เมื่อการชะล้างพังทลายของดิน ที่นับวันยิ่งเป็นใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน นำไปสู่ปัญหาและอุปสรรคต่อความมั่นคงทางอาหาร และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมพัฒนาที่ดินซึ่งมีภารกิจสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทรัพยากรดินด้วยการพัฒนาที่ดินและอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยเร่งรัดแผนงานให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ที่ได้กำหนดเป้าหมายลดการชะล้างพังทลายของดินทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 20 ล้านไร่ ภายใน 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) หรือประมาณ 1 ล้านไร่/ปี ซึ่งปัจจุบันหลายพื้นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้คุ้มค่ามากขึ้น ลดการสูญเสียหน้าดินที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตภาคการเกษตร และเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้กับดินได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในภาคการเกษตร ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเหมาะสมตรงตามศักยภาพของพื้นที่ และยังช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และเพิ่มรายได้ในครัวเรือนให้กับเกษตรกรอีกด้วย จากผลสำเร็จของโครงการนี้ จะนำไปเป็นโมเดลต้นแบบการแก้ปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ในพื้นที่เกษตรกรรมทั่วประเทศในอนาคต
เมื่อเร็วๆนี้ ดร.อาทิตย์ ศุขเกษม รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านวิชาการในฐานะโฆษกกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ ธิจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต6 นายฆนนาท ภู่กรรณ์ เลขานุการกรม ดร.ธนากร นาเชียงใต้ ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมเพื่อการพัฒนาที่ดิน นายนิลภัทร คงพ่วง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำห้วยแม่ละงองน้อย ลุ่มน้ำแม่งัดฝั่งตะวันตก ลุ่มน้ำสาขาน้ำแม่งัด ลุ่มน้ำหลักแม่น้ำปิง ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พื้นที่ต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาชะล้างพังทลายของดินด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำและพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยการบริหารจัดการน้ำโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินฯ ช่วยป้องกันผลกระทบจากตะกอนดินต่อคุณภาพและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ลดปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยมีผู้นำท้องที่/ท้องถิ่นและเกษตรกร ร่วมให้การต้อนรับ
ดร.อาทิตย์ ศุขเกษม โฆษกกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ตามที่ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน มีนโยบายเร่งขับเคลื่อนโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในภูมิภาคต่างๆ เพื่อลดปัญหาชะล้างพังทลายของดิน (Soil Erosion) ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ (Soil and Water Conversation) และปรับโครงสร้างพื้นฐานของดินในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกพืช ตลอดจนช่วยรักษาระบบนิเวศดิน (Soil Ecosystem) ให้เกิดการใช้ที่ดินได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งยังช่วยพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีการสูญเสียดินเกินกว่าระดับที่ยอมรับได้ (+มากกว่า 2 ตันต่อไร่ต่อปี) ร้อยละ 24.38 ของพื้นที่ประเทศ และมีระดับการชะล้างรุนแรงถึงรุนแรงมากที่สุด ร้อยละ 10.02 ของเนื้อที่ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ลาดชันสูง จากสถานการณ์ดังกล่าวหากไม่เร่งแก้ไขจะส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมของประเทศในอนาคตได้
สำหรับขั้นตอนในการดำเนินโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินที่เมืองพร้าวเชียงใหม่โมเดลฯ โดยสำนักวิศวกรรมเพื่อการพัฒนาที่ดิน ได้เข้ามาสำรวจวิเคราะห์สภาพปัญหาทางกายภาพและชีวภาพของพื้นที่ และทำการออกแบบงานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. พื้นที่ต้นน้ำ ทำบ่อดักตะกอนดิน ปรับพื้นที่ทำขั้นบันไดดินแบบต่อเนื่อง แถบหญ้าแฝก เพื่อลดปัญหาการชะล้าง 2.พื้นที่กลางน้ำ ทำการไถพรวนตามแนวระดับ ทำทางลำเลียง และขุดลอกลำห้วย และ 3. พื้นที่ปลายน้ำ ปรับรูปแปลงนา ให้เป็นผืนใหญ่และราบเรียบ รวมถึงระบบส่งน้ำด้วยโซล่าเซลล์ ภายหลังดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ไม่น้อยกว่า 5,000 ไร่ จากนั้น สถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ได้เข้ามาทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปลูกพืชจากพืชไร่เชิงเดี่ยวเป็นพืชผสมผสานและไม้ผล พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ ทำให้เกิดการพัฒนาที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การทำงานด้วยหลักการเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำ ทำให้เกิดการบริหารจัดการพื้นที่เชิงระบบ พื้นที่การเกษตรสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกษตรกรสามารถใช้ที่ดินได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามศักยภาพของดิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี