29 เม.ย.67 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในกลุ่มระบุว่า "ขออนุญาต Admin ค่ะ ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ระบายความรู้สึกและเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับหลาย ๆ คนที่ลูกหลานชอบเล่นเครื่องเล่นในงานวัด เมื่อคืนลูกชายเกิดอุบัติเหตุ จากการเล่นแทมโบรีน ในงานวัดงานหนึ่ง เจ้าที่ 2 ติดกับกำแพงวัด ลูกเราเป็นเด็กโตนะคะ 14 ปี ไปเล่นแทรมโพลีน แล้วแทมโบรีนสปริงหลุด สปริงตัวนั้นเสียบเข้าตาตุ่มลูกได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตอนนี้ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อรอผ่าตัด เพราะสปริงแทงเข้าไปถึงกระดูก ลูกเรานอนทรมานตั้งแต่ 20:00 น จนถึง 10 โมงเช้า ยังไม่ได้รับการผ่าตัด เราได้มีการเจรจากับเจ้าของเครื่องเล่นนี้
โดยเราเรียกเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ซึ่งได้มีการต่อรอง เราขอไป 5,000 บาท และเจ้าของเครื่องเล่นได้มีการต่อรอง เหลือแค่ 2,000 บาท โดยให้คำพูดที่ว่า ผมไม่ได้เป็นคนผิดฝ่ายเดียว น้องเป็นคนขอมาเล่นเอง จะให้ผมรับผิดชอบทั้งหมดมันไม่ได้เหตุการณ์ครั้งนี้ น้องก็เป็นคนผิดด้วย เราเจรจาอยู่สักพักนึง โดยเราให้คนกลางเป็นคนไกล่เกลี่ย โดยตกลงที่ 2,000 เรื่องจะได้จบ แต่ยังมีการต่อรอง ให้เหลือ 1,700 บาท ซึ่งเราก็ไม่โอเคบอกเลย เพราะคำพูดของแม่ค้าคนนี้ ใช้คำพูดและถ้อยคำที่หยาบคายมาก ๆ
โดยให้คำพูดที่ว่า มาเล่นเอง แล้วจะให้รับผิดชอบ มันไม่ใช่ เราต้องเสียค่าสปริงไปตั้ง 100 บาท นี่คือคำกล่าวของแม่ค้าคนนี้ และคำพูดที่ตามหลังมาก่อนจะจบเรื่องอีก 1 คำที่เราเกลียดที่สุดคือ ให้ให้ตังค์จบ ๆ ไป ถือว่าทำบุญไปซะ นี้คือคำพูดของแม่ค้าคนนี้ ทุกคนคิดว่ายังไงบ้างคะ กับความปัดรับผิดชอบและความเห็นแก่ตัว การใช้ถ้อยคำที่โคตรจะ ถ้อยคำของแม่ค้าคนนี้ ถ้าวันนึงเกิดกับคนในครอบครัวหรือลูกของเขา เขาจะรู้สึก และตอนนี้ เราถือว่า ช่างมันซะ ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ขอให้คนประเภทนี้ ไปเจอกับ คนประเภทเดียวกัน วันนั้นมันจะรู้สึก ตังค์ 2,000 บาทที่ได้มาเราจะเอาไปทำบุญค่ะ ทุกคนมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้างคะ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับบุตรหลานของท่าน"
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้พบกับ นางสาวนิยาพร ไชยคีรี อายุ 32 ปี แม่ของน้องเสือ อายุ 14 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บถูกเหล็กสปริงแทรมโพลีนในงานวัดแทงเข้าบริเวณตาตุ่มข้าง ซ้ายจนต้องส่งโรงพยาบาล ซึ่งล่าสุดหมอต้องผ่าตัดเพื่อเอาเหล็กสปริงออก
นางสาวนิยาพร เล่าว่า ตนทำงานอยู่รับโทรศัพท์ว่าลูกถูกเหล็กแทง แต่ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่า เกิดยังไง แม่ก็รีบมาโรงพยาบาล พอมาถึงโรงพยาบาลพบว่า มีตัวเหล็กสปริงแทงตาตุ่มของน้อง ซึ่งไปตรงกับกระดูก ต้องรอผ่าตัด ซึ่งเหล็กได้แทงเข้าไปประมาณ 2 นิ้ว หมอบอกว่าต้องรอถอดดูก่อน ว่ากระดูกมีรอยร้าวด้วยไหม และอาจจะมีผลกระทบต่อ การเดินของน้อง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ แม่ได้ติดต่อไปยังเจ้าของแทมโพลีน ซึ่งรอบแรกได้เป็นแฟนของเจ้าของ แทมโบรีนรับโทรศัพท์ แล้วบอกว่ายังไม่ว่างเดี๋ยวจะโทรกลับ หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงนึง ก็มีผู้ชายโทรกลับมา บอกว่าเป็นเจ้าของเครื่องเล่น ซึ่งก็ได้คุยกันในเรื่องรายเอกการรักษาพยาบาล ตัวเองได้บอกว่า ต้องรอหมอก่อนว่าหมอจะว่ายังไง ว่าน้องมีอาการเยอะไหม ตอนแรกเจ้าของเครื่องเล่นบอกว่า ค่ารักษาเขาจะช่วย ซึ่งตอนแรกเหมือนจะดีแต่พอพูดไปพูดมา
ตอนแรกจะเรียก 10000 ก่อน เพราะว่าผลออกมาแล้วว่าน้องต้องผ่าตัด แต่เจ้าของเครื่องเล่นบอกว่ามันเยอะไป มันไม่ได้เป็นความผิดฝ่ายเดียว มันก็เป็นความผิดของน้องที่น้องมาเล่นเอง พอตัวเองได้ยินแบบนั้นก็ ตกใจเหมือนกัน และเสียความรู้สึก ซึ่งตนก็ได้ถามกลับไปว่า ลูกหนูจ่ายตังค์พี่ไหม มันเล่น เขาก็บอกว่าจ่ายตังค์ แล้วมันเป็นความคุ้มครองการดูแลของใคร มันเป็นความรับผิดชอบของหนูไหม ซึ่งเจ้าของเครื่องเล่นบอกว่า น้องมาขอเล่นเองเขาสงสารเขาเลยให้เล่นจำกัดอายุเด็กหรือไม่ และจำกัด น้ำหนักเด็กหรือไม่ ซึ่งตนบอกไปว่าถ้าพี่ให้เล่นแล้วพี่รับตังค์ไปแล้ว มันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของพี่ ซึ่งตนก็บอกไปว่าถ้าอย่างนั้น ตัวเองก็จะใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุของลูก ส่วนพยาบาลเท่าไหร่ก็จะเรียกเอาจากเจ้าของแทมโพลีนทั้งหมด ซึ่งเจ้าของแทรมโพลีนก็บอกว่าไม่ได้
นางสาวนิยาพร ยังบอกอีกว่า เมื่อคืนก็ได้มีคนกลางไปคุยกับเจ้าของแทโพรีนที่งานเลย ซึ่งเจ้าของบอกว่า ให้ 1,500 บาท จบ ซึ่งตัวเองเป็นแม่ไม่เอาอยู่แล้ว เพราะด้วยคำพูดวาจาทุกสิ่งอย่างโดยเฉพาะแฟนของเจ้าของแทมโพลีน ใช้คำพูดรุนแรง พูดว่า ต้องเสียค่าพยาบาลอีก ไหนค่าเหล็กเขาอีก เส้นละ 100 บาท ซึ่งพอแม่ได้ฟังแบบนั้นถึงก็เสียใจมาก ซึ่งที่แม่โพสต์ไปก็เพื่อเป็น อุทาหรณ์ให้คนอื่น ๆ ถ้าเขารู้สึกผิดจริง ๆ และใช้คำพูดดีกว่านี้ และแสดงความห่วงใยหน่อยตนไม่อะไรเลย ตอนนี้ก็เตรียมเข้าไปแจ้งความ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรไปพูดคุยกับเจ้าของแทมโพลีนที่เกิดเหตุ โดยเจ้าของเครื่องเล่าเล่าว่า น้องเป็นเด็กโตสักหน่อย ได้มาขอเล่นและจ่ายเงิน ซึ่งตอนแรกน้องขอเล่นบ้านลมด้วย แต่แฟนไม่ให้เล่น เนื่องจากมีเด็กเล็กเล่นอยู่ น้องก็เลยมาขอเล่น ตนพูดตรง ๆ ว่า คือต้องการเงิน เพื่อใช้จ่ายค่าที่ และบังเอิญไม่รู้เล่นยังไง ซึ่งตนทำมา 10 กว่าปี ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เลย แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ก็เข้าใจ และพอมาเกิดเรื่องตนก็ได้ถามเด็กแต่เด็กก็ไม่กล้าบอก มาเล่นยังไง ซึ่งตนก็ได้ไปเรียกรถพยาบาล แต่ก่อนที่จะไปโรงพยาบาล น้องบอกว่าอย่าบอกแม่ผมนะ แต่ตนก็บอกว่าไม่ได้ยังไงก็ต้องบอก และถามว่าน้องมีโทรศัพท์ไหมน้องบอกว่ามีก็เลยกดเบอร์ตัวเองไว้ในโทรศัพท์น้อง ให้โทรกลับมา ซึ่งตนก็พยายามแสดงความรับผิดชอบ
เจ้าของเครื่องเล่น กล่าวอีกว่า กรณีแบบนี้ไม่ได้เป็นความผิดของเครื่องเล่นของตัวเอง 100% สักพักแม่ก็โทรมา หลังจากที่ให้เบอร์ไป และบอกว่าไม่ได้หนีไปไหนก็ยังอยู่ที่งาน ให้เบอร์น้องก็ไปที่ไม่ได้โทรมาได้ และผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ชั่วโมงนึง มีญาติเขาเข้ามาที่งาน เพื่อเข้ามาคุยไกล่เกลี่ยรักษาพยาบาล ซึ่งตนได้ถามว่าได้รักษาพยาบาลอะไรยังไง แม่ของเด็กบอกว่าถ้าเป็นประกันอุบัติเหตุก็ต้องสำรองจ่าย แต่แม่ก็ไม่มี จ่ายก็ช่วยกันเยอะ ตนยังถามว่าทำไมไม่ไปฉุกเฉิก เพราะบัตร 30 บาทมี แต่พอญาติเขาคนนั้นเข้ามา แล้วก็มีการต่อรองกันถึงตัวเองก็เป็นคนทำมาหากิน แล้วต่อรองกันได้ว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ ซึ่งญาติก็บอกว่าให้จ่าย 5,000 บาท แต่ตนก็บอกว่าไม่ไหว เพราะเหตุไม่ได้เกิดจากตน 100% ซึ่งมันเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเมื่อคืนก็คุยกันจบแล้วมี สท.และกรรมการวัด เพื่อเป็นพยาน ว่าได้จ่ายเงิน 2,000 บาทแล้วและก็จบ ลงแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงมาโพสต์จนเป็นข่าวอีก
ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปยัง ที่วัดแห่งหนึ่งที่เกิดเหตุ เขตเทศบาล ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเมื่อคืนนี้มีการจัดงานทอดผ้าป่าของวัด โดยวันนี้มีเพียงโครงร้านค้าบางส่วนเท่านั้นที่ยังอยู่ ส่วนพวกอุปกรณ์เครื่องเล่นต่าง ๆ หรืองานต่าง ๆ จบไปแล้ว
นายกมล ประธานกรรมการวัดเทพชุมนุม เล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้รู้อยู่ด้วย มารู้อีกทีมี สท. มาตามให้ไปเป็น พยานที่ไกลเกลี่ย ที่เกิดเหตุสปริงเครื่องเล่นแทรมโพลีน แทงเข้าไปในตาตุ่ม น้องวัย 14 ปี ซึ่งตอนที่พูดคุยกันตนก็เข้าใจว่าจบแล้ว เนื่องจากมีการตกลงกันค่าเสียหายเบื้องต้นเหลือ 2,000 บาท มีการจ่ายเงินเรียบร้อย
นายกมล ยังบอกว่า ทางวัดไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นเพียงผู้จัดงาน แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเงินก็อยากจะช่วยให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายจึงมาเป็นพยานเมื่อคืนนี้ ซึ่งตอนแรกทางเจ้าของแทมโพลีนจะจ่ายเพียง 1,700 บาท ตนก็บอกว่า ไม่ได้ต้องจ่ายมากกว่านั้น และมีการตกลงกันใจที่ 2,000 บาท ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็เจรจาจบลงด้วยดีแต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องโพสต์จนเป็นเรื่องเป็นราวอีก
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี