ลาวเปิดด่านถาวรเมืองหมื่น ตรงข้าม อ.ปากชม เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังและส่งเสริมการค้าตามชายแดนสร้างรายได้ 2 ประเทศกระจายได้หลายล้านบาท
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติคุณ บุตรคุณรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายอภินันต์ สุวรรณโคนายอำเภอเชียงคาน นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชมพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้าร่วมพิธีประกาศด่านชายแดนท้องถิ่น บ้านวัง เมืองหมื่นแขวงเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นด่านชายแดนสากล โดยมีท่านโพไซ ไซคำพิทูน รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว เป็นประธานในการเปิดซึ่งมี ท่านคำพัน สิดทิดำพา เจ้าแขวงเวียงจันทน์ และนางสาวมรกตศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชฑูตไทย ณ เวียงจันทน์ ณ ด่านท้องถิ่นบ้านวังเมืองหมื่น แขวงเวียงจันทน์
ทั้งนี้เนื่องจากการร่วมประชุมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย-ลาว จังหวัดเลย - แขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 20 โดยมีหัวข้อการประชุมร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างชายแดนและส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ ณ โรงแรม เอส วังเวียงบูติกเมืองวังเวียง แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 16 ก.ย.66 ซึ่งในการหารือจะมีเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเรื่องของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมถึงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมและความมั่นคงและในที่ประชุมครั้งนั้น มีหัวข้อหนึ่งที่มีสาระสำคัญเกี่ยวและข้อตกลงของการท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับความเชื่อมโยง
โดยในส่วนของแขวงเวียงจันทร์ได้มีแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆจึงมีข้อตกลงทั้งในพื้นที่ของ จ.เลย และแขวงเวียงจันทร์เพื่อร่วมกันพัฒนาเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังร่วมกันโดยเฉพาะเส้นทาง วังเวียง-เมืองเฟือง(ฝั่งลาว)-เชียงคาน-ปากชม(ฝั่งไทย)โดยทางฝั่งลาวจะยกระดับด่านเมืองหมื่นให้เป็นด่านสากลรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทย สปป.ลาวและชาติเอื่นๆเข้ามา เป็นการเชื่องโยงกับประเทศไทย โดยจังหวัดเลยซึ่งมีอำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม ที่มีพื้นที่ติดกับแขวงเวียงจันทร์ในการหารือจะเน้นในการพัฒนาเรื่องของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในด้านเมืองหมื่นซึ่งอยู่ติดกับอำเภอปากชม ทางฝั่งของ สปป.ลาว ยังคงจะเป็นด่านชั่วคราว แต่ทางฝังไทยได้เป็นด่านคกไผ่อ.ปากชมซึ่งด่านถาวรแล้วฉะนั้นจึงมีข้อตกลง โดยทางฝั่งแขวงเวียงจันทร์จะพัฒนาด่านเมืองหมื่นเป็นด่านถาวร ซึ่งจุดตั้งด่านได้ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ สปป.ลาว เมืองวังเวียง และเมืองเฟือง การเดินทางจะใกล้กว่าเข้าเส้นทางด่านที่จังหวัดหนองคาย การเปิดด่านถาวรครั้งนี้ก็จะเป็นอีกด่านที่คาดว่ารองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและเชื่อว่าจะทะลักเข้ามาอีกมาก จากนโยบายฟรีวีซ่ามาท่องเที่ยวจังหวัดเลยและนักท่องเที่ยวจะเดินทางเที่ยวต่อไปในจังหวัดที่ใกล้เคียง รวมทั้งการเปิดด่านถาวรจะมีการค้าการลงทุนมากขึ้น
ด้าน นายธรรมนูญ ภาคธูปผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเลย ( อพท.เลย )กล่าวว่า การเปิดด่านแห่งนี้ทำให้การท่องเที่ยวได้มีความอย่างยังยืน การท่องเที่ยวจะสามารถเชื่อมโยงระหว่างเพื่อนบ้าน โดยในปีนี้เราพัฒนามาตรฐานเชียงคานได้มาตรฐานสากลแล้ว และตอนนี้ทาง อพท.เลย ได้ร่วมกับกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมพัฒนาการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว เรากำลังพัฒนาเมืองเฟืองขแง สปป ลาสว.ให้มีมาตรฐานในระดับสากลตอนนี้เราใช้มาตรฐาน ในลุ่มแม่น้ำโขงร่วมกัน วันนี้เชียงคาน จังหวัดเลยของประเทศไทย ได้รางวัล Top 100 destination เป็นครั้งที่ 2 และเมืองหลวงพระบางของ สปป.ลาว ก็ได้ Top 100 destination เป็นครั้งแรก จากนี้ไปก็จะเป็นเรื่องของ cross border เมื่อมีการเปิดด่านถาวรทั้ง 2 ประเทศ โดยจังหวัดเลยนั้นมีสนามบินเป็นจุดแข็ง ขณะที่แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ก็จะมีสถานีรถไฟลาว-จีน ในการเข้าถึงที่จะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆอนุภูมิภาคลุ้มน้ำโขง ที่จะให้เกิด สะดวกมากยิ่งขึ้น
คาดว่าจะทำให้กิจกรรมการท่องเที่ยวทั้ง2 ประเทศนั้นเติบโตขึ้นในบริเวณระหว่าง 2 ด่าน ทั้งฝั่งไทยที่อำเภอปากชมและด่านบ้านวังเมืองหมื่น แขวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว ซึ่งจากบ้านวัง ไปโพนโฮงสถานีรถไฟ ลาว-จีนโพนโฮง ก็ประมาณร้อยกว่ากิโลเมตรและขณะเดียวกันที่จะไปเวียงจันทน์ ก็ประมาณ 180- 190 กิโลเมตรเช่นกัน ก็จะทำให้การเดินทางใกล้ยิ่งขึ้นและมีแหล่งท่องเที่ยวระหว่างทางเพิ่มมากขึ้นทั้ง 2 ประเทศและจะมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นและจะสร้างเม็ดเงินให้กับพี่น้องทั้งไทยและลาว สองฝั่งโขงมากขึ้นและเป็นการนำการท่องเที่ยวมาพัฒนาเศรษกิจ และสังคมให้พี่น้องประชาชน ทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี