...หลังกรมการขนส่งทางบก ประกาศระวัง “แก๊งเคาะกระจก” อาสาเป็นนายหน้าต่อทะเบียน เสียภาษี โอนรถ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด!!!...เรื่องนี้ “พ.ต.ท.วรภัทร  สุขไทย” รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ ไม่ยอมเห็นประชาชนเดือดร้อน ส่งชุดจู่โจมลงพื้นที่ระดมกวาดล้างแก๊งเคาะกระจกรอบกรมขนส่งฯทันที รวมถึงปราบปรามวินผีหมอชิต มาเฟียหมอชิต และอาชญากรรมอื่น ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง... ไม่นานมานี้โชว์ผลงานคดี “ลุงสมนิจ” กุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน เสียชีวิตในซากตึก สตง.ถล่ม โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง หลังผู้เสียหาย (บุคคลที่ถูกแอบอ้างชื่อว่าเป็นภรรยา)  มาแจ้งความที่สน.บางซื่อ สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง ยังร่วมภารกิจเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเหตุตึกถล่ม 9 ราย พ.ต.ท.วรภัทร หรือ “รองแมน” นรต.รุ่น 59 นายตำรวจมากฝีมือ ได้รับรางวัลตำรวจดีเด่น 3 ปีซ้อน ยังไม่รวมรางวัลอื่นที่ประดับเต็มห้อง เป็นตำรวจที่มีจิตวิญญาณเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ชื่อของ “พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย” ในนามเรียกขาน “บางซื่อ 2” จึงเป็นสัญลักษณ์ของงาน “ป้องกันปราบปราม” ของตำรวจนครบาลในยุคนี้อย่างแท้จริง...

...ควันหลงจางๆ จากวันแรงงานแห่งชาติต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ยินรมว.แรงงาน “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบาย 400 บาท
ทั่วประเทศ ของรัฐบาล “แพทองธาร  ชินวัตร” ทำเอากระจอกข่าวอึ้ง เพราะทั่นรมว.บอกเองว่า ไม่อยากตอบเรื่องนี้ เพราะเจอ “โรคเลื่อน” มาตลอดเวลา ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 แล้ว ด้วยเหตุของการประชุมร่วม 3 ฝ่ายของคณะกรรมการค่าจ้างหรือไตรภาคี ซึ่งประกอบด้วย “นายจ้าง-ลูกจ้าง-ภาครัฐ” ก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งการศึกษาเรื่องอะไรต้องตอบสนองทั้งสามฝ่ายนี้ โดยเฉพาะฝ่ายนายจ้างที่เสียประโยชน์ ฝ่ายลูกจ้างที่ไม่ได้ดั่งที่คาดหวัง ทั้งต้องตอบสนองหน่วยงานรัฐคือ กระทรวงต่างๆ...ทั่นรมต.บอกอีกว่า การประชุมไตรภาคีตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึง 22 เมษายน ก็คิดว่าควรจบได้ เพราะอยากเอามาประกาศ เป็นของขวัญวันแรงงาน แต่สุดท้ายก็ยังไม่จบ แต่เรายังต้องเดินหน้าต่อไป... “จนผมไม่กล้าประกาศว่า เป็นวันไหน เวลาใด รู้สึกว่าหน้าตายับเยินหมดแล้ว เพราะรับปากแล้วทำไม่ได้!!!...” แต่ก็จะพยายามต่อไปและทำให้ได้เร็วที่สุด เจ้าตัวยังบอกว่า ยิ่งองค์ประกอบของสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปัจจุบันนี้ก็ยิ่งหนักใจ ฉะนั้นมีปัญหามากเท่าไหร่ พวกเรายิ่งต้องศึกษารายละเอียดมากขึ้น รมว.พิพัฒน์ยังตอบตอนท้ายด้วยว่า “นี่เป็นสิ่งที่ตัวผมเองต้องบอกว่า หนักใจมากๆ แต่ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะทำให้สำเร็จให้ได้ ดังที่ผมรับปากนายกฯว่าผมจะทำให้จบ ทำให้สำเร็จ คาดว่าเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นเดือนวันแรงงานที่น่าจะมีคำตอบ”...งานนี้น่าจะเป็นงานหินจริง เพราะรมว.แรงงานสารภาพเองยอมรับเองแบบนี้ ถึงว่าช่วงหลังๆ เจอะหน้าทั่นรมว.แรงงาน เลยดูไม่สดชื่นสดใสเท่าไหร่ ออกแนวเคร่งเครียดเคร่งขรึมซะเป็นส่วนใหญ่ ก็ต้องติดตามตอนท้ายเรื่องค่าแรงจะจบแบบไหน ถ้าผลเป็นบวก วิน วิน รมต.พิพัฒน์หน้าจะได้หายยับซะที...อิอิ...