ร้อนจัด!! กระทบหมู่บ้านตุ๊กแกส่งออกจีน หายากกว่าปกติ ซ้ำร้ายราคาตก แถมติดขัดกระบวนการ สูญรายได้นับสิบล้าน
ที่ จ.นครพนมในช่วงฤดูแล้ง มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเศรษฐกิจการค้าของชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า ถือเป็นหมู่บ้านอาชีพแปลกแห่งเดียวในไทย ที่รวมตัวกันทำอาชีพปริศนา ส่งออกไปยังปลายทางประเทศจีน เพราะกลุ่มอาเฮียเชื่อกันว่าเป็นยาชูกำลังขนานเอก โดยชาวบ้านตาล ต.นาหว้าประกอบอาชีพแปลกตามฤดูกาล ได้แก่ แปรรูปปลิงอบแห้งส่งออกในช่วงฤดูฝน แปรรูปไส้เดือนอบแห้งส่งออกในฤดูหนาว และตุ๊กแกแปรรูปส่งออกฤดูร้อน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชนปีๆหนึ่งเกือบ 100 ล้านบาท
โดยปี 2567 นี้มีอากาศร้อนจัด จึงได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพนักล่าตุ๊กแก เนื่องจากหายากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่ามาจากปัญหาระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลง ฝนตกน้อย กระทบห่วงโซ่อาหาร และปัญหาเรื่องการขยายพันธุ์ช้า รวมถึงตุ๊กแกไม่ออกมาหาอาหาร จึงทำให้หายาก
เท่านั้นยังไม่พอ ได้ส่งผลกระทบขั้นตอนการส่งออก เนื่องจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีการเข้มงวดควบคุมการส่งออก ต้องมีการตรวจสอบ ขั้นตอนการผลิต ต้องมีลายลักษณ์อักษรอนุญาต ที่ปลอดจากโรคระบาดทางสัตว์ ทำให้นายทุนไม่รับซื้อ ทำให้ราคาตุ๊กแกตกต่ำ และยังมีประเทศคู่แข่งผลิตส่งขายไปจีนด้วย ทำให้สั่งออเดอร์จากไทยน้อยลง
สอบถามชาวบ้านในพื้นที่บ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม กลุ่มแปรรูปตุ๊กแกมานานเกือบ 20 ปี ระบุว่าปีนี้หนักสุด เจอปัญหาทั้งสภาพอากาศร้อนจัด หาตุ๊กแกยาก เชื่อว่าเกิดจากการขยายพันธุ์ช้า แต่ยืนยันว่าการจับตุ๊กแกไม่กระทบกับวงจรชีวิต ไม่สูญพันธุ์แน่นอน ส่วนใหญ่เป็นตุ๊กแกตามบ้านเรือน ไม่ใช่ตุ๊กแกป่าที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
โดยทุกปีช่วงฤดูร้อนประมาณ 3 – 4 เดือน จะเปิดบ้านรับซื้อตุ๊กแกสดจากนักล่าทั่วอีสาน จากนั้นจะพักการจับมาแปรรูป เพื่อให้มีการขยายพันธุ์อีก 8 เดือน ยืนยันว่าไม่สูญพันธุ์ แต่ปีนี้สภาพอากาศ รวมถึงระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลงจึงหายากขึ้น ซ้ำร้ายล่าสุดมีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการส่งออกจากไปจีน เพราะมีการเข้มงวดมากขึ้น ทำให้นายทุนรับซื้อน้อยลง ราคาจึงตก เพราะไม่มีคนซื้อ อีกทั้งมีคู่แข่งจากประเทศอื่น ทำให้ส่งออกขายยากมากขึ้น ทั้งนี้ชาวบ้านวอนรัฐบาลไทย รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง หันมาดูแลช่วยแก้ไขปัญหา เพราะเป็นอาชีพแปลกที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนมานานหลายสิบปี มีเงินหมุนเวียนสะพัด แต่มานี้เจอปัญหาหนัก บางรายต้องไปทำอาชีพอื่น ออกจากบ้านขายแรงงานต่างจังหวัด
นายจินดา วงษ์เนาว์ อายุ 52 ปี อาชีพแปรรูปตุ๊กแกส่งออก ชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดเผยว่าปีนี้ประสบปัญหาหนัก ทั้งอากาศร้อนจัดหาตุ๊กแกยาก เชื่อว่ากระทบการขยายพันธุ์ และฝนตกน้อยมีผลต่อระบบนิเวศน์ ตุ๊กแกไม่มีแมลงกิน ปีนี้ราคาตกต่ำมาก รายได้หายเกินครึ่ง จากปกติตุ๊กแกสดซื้อราคาตัวละประมาณ 50-80 บาท
ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาด แต่ปีนี้รับซื้อแค่ตัวละ 20-30 บาท โดยนำมาชำแหละเอาเครื่องในออก ก่อนขึงใส่ไม้แบบนำไปตากแห้ง ตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ปกติส่งขายจีนตัวละ 100 – 150 บาท มาปีนี้ขายได้ตัวละ 50 -60 บาท จากเคยมีรายได้ปีละ 4-5 แสนบาทต่อครอบครัว ปีนี้รายได้หายเกินครึ่ง บางรายต้องเลิกทำ หันไปรับจ้างต่างจังหวัด แต่ตนไม่อยากไปทำงานต่างถิ่น จึงต้องรับจ้างแปรรูปตุ๊กแกจากนายทุน ได้ค่าจ้างตัวละประมาณ 4 -5 บาทเท่านั้น
ส่วนนางนุจรินทร์ โคตรบิน อายุ 53 ปี เปิดเผยว่าจากปกติในช่วงฤดูร้อนตนจะมีรายได้จากการแปรรูปตุ๊กแกส่งออกไปจีน ปีละหลายแสนบาท ปีนี้ต้องเลิกทำ เพราะนายทุนเคยติดต่อค้าขายกันไม่รับซื้อ อีกทั้งมีราคาตกต่ำเกินครึ่ง จึงไม่คุ้มค่าแรงงาน จึงหันไปทำอาชีพอื่น รอการแปรรูปไส้เดือนช่วงฤดูหนาว อยากให้รัฐบาล หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลช่วยเหลือ เกี่ยวกับกระบวนการส่งออกที่ติดขัด มีการควบคุมมากขึ้น ทั้งที่ทำมาเป็นอาชีพสร้างรายได้ชุมชนมานานเกือบ 20 ปีแต่ต้องมีปัญหา อยากให้เห็นใจชาวบ้าน ที่เคยมีรายได้หมุนเวียนสะพัดในหมู่บ้านปีละหลายสิบล้านบาท ต้องสูญรายได้ไป ฝากรัฐบาลช่วยเหลือ เพราะเป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงควรให้การสนับสนุน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี