เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก "ปราชญ์ สามสี" โพสต์ข้อความระบุว่า อย่าเพิ่งวางใจว่า “ช่องบก” จะคลี่คลาย — เพราะเกมยังไม่จบ
ช่วงนี้หลายคนอาจเริ่มหายใจโล่งขึ้นมาบ้าง หลังได้ยินข่าวว่า กองทัพกัมพูชาถอนกำลังออกจากแนวชายแดนช่องบก รื้อถอนคูเพลาะ และถอยกลับไปยังจุดที่เคยประจำอยู่เดิม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าสถานการณ์เริ่มสงบลง
และเราก็ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงท่านแม่ทัพภาคที่ 2 ที่สามารถทำให้ความตึงเครียดระหว่างไทย–กัมพูชาลดระดับลงอย่างมีนัยสำคัญ
แต่… อย่าเพิ่งรีบสรุปว่า “สถานการณ์คลี่คลายแล้ว”
เพราะถ้าเราดูให้ลึกกว่านั้น จะเห็นได้ชัดว่า กัมพูชายังไม่หยุดเดินเกม
โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปที่เวทีศาลโลก เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของปราสาทและพื้นที่พิพาทอีก 4 จุด
---
แถลงการณ์ฮุน เซน: ถอย... แต่ไม่ถอดใจ
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน ได้ออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหา 2 ส่วนสำคัญ:
1. การถอยกำลังออกจาก “มุมเบย” นั้น เป็นไปเพื่อ ลดความตึงเครียดและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ไม่ใช่เพราะยอมรับว่าตัวเองผิด
2. กัมพูชายังยืนยันจะส่งปัญหาเขตแดนไปให้ ศาลโลก (ICJ) ตัดสินเช่นเดิม และย้ำว่า พื้นที่ช่องบก, มุมเบย รวมถึงปราสาทตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ล้วนอยู่ในเขตกัมพูชา
แถม พล.อ. เตีย เซยฮา รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ยังออกมาชื่นชมนโยบาย “ชนะ ชนะ” ของอดีตนายกฯ ฮุน เซน ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาติบ้านเมืองมีสันติภาพและเอกราชอย่างแท้จริง
พูดง่าย ๆ คือ... ถอย แต่ยังจะสื่อสารให้ประชาชนในประเทศรู้สึกว่า “พวกเขาชนะ”
---
เกมการเมืองระหว่างประเทศเริ่มขึ้นแล้ว
มาดูกำหนดการที่เราต้องจับตา:
8–11 มิ.ย. 68: นายกฯ ฮุน มาเนต เดินทางไปประชุมว่าด้วยมหาสมุทร (UNOC3) ที่ฝรั่งเศส ซึ่งบางฝ่ายก็มองว่า อาจเป็น “การปูทาง” สำหรับเรื่องฟ้องศาลโลก
14 มิ.ย. 68: มีกำหนดการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะใช้เวทีนี้เรียกร้องให้ไทยเปิดพรมแดน
15 มิ.ย. 68: ครบรอบ 63 ปีที่ศาลโลกตัดสินให้ ตัวปราสาทพระวิหาร ตกเป็นของกัมพูชา — ตรงนี้ต้องระวังว่าเขาอาจจะใช้จังหวะนี้ “ประกาศชัยชนะล่วงหน้า” เพื่อเร่งเกมฟ้องศาลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
---
แล้วฝ่ายไทยควรทำอย่างไร?
แม้ตอนนี้จะดูเหมือนสถานการณ์ผ่อนคลายลงแล้ว แต่ต้องย้ำว่า…
> เกมนี้ยังไม่จบ ฝ่ายกัมพูชาอาจจะเล่น “เกมประชาสัมพันธ์” ได้เหนือกว่าเรา
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาประกาศว่า “ไทยเป็นฝ่ายปิดพรมแดนก่อน”
หากเราเผลอเปิดด่านหรือถอนกำลังโดยไม่ระวัง อาจกลายเป็นการยอมรับโดยปริยาย และเสียเปรียบในการเจรจารอบหน้า
---
ที่สำคัญ... “เขาเคยล้ำเข้ามาก่อน”
ประเด็นที่ไม่ควรลืมเลยก็คือ...
> การที่กัมพูชารื้อคูเพลาะและสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ของไทย
เท่ากับเป็นการยอมรับโดยพฤตินัยว่า เขาเคยบุกเข้ามาในแดนไทย
ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในวันที่ 28 พฤษภาคม
เพราะถ้าไม่ได้ล้ำแดนมา จะมีอะไรต้องรื้อ?
---
สรุปส่งท้าย
แม้สถานการณ์ที่ช่องบกจะดูดีขึ้นในสายตาคนทั่วไป
แต่สำหรับผู้ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ย่อมรู้ดีว่า...
> “นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเปลี่ยนของเกมการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ”
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือ “อย่าหลงดีใจเร็วเกินไป”
และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับศึกในเวทีโลกที่กำลังจะเริ่มขึ้น
---
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี