ถึงเวลา 'หาที่อยู่ที่เหมาะสมที่สอดคล้องกับความยุติธรรมให้ผู้อยู่เหนือกฎหมาย' ได้แล้ว
วลีที่ว่า "ถ้าอยู่เหนือกฎหมาย อยู่แล้วสังคมเดือดร้อน ต้องหาที่อยู่ที่เหมาะสม" (พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค.68) เป็นประโยคที่หนักแน่นและสะท้อนถึงความรู้สึกของสังคมต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการท้าทายกฎหมาย สร้างความปั่นป่วนและความเดือดร้อนให้กับส่วนรวม การ "หาที่อยู่ที่เหมาะสม" ในบริบทนี้จึงไม่ได้หมายถึงการย้ายบ้าน แต่เป็นการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะหรือพฤติกรรมของผู้ที่อยู่เหนือกฎหมายนั้น เพื่อให้พวกเขากลับมาอยู่ภายใต้กรอบกติกาเดียวกันกับสมาชิกคนอื่นๆ ในสังคม
การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งสามารถ "อยู่เหนือกฎหมาย" ได้นั้นเป็นสัญญาณอันตรายต่อความยุติธรรมและความสงบสุขของสังคม มันอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลทางการเมือง อำนาจทางเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งช่องโหว่ของกฎหมายเอง เมื่อคนเหล่านี้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน ไม่ว่าจะเป็นการทุจริต คอร์รัปชัน การใช้ความรุนแรง หรือการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ผลกระทบที่ตามมาจึงเป็นวงกว้างและสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง
ความเดือดร้อนที่สังคมต้องเผชิญเมื่อมีผู้ "อยู่เหนือกฎหมาย" นั้นมีมากมาย
ความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียม : เมื่อกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้กับทุกคนได้อย่างเสมอภาค ย่อมนำไปสู่สังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ผู้มีอำนาจสามารถแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ในขณะที่ประชาชนทั่วไปต้องแบกรับภาระและความอยุติธรรม
การกัดกร่อนความเชื่อมั่นในระบบ : หากประชาชนรู้สึกว่ากฎหมายถูกเลือกปฏิบัติหรือไม่ศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ในสถาบันต่างๆ และในรัฐบาลก็จะเสื่อมถอยลง นำไปสู่ความไม่พอใจและความขัดแย้งในสังคม
การแพร่ขยายของอาชญากรรม : เมื่อผู้กระทำผิดไม่ถูกลงโทษหรือไม่เกรงกลัวกฎหมาย ย่อมเป็นแรงจูงใจให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ และอาจเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้อื่น ทำให้สังคมโดยรวมขาดความปลอดภัย
การบั่นทอนการพัฒนา : สังคมที่ไม่มั่นคง ไม่มีความยุติธรรม และเต็มไปด้วยการทุจริต ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น การแข่งขันไม่เป็นธรรม และทรัพยากรถูกผ่องถ่ายไปอย่างไม่ถูกต้อง
ดังนั้น การเรียกร้องให้ผู้ที่ "อยู่เหนือกฎหมาย หาที่อยู่ที่เหมาะสม" จึงเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาของสังคมที่ต้องการเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นอย่างแท้จริง การ "หาที่อยู่ที่เหมาะสม" ในความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น อาจหมายถึงการที่บุคคลเหล่านั้นต้องยอมรับผิดชอบต่อการกระทำของตน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และอยู่ภายใต้กฎหมายเฉกเช่นเดียวกับประชาชนคนอื่นๆ
การทำให้ผู้ที่อยู่เหนือกฎหมายกลับมาสู่ครรลองของความถูกต้องนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน
การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเสมอภาค : หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความเข้มแข็ง โปร่งใส และปราศจากอคติในการบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น
การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม : การแก้ไขช่องโหว่ของกฎหมาย การสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรตรวจสอบ และการประกันความเป็นอิสระของตุลาการเป็นสิ่งสำคัญ
การสร้างจิตสำนึกและความตระหนัก : การปลูกฝังค่านิยมของความซื่อสัตย์ สุจริต และการเคารพกฎหมายให้กับประชาชนทุกระดับเป็นรากฐานสำคัญ
การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม : องค์กรภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และเปิดโปงการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล
ท้ายที่สุดแล้ว สังคมที่สงบสุขและเจริญก้าวหน้าย่อมตั้งอยู่บนหลักการของความยุติธรรมและความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย การปล่อยให้บุคคลใดก็ตาม "อยู่เหนือกฎหมาย" และสร้างความเดือดร้อนให้กับส่วนรวมนั้น เป็นสิ่งที่สังคมไม่อาจยอมรับได้ การเรียกร้องให้พวกเขา "หาที่อยู่ที่เหมาะสม" จึงเป็นเสียงสะท้อนจากส่วนลึกของสังคมที่ต้องการเห็นความถูกต้องและความยุติธรรมกลับคืนมา เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี