หนึ่งชีวิตก็มีค่า! วัวเพศเมีย อายุประมาณ 3 ปี ติดอยู่ในท่อระบายน้ำภายใน บขส.ตรัง ไม่ต่ำกว่า 10 วัน หมดแรงลุกยืนไม่ได้ สภาพผอมโซเห็นกระดูก เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือชีวิตนานกว่า 2 ชั่วโมงได้สำเร็จ ตั้งชื่อให้ว่า ‘เจ้าบุญรอด’ เบื้องต้นยังไม่มีใครเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาสานำไปดูแลและพยาบาลไว้ให้ชั่วคราว
23 เม.ย.67 ศูนย์วิทยุสื่อสารนางฟ้า งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีวัวติดอยู่ในท่อคูระบายน้ำ ริมถนนภายใน บขส.ตรัง พื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ภายหลังรับแจ้ง จ.อ.ทรงศักดิ์ สงสิงห์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนับ 10 นาย รถดับเพลิง รถตรวจการณ์ พร้อมอุปกรณ์เร่งเข้าตรวจสอบ และให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนจะประสานไปยังสำนักกองช่างเทศบาลนครตรัง เพื่อนำรถกระเช้าเข้ามาสนับสนุนในที่เกิดเหตุอีก 1 คัน
ที่เกิดเหตุ บนทางเท้ามองลอดผ่านตะแกรงเหล็ก และฝาปิดท่อคอนกรีต ลงไปในคูท่อระบายน้ำ พบวัวจำนวน 1 ตัว เพศเมีย สีน้ำตาลดำ อายุโดยประมาณ 3 ปี ยืนแหงนมองเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่เข้ามาช่วยเหลืออยู่ด้านบน ด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย หมดเรี่ยวแรงและอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก ส่วนสภาพร่างกายของวัวตัวดังกล่าวนั้นซูบผอม ท้องแฟบเป็นอย่างมาก โผล่ให้เห็นถึงกระดูกซี่โครง และกระดูกสันหลัง ที่มีผิวหนังหุ้มอยู่อย่างเห็นได้ชัด ส่วนภายในท่อพบมีน้ำขังอยู่ปริ่มๆ และปะปนอยู่กับอุจจาระวัวตัวดังกล่าว เบื้องต้นจากการสันนิษฐานและประเมินคาดว่าน่าจะติดอยู่ภายในท่อระบายน้ำมาแล้วประมาณไม่ต่ำกว่า 10 วัน ประทังชีวิตได้ด้วยเพียงแค่น้ำที่ไหลผ่านและที่ขังอยู่เพียงน้อยนิด
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการงัดฝาท่อระบายน้ำออกมา ก่อนจะใช้เชือกและสายยางคล้องลำตัว ทำให้วัวตัวดังกล่าวที่ยืนอยู่ตื่นตกใจเพียงแค่ 1 ครั้ง ก่อนจะหมดแรงล้มพับอยู่ในคูน้ำโดยทันที ท่ามกลางความลุ้นระทึกและความเป็นห่วงของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่เข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุ ภายหลังจากคล้องลำตัววัวได้สำเร็จ จึงได้นำเชือกและสายยางคล้องกับรถกระเช้าและดึงอยู่มาด้านบน พร้อมกับให้นอนบนพื้นถนน สภาพร่างกายวัวกลับนอนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถลุกยืนหรือขยับตัวได้ มีเพียงแค่ดวงตาที่ยังคงตื่นมองอยู่ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงช่วยกันนำน้ำดื่มป้อนให้กิน ก่อนจะใช้สายยางดับเพลิงฉีดน้ำให้ทั่วร่างกาย เพื่อล้างเศษดินโคลนที่ติดอยู่ พร้อมกับช่วยระบายความร้อน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งได้มีการตั้งชื่อให้กับวัวตัวดังกล่าวว่า “เจ้าบุญรอด”
เบื้องต้น ใช้ระยะเวลาในการช่วยเหลือประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนวัวตัวดังกล่าวยังคงไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์ในการเลี้ยงและดูแลวัว ได้อาสานำวัวตัวดังกล่าวขึ้นรถไปพยาบาลและดูแลให้ในเบื้องต้น ซึ่งหากเจ้าของวัวทราบข่าวและประสงค์ที่จะรับวัวคืนกลับ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์สายด่วน 199 หรือ 075-218777 อย่างไรก็ตามส่วนสาเหตุที่เข้าไปอยู่ภายในท่อระบายน้ำคาดว่าน่าจะเดินเข้ามาจากปลายท่อ แล้วหาทางออกไม่ได้ หรืออาจจะเดินพลัดตกลงมาจากฝาท่อใดฝาท่อหนึ่งที่น่าจะชำรุดทรุดโทรมอยู่
ขณะที่ นายเจตพล สมาธิ อายุ 24 ปี ผู้ช่วยนักประชาสัมพันธ์ อบจ.ตรัง พร้อมกับ นายสัมฤทธิ์ อุ่นแก้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บขส.ตรัง เล่าว่า ทราบว่าวัวติดอยู่ภายในท่อระบายน้ำเนื่องจากมีการโพสต์ขอความช่วยเหลือในโซเซียลมีเดีย จึงได้ออกมาตรวจสอบก็พบว่าอยู่ในสภาพที่อิดโรยมาก จึงติดต่อประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันช่วยเหลือ ความรู้สึกแรกที่สามารถช่วยสำเร็จ รู้สึกดีใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้วัวตัวนี้รอดชีวิตในครั้งนี้
ด้าน จ.อ.ทรงศักดิ์ สงสิงห์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ได้รับการประสานมาทั้งเบอร์มือถือ ช่องทางโซเซียลมีเดียในการขอความช่วยเหลือ ทาง ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครตรัง จึงได้อนุญาตให้ออกมาปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.บ้านโพธิ์ ซึ่งอย่างน้อยๆในวันนี้ก็ได้ช่วยเหลือ 1 ชีวิตเหมือนกัน หลังช่วยเหลือเสร็จวัวก็ยังไม่สามารถลุกยืนได้ ก็คาดว่าน่าจะติดมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร จึงอยากฝากไปยังประชาชนผู้เลี้ยงวัวว่าตอนนี้ไฟป่า ไฟไหม้หญ้าเกิดขึ้นเยอะ วัวอาจจะตกใจวิ่งหนีหรือวิ่งตกท่อ จึงขอให้มีการตรวจสอบดูแลสัตว์เลี้ยงด้วย
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี