วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ย้อนรอยพิพาท‘ไทย-เขมร’ ปะทะสนั่น‘ช่องบก’สะท้อนไฟขัดแย้งระอุ!!

ย้อนรอยพิพาท‘ไทย-เขมร’ ปะทะสนั่น‘ช่องบก’สะท้อนไฟขัดแย้งระอุ!!

วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.11 น.
Tag : ปะทะช่องบก ปราสาทพระวิหาร ทหารไทยรบกัมพูชา ขัดแย้งชายแดนไทยเขมร
  •  

28 พ.ค. 2568 ระทึกกันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดกับเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น. ในจุดที่เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนและทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้ตกลงแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การปะทะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 10 นาที โดยสถานการณ์ยุติลงในเวลา 05.55 น. หลังจาก พล.ต. ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ได้ประสานทางโทรศัพท์กับรองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีของไทย เบื้องต้นมีรายงานว่า กำลังพลของไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ปลอดภัยทุกนาย

ซึ่งก็ต้องบอกว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์ตามแนวชายแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา มีเหตุกระทบกระทั่งกันมาเป็นระยะๆ และบางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นใช้กำลังอาวุธ โดยหากมองย้อนหลังไปในช่วง 20 ปีล่าสุด มีดังนี้


- วันที่ 15 ก.ค. 2551 : มีคนไทย 3 คน ถูกจับเพราะพยายามปีนรั้วเข้าไปในเขตปราสาทพระวิหาร ก่อนจะถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา ซึ่งก่อนหน้านั้นสถานการณ์เริ่มคุกรุ่นมาบ้างแล้ว เนื่องจากในวันที่ 8 ก.ค. 2551 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) รับรองปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกตามคำร้องขอของกัมพูชา ทำให้โบราณสถานแห่งนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังศาลโลกได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชาไปตั้งแต่ปี 2505

- วันที่ 3 ต.ค. 2551 : มีรายงานว่า ในเวลา 15.45 น. ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชา บริเวณระหว่างภูมะเขือและช่องอานม้า ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ ตรงข้ามกับบ้านโกมุย จ.พระวิหาร ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นมีรายงานทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนทหารกัมพูชา สื่อหลายสำนักรายงานไม่ตรงกัน บาดเจ็บ 1 นายบ้าง 3 นายบ้าง หลังปะทะกันประมาณ 20 นาที ทหารกัมพูชาได้ล่าถอยไป โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างอ้างว่า เหตุที่ต้องใช้อาวุธเนื่องจากอีกฝ่ายรุกล้ำเขตแดน

- วันที่ 15 ต.ค. 2551 : เวลาประมาณ 14.30 น. ทหารกัมพูชาโจมตีทหารไทยด้วยอาวุธปืนและเครื่องยิงจรวด ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทหารฝ่ายไทยยืนยันว่าขณะเกิดเหตุได้ลาดตระเวนอยู่ในเขตแดนของไทย บริเวณใกล้ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีรายงานทหารไทยบาดเจ็บ 5 นาย และในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้เรียกอุปทุตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าพบเพื่อประท้วงการกระทำดังกล่าว

- วันที่ 3 เม.ย. 2552 : ทหารไทยและกัมพูชาปะทะกันบริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ครั้งนี้มีทหารทั้ง 2 ฝ่าย เสียชีวิตฝ่ายละ 2 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

 

ปราสาทพระวิหาร หรือ Temple of Preah Vihear (UNESCO , Ko Hon Chiu Vincent)

ที่มา : https://whc.unesco.org/en/news/2162

- วันที่ 24 ม.ค. 2553 : ทหารไทยและกัมพูชาปะทะกันบริเวณหนองใหญ่  หัวเขื่อนห้วยขนุน ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในตอนแรกมีรายงานทหารกัมพูชาเสียชีวิต แต่ต่อมามีข้อมูลเพิ่มเติมว่าไม่มีกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายเสียชีวิต โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยรุกล้ำอาณาเขตของกัมพูชา แต่ฝ่ายไทยโต้แย้งโดยยืนยันว่าบริเวณดังกล่าวเป็นดินแดนของไทย และหน่วยทหารไปพบขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงที่ข้ามแดนเข้ามาตัดไม้ในฝั่งไทย

- วันที่ 4 – 7 ก.พ. 2554 : เป็นการปะทะครั้งรุนแรงระหว่างทหารไทยและกัมพูชา เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2554 ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 – 17.00 น. ทหารกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ไร้แรงสะท้อนโจมตีฐานทหารไทยบริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  ใช้อาวุธปืนยิงถล่มบริเวณปราสาทพระวิหารและบริเวณใกล้เคียงฐานทหารไทย ใกล้ผามออีแดง รวมถึงมีกระสุนปืนใหญ่จากฝ่ายกัมพูชา ยิงไปตกในหมู่บ้านภูมิซรอล จ.ศรีสะเกษ เบื้องต้นฝ่ายไทยมีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และมีทหารบาดเจ็บ 5 นาย

ล่วงเข้าสู่วันที่ 5 ก.พ. 2554 เวลาประมาณ 01.30 น. ฝ่ายกัมพูชาสั่งระดมรถถัง 30 คัน เข้าใกล้พื้นที่ภูมะเขือ จากนั้นในเวลาประมาณ 07.40 น. เกิดการปะทะกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ครั้งนี้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย จนเวลาประมาณ 09.00 น. เสียงปืนได้สงบลง ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านภูมิซรอล ต้องอพยพออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย หลังจากนั้นเหตุการณ์ทำท่าจะคลี่คลายลง แต่ทหารของทั้ง 2 ฝ่าย เกิดปะทะกันอีกในวันที่ 7 ก.พ. 2554 ครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายระดมยิงปืนใหญ่ใส่กัน ก่อนเหตุการณ์จะสงบลง

- 22 เม.ย. – 3 พ.ค. 2554 : ผ่านไปเพียง 2 เดือนเศษ การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างไทยกับกัมพูชากลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยมีรายงานการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมืองธม - ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และบริเวณ อ.บ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีการใช้อาวุธทั้งปืนเล็กยาว ปืน ค.60 และปืนใหญ่ โดยข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ค. 2554 มีรายงานผู้เสียชีวิต 17 ราย แบ่งเป็นทหารกัมพูชา 9 นาย ทหารไทย 7 นาย และพลเรือนไทย 1 ราย ก่อนที่วันที่ 3 พ.ค. 2554 จะมีรายงานทหารไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย

สถานการณ์การกระทบกระทั่งกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย เงียบหายไปภายหลังวันที่ 11 พ.ย. 2556 ที่ศาลโลกได้วินิจฉัยตีความขอบเขตของปราสาทพระวิหาร ตามคำตัดสินเดิมเมื่อปี 2505 ให้ชัดเจน กระทั่งล่วงเข้าสู่ปี 2568 จึงเริ่มมีบรรยากาศความขัดแย้งคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

- 18 ก.พ. 2568 : ฝ่ายไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.กองกำลังสุรนารี ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของฝ่ายกัมพูชา ประท้วงกรณีทหารกัมพูชานำพลเรือนชาวกัมพูชาเข้ามาทำกิจกรรมร้องเพลงชาติในบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 และยังระบุด้วยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเคยพบการกระทำแบบเดียวกันมาแล้วเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2567

- 1 มี.ค. 2568 : เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาตรีมุข ที่บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยศาลาดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่าง 3 ประเทศ คือไทย กัมพูชาและลาว ในเบื้องต้นมีการลือกันไปว่าเกี่ยวข้องกับเหตุกระทบกระทั่งตามแนวชายแดนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 มี.ค. 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ทางฝ่ายกัมพูชารายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนของกัมพูชา และเกิดการลุกลามไปยังศาลาตรีมุข  ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ทางฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ดูแล

ภาพ "สนามเพลาะ" ที่ทหารกัมพูชาขุดบริเวณ “เนิน 745 ช่องบก” ในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ก่อนที่ฝ่ายไทย โดยกองกำลังสุรนารี ได้เข้าไปพูดคุยจนฝ่ายกัมพูชายอมเลิกการกระทำดังกล่าวและถอนกำลังออกไป

ที่มา : https://www.naewna.com/local/884957

- 18 พ.ค. 2568 : พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏภาพและรายงานข่าว ทหารกัมพูชา รุกล้ำพื้นที่ “เนิน 745 ช่องบก” ในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยพบการสร้างฐานที่มั่น ขุดคูเลต สนามเพลาะ เตรียมตั้งฐาน พร้อมเสริมกำลังติดอาวุธครบมือเกือบร้อยนาย ว่าได้รับรายงานเรื่องนี้จากทางกองกำลังสุรนารีแล้ว ซึ่งทางกองกำลังสุรนารีได้เข้าไปพูดคุยกับทหารกัมพูชา จนกระทั่งมีข้อสรุปได้ยกเลิกการขุดคูดังกล่าว และตกลงถอนกำลังออกจากพื้นที่ทับซ้อนทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะนัดมาพบกันตามห้วงเวลาโดยไม่มีอาวุธ รวมถึงได้พูดคุยเรื่องของการลาดตระเวนร่วมกัน

- 28 พ.ค. 2568 : ช่วงเวลา 05.45 – 05.55 น. เหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ไม่มีรายงานกำลังพลของทั้ง 2 ฝ่าย บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุปะทะครั้งล่าสุด นสพ.The Phnom Penh Post ของกัมพูชา รายงานโดยอ้างคำกล่าวของ พล.ต.Mao Phalla โฆษกกองทัพบกกัมพูชา ว่า การปะทะที่เกิดขึ้นสั้นๆ นี้ ฝ่ายไทยเปิดฉากยิงก่อน แต่ตนยังคงรวบรวมข้อมูลและจะหารือกับผู้บังคับบัญชาก่อนที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่รายงานของฝ่ายไทย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา

ซึ่งเมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชาได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่ พล.ต.ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ

โดยปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

จิตวิญญาณอาเซียน! ‘เวียดนาม’เชื่อมั่น‘ไทย-กัมพูชา’แก้ปัญหาขัดแย้งได้ด้วยการเจรจา

‘พนิดา’ลากไส้เบี้ยเลี้ยงตำรวจ จัดสรรเท่ากันทุกปี ทั้งปีนี้จำนวนตร.ลดลงเกือบ 5 พันนาย

เดือดมาก!!! ‘สุริยะ’ ซัด ‘วิโรจน์’ ไร้กาลเทศะ ลากเวทีถก ‘งบฯ69’ มา ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’

ตะวันตกส่งสัญญาณฟื้นสัมพันธ์‘ซีเรีย’ สหภาพยุโรปเลิกคว่ำบาตร-ทูตสหรัฐฯเยือนเมืองหลวง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved