เปิดใจ "พี่อ้อย" หมอนวดร้านที่ "น้องผิง" ไปใช้บริการยอมรับตกใจหลังหลังทราบข่าว "น้องผิง" มานวดที่ร้านแล้วเสียชีวิต แต่ยังไม่ยืนยันเคยนวดให้กับ "น้องผิงหรือไม่" เพราะเหตุการณ์ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้ว อีกทั้งลูกค้าแต่ละวันก็เยอะมาก ยันยังไม่ได้ลาออกจากร้านนวด แต่มาดูแลหลานและแม่ป่วยเป็นมะเร็ง พร้อมเดินทางกลับอุดรพิสูจน์ความจริง ด้านเจ้าของร้านร่ำไห้บอกขอความเป็นธรรมด้วยเพราะตอนนี้ยังไม่ชี้ชัดว่าหมอนวดทำให้น้องผิงเสียชีวิตหรือไม่? ต้องปิดร้านชั่วคราว หมอนวดที่ร้านไม่กล้ามาทำงาน เพราะกลัวทำให้คนเสียชีวิต
จากกรณี น้องผิง น.ส.ชญาดา พร้าวหอม อายุ 20 ปี นักร้องสาวรถแห่ ชาวบ้านแดง ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี คาดเสียชีวิตจากไปนวดคลายเส้นกับหมอนวดที่หนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดร ถูกหมอนวดผิดในท่าบิดคอจนทำให้กระดูกคอเคลื่อนไปทับเส้นประสาท สุดท้ายเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 2 เดือนจนเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 8 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติๆ โดยเฉพาะคนเป็นแม่และแฟนหนุ่ม ขณะเดียวกัน นางฉันธกาฬ พร้าวหอม อายุ 47 ปี แม่ของน้องผิง ได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับหมอนวด เมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ที่ สภ.เมืองอุดรธานีแล้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ดร.นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนชี้แจงว่า จากกรณีมีน้องวัย 20 ปีเสียชีวิต โดยญาติติดใจอาจจะเกิดไปนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่งริมหนองประจักษ์ แล้วทำให้กระดูกคอเคลื่อน จนทำให้ป่วยติดเตียงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งผลชันสูตรจากแพทย์พบว่า น.ส.ชญาดา เสียชีวิตเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือดและมีเชื้อราร่วมด้วย ไม่ยืนยันว่าเกิดจากการนวด ซึ่งหากญาติใจก็สามารถร้องขอตำรวจชันสูตรพลิกศพได้ ไม่เกี่ยวกับสาธารณสุขเป็นเรื่องของตำรวจแล้ว
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ในเรื่องนี้หลังจากแม่ของน้องผิงมาแจ้งความเมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ทางพนักงานสอบสวนอยูในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้การกระทำผิด ต้องผลการสอบสวนสืบสวน ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันเดียวกัน (29) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณโซนร้านนวดริมหนองประจักษ์อีกครั้ง ปรากฏว่า บรรยากาศร้านนวดเงียบเหงาไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการเหมือนแต่ก่อน คาดว่าลูกค้าเห็นข่าวหมอนวดบิดคอทำให้นักร้องสาวรถแห่เสียชีวิต จึงพากันหวาดกลัว ขณะเดียวกันนางชินาภา เจ้าของร้านนวดล็อค 42 ที่น้องผิงมานวด เจ้าของร้านร่ำไห้บอกขอความเป็นธรรมด้วยเพราะตอนนี้ยังไม่ชี้ชัดว่าหมอนวดทำให้น้องผิงเสียชีวิต ต้องปิดร้านชั่วคราวหมอนวดที่ร้านไม่กล้ามาทำงานเพราะกลัวทำให้คนเสียชีวิต
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกับ "หมออ้อย" ถือเป็นหมอนวดเป้านิ่งที่เหลือคนเดียว และคาดว่าจะเป็นคนนวดบิดคอให้น้องผิง โดยหมออ้อย เผยกับนักข่าวว่า รู้ข่าวน้องมานวดที่ร้านแล้วชีวิตแล้วตกใจ ตนเองทำงานนวดที่ร้านพี่น้องมาแล้ว 2 ปี ส่วนตนจะนวดน้องผิงเมื่อ 2 เดือนที่แล้วหรือไม่นั้น เหตุการณ์ผ่านมา 2 เดือนจำไม่ได้และไม่มั่นใจและไม่คุ้นหน้าน้องผิงว่าเคยนวดให้ไหม เพราะลูกค้าแต่ละวันเยอะมากอีกอย่างเวลาผ่านมานานแล้ว
ส่วนการนวดบิดคอ ก่อนจะนวดจะถามลูกค้าทุกเคส ตนยอมรับมีท่านวดบิดคอ แต่ไม่ทำทุกราย และเป็นคนนวดมือไม่หนัก กลางๆ ส่วนที่มีข่าวว่า ตนเป็นคนนวดให้น้องผิงจนเสียชีวิต รู้ข่าวก็ตกใจ ตนมีใบประกาศนวดถูกต้อง ส่วนสาเหตุที่มาอยู่กรุงเทพฯ เพราะมาอยู่กับหลานและแม่ป่วยมะเร็งจึงมาดูแล ไม่ได้ลาออกเพราะนวดบิดคอจนน้องเสียชีวิต
"พอมีข่าวว่าเป็นคนนวดทำให้น้องเสียชีวิต ฟังข่าวแล้วก็ตกใจ ข่าวออกไปก็แรง ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไร หนูอยากขอความเป็นธรรมด้วย หนูก็เป็นหมอนวดมาหลายปี มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ว่านวดทำให้คนตายนอนไม่หลับเลย ตอนนี้ตกเป็นจำเลยของสังคมแล้วอยากให้ฟังผลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หนูเสียใจมากหากนวดแล้วทำให้คนเสียชีวิต โดยเร็วๆ จะเดินทางมาที่อุดร เพื่อพิสูจน์ความจริงเราไม่รู้ว่าเรานวดแล้วทำให้คนเสียชีวิต พอมาเกิดเหตุแบบนี้เราก็ตกใจ ตอนนี้ไม่บอกพ่อแม่ให้รับรู้ หมออ้อยพูดไปก็ร่ำไห้ไป" หมออ้อย กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี