลับแดดจัดๆในบางครั้ง แต่จากอุณหภูมิความร้อนที่มาไวและนานขึ้น ทำให้ต้นทุเรียนนนท์ไม่ออกดอกและไม่ติดลูกแบบที่เคยเป็น และจากสภาพอุณหภูมิแบบนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงผลไม้ของจังหวัดนนทบุรีชนิดต่าง ๆ อีกด้วย เช่น มะม่วงยายกล่ำ กะท้อนบางกร่าง รวมทั้งมะปรางกับมังคุดอีกด้วย และจากวิกฤติที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบไปถึงชาวสวนทุเรียนนนท์ที่ตั้งใจลงทุนทำสวนทุเรียนนนท์เพื่อหวังจะได้ผลผลิตออกมาขายให้คุ้มค่ากับที่ลงทุนทำสวนมาทั้งปี

แต่เมื่อผลผลิตออกมาเพียงเล็กน้อยแบบนี้ อาจทำให้ชาวสวนทุเรียนนนท์บางรายเกิดความเหนื่อยล้าและท้อถอยที่จะทำสวนทุเรียนนนท์ต่อไปจนถึงขั้นขายสวนทุเรียนไปเป็นหมู่บ้านจัดสรรโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำสวนต่อไป ซึ่งชาวสวนทุเรียนนนท์ในตอนนี้ก็จะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และคาดหวังว่าหากผลผลิตในปีนี้ออกน้อยก็ถือว่าเป็นการพักต้นไป และในปีหน้าผลผลิตทุเรียนนนท์จะกลับมาออกผลผลิตได้เต็มที่เหมือนเดิม

ทางด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ก็กล่าวถึงสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนนนท์ของวัดสวนแก้วที่มีปลูกไว้เช่นกันว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ผลผลิตทุเรียนนนท์ของวัดสวนแก้วเหลือเพียงประมาณ 10-15% เท่านั้น ส่วนอีก 80-90% ที่หายไปเพราะต้นทุเรียนไม่ติดผล เนื่องจากอากาศที่ร้อนเร็ว อากาศหนาวเพียงสั้นๆ ไม่กี่วันก็เปลี่ยนมาเป็นอากาศร้อน ซึ่งต้นทุเรียนต้องการอากาศหนาวที่นานกว่านี้ประมาณสักครึ่งเดือนเพื่อให้ต้นออกเกสร

ตอนนี้ภายในสวนของทางวัดนับทุเรียนที่ติดลูกได้เพียงประมาณ 20 ลูกเท่านั้น จากปีก่อนที่ได้ผลผลิต 200-300 ร้อยลูกต่อฤดูกาล ซึ่งเป็นการหายไปเกินกว่าครึ่งของครึ่งมาก แล้วแบบนี้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้ราคาจะพุ่งไปแตะหมื่นอย่างแน่นอนโดยเฉพาะพันธุ์ก้านยาว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ได้รับผลกระทบเหมือนกันทุกสวนก็คือธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นใครหาทุเรียนนนท์มากินได้ในปีนี้ ต้องถือว่าเป็นวาสนาปากสูงมาก.012

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เริ่มแล้ว!!! การแข่งขันเรือใบ Trat Regatta 2025 ระดับนานาชาติครั้งแรกในจังหวัดตราด

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved