สานต่อตำนานท้องสนามหลวง! "พระครูวิทิตพัฒนโสภณ" เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ วัย 72 ปีจุดประกายฝันสร้าง "สนามหลวงแห่งใหม่" ที่ราชบุรี หวังฟื้นฟูกีฬาไทยชู "กีฬาว่าว" เป็นสัญลักษณ์ พร้อมระดมทุนผ่านการสร้างวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ "ซุ้มเสมาเจ้าสัวมหาบัณฑิต" โดยได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ เพื่อสานปณิธานให้แผ่นดิน
วันนี้ (27 พ.ค.68) พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ในวัย 72 ปี ได้เปิดเผยถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่ในการตอบแทนคุณแผ่นดินด้วยการตั้งใจสร้างพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาไทย โดยเฉพาะกีฬาว่าวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่สนามหลวงและสนามหลวง 2 ซึ่งเคยเป็นตำนานของการเล่นว่าวถูกปิดไป โดยท่านวางแผนที่จะขยายที่ดินของวัดให้เทียบเท่ากับท้องสนามหลวงเดิม เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของกีฬาไทยและเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน
พระครูวิทิตพัฒนโสภณ กล่าวว่า ด้วยอาตมาอายุ 72 ปีแล้ว จึงต้องการจะทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นประโยชน์และคงอยู่ไว้ให้แผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปรารถนาที่จะฟื้นฟูกีฬาไทยที่กำลังจะเลือนหายไป เช่น ว่าวจุฬาและปักเป้า ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของท้องสนามหลวง
"ปัจจุบันวัดพระศรีอารย์ มีที่ดินอยู่แล้ว 33 ไร่ และตั้งใจที่จะหาซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 37 ไร่ เพื่อรวมเป็น 70 ไร่ ซึ่งเป็นขนาดพื้นที่เท่ากับท้องสนามหลวงเดิม จึงได้หารือกับ ดร.สุจินต์ พิทักษ์ อุปนายกสมาคมกีฬา กีฬาไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของกีฬาไทย โดยเฉพาะกีฬาว่าว แต่หากเป็นไปได้ ท่านยังมีความปรารถนาที่จะขยายพื้นที่ให้ถึง 200 ไร่ในอนาคต เพื่อรองรับการจัดเทศกาลว่าวนานาชาติ การเล่นบอลลูน และว่าวแฟนซีต่างๆ" พระครูวิทิตพัฒนโสภณ กล่าว
พระครูวิทิตพัฒนโสภณ กล่าวต่อว่า เพื่อสานฝันในการขยายพื้นที่ จึงได้มีแนวคิดที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ชื่อว่า "ซุ้มเสมาเจ้าสัวมหาบัณฑิต" โดยตั้งใจให้เป็นพระที่รวบรวมมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์และหายากมากมาย เช่น ผงธูปมงคลจากศาลหลักเมือง 77 จังหวัด น้ำศักดิ์สิทธิ์ จาก 7 นครในประเทศไทย และจากบ่อน้ำคำชะโนด รวมถึงทรายจากแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทยและลาว แร่ธาตุและว่านหายากจากใต้ดิน 500 ชนิด และบนดิน 500 ชนิด รวม 1,000 ชนิดโดยหลวงปู่จากอำเภอทองผาภูมิจะนำมาให้ รวมถึงสายแร่ทองคำ แร่เหล็กไหล และเหล็กน้ำพี้จากจังหวัดกำแพงเพชร ว่าน 108 ชนิด เช่น จากใต้ดิน 5 ชนิด และจากอากาศ 5 ชนิด รวมถึงว่านจาก 4 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว พม่า เขมร มาเลเซีย จากเจ้าอาวาสวัดไร่ป้า จังหวัดกาญจนบุรี ผงมงคลอื่น ๆ เช่น ผงพระยอดขุนพลหลวงพ่อขันธ์, ผงสมเด็จวัดสามปลื้ม, ฟอสซิลหอยและไดโนเสาร์จากจังหวัดกาญจนบุรี, น้ำเกลือใต้บาดาล, เหล็กไหลพรายน้ำจากประเทศลาว, และดอกมะลิแห้งจากวัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่
"การจัดสร้างวัตถุมงคลนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อระดมทุนซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 37 ไร่ โดยมีประชาชนใกล้เคียงแสดงความจำนงที่จะร่วมบุญบริจาคในหลัก 300 บาท หากมีผู้ใจบุญรายใหญ่เข้ามาช่วยเหลือก็มีความหวังที่จะขยายพื้นที่ให้ครบ 200 ไร่ เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จตามปณิธานที่ตั้งไว้" พระครูวิทิตพัฒนโสภณ กล่าว
ด้าน ดร.สุจินต์ พิทักษ์ อุปนายกสมาคมกีฬา กีฬาไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวถึงแนวคิดของเจ้าอาวาสว่า เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมและมองเห็นศักยภาพของพื้นที่วัดพระศรีอารย์ว่าเป็น "จุดยุทธศาสตร์" ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นศูนย์กลางกีฬาว่าว เนื่องจากไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และมีการคมนาคมที่สะดวก
ดร.สุจินต์ เชื่อมั่นว่าสถานที่แห่งนี้จะสามารถรองรับการจัดการแข่งขันว่าวระดับชิงถ้วยพระราชทานในอนาคต และยังเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมกีฬาไทยประเภทอื่น ๆ เช่น วิ่งเปรี้ยว ตะกร้อ แข่งเรือ และมวยไทย ซึ่งปัจจุบันกีฬากลายเป็น Soft Power ที่สำคัญระดับโลก การมีสถานที่สำหรับอนุรักษ์และส่งเสริมกีฬาไทยเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
เจ้าอาวาสพร้อมสนับสนุนให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นศูนย์รวมเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด โดยมีกีฬาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว และยังเป็นประโยชน์ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี
#วัดพระศรีอารย์ #สนามหลวง #สนามหลวงราชบุรี 3ซุ้มเสมาเจ้าสัวมหาบัณฑิต #พระครูวิทิตพัฒนโสภณ #ราชบุรี #โพธาราม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี