11 มิถุนายน 2568 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใชฟเฟสบุ๊กชื่อ “Sasikan Seesukhu” โพสต์รูปภาพและระบุข้อความเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.68 ว่า รอดมาเบิ้ดตั้งแต่สงคราม กระดูกซีกโครงหัก รถล้ม ตาเกือบบอด กะรอดมาเบิ้ดไสว่าอ้ายเก่งกะด้อบ่ตายหนีจากง่ายดอก ไสว่าจะกลับมาหาไสว่าจะกลับมายุนำไสว่าจะลงทุนไห้ขายของอยุ่บ้านถ้า ไสว่าคิดฮอดลูกชาย แล้วหนึ่งกับบักหล่าจะอยุ่จั่งใด เป็นหยังคือถิ่มกันไปง่ายคักแท้อาม บ่อยากไห้กลับมาหาแบบนี้ โอ้ยน้ออาร์มเอ๋ยใจสิขาดแล้ว สั่นไปหมด
ซึ่งโพสต์นี้ผู้โพสต์เป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตจะสื่อสารถึงความคิดถึงเสียใจ บอกว่าสามีชาวอุดรธานีที่ทำงานที่ประเทศอิสราเอล เสียชีวิตโดยการผูกคอตาย ซึ่งไปขายแรงงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังมีการแชร์คลิปต่างของเพื่อนสามีเพื่อไว้อาลัย
ขณะที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “หัวใจ ส่อหล่อ” เพื่อนร่วมงาน ได้โพสต์รูปภาพพิธีส่งวิญญาณอาร์ม โดยในภาพมีเพื่อนร่วมงานนิมนต์พระสงฆ์วัดไทยที่อิสราเอล 1 รูป มาประกอบพิธีตามความเชื่อ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอธิน สีเหลือง หรืออาร์ม อายุ 27 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ขณะที่เฟสบุ๊กชื่อ “บ่าวต้น โคราชพาลุย” ได้โพสต์คลิปวีดีโอสุดท้ายที่อาร์มทำอาหารกินกันกับเพื่อนๆ ก่อนจะมีเหตุผูกคอตายใต้ต้นไม้ในแคมป์คนงานที่ประเทศอิสราเอล
ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดและเจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัดร่วมกันลงพื้นที่ โดยเดินทางไปยังภูลำเนาของผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 12 บ้านทุ่งสว่าง ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและหาทางช่วยเหลือเยียวยาเรื่องสิทธิประโยชน์ตามระเบียบทางราชการ
โดยพบกับนางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าของนายอาร์ม ญาติๆรวมทั้งภรรยาและพ่อตายังมีอาการโศกเศร้าเสียใจอยู่ภายในบ้าน ซึ่งจากข้อมูลทางราชการ พบว่า นายอธิน สีเหลือง อายุ 27 ปี ชาวอ.หนองหาน จ.อุดรธานี เดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล ในตำแหน่งคนงานเกษตร สัญญาจ้าง 2 ปี กับนายจ้าง GENESIS PRIEMIUM ที่อยู่ SDAI TRUMUT NORTHERN (HAZAFON) SDEI TRUMOT STATE OF ISRAEL STATE OF ISRAEL เดินทางเมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 หรือเมื่อ 2 ปี ที่แล้วถือบัตรสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เลขที่ E10/00187/10052566 สถานะอยู่ในความคุ้มครอง โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฯได้เดินทางมาให้กำลังญาติๆ พร้อมแจ้งสิทธิในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาตามสิทธิที่ควรจะได้
นางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าอาร์ม เปิดเผยว่า เป็นยายของอาร์ม ตั้งแต่พ่อแม่เขาแยกทางกัน ก็เลี้ยงดูอาร์มมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ พ่อเขาเป็นลูกชาย ส่วนแม่เป็นคนลาวหนีเข้าไปตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้พ่อนั้นทำงานที่ระยอง จนหลานเรียกทั้งย่าและแม่ ตอนอาร์มทำงานที่ไทยอาร์เขาเป็นคนขยัน และเขาก็ไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 2 ปีกว่า ทำงานเกี่ยวกับเกษตร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนจะไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล หลานได้บอกอะไรย่าบ้างไหม นางสุวรรณีก็บอกว่า ก่อนไปหลานก็บอกว่า เดี๋ยวผมจะกลับมา ย่าอย่าตายก่อนผมนะ พอคำพูดตรงนี้ ผู้เป็นย่าสะอื้นไห้ร้องไห้แทบขาดใจ ต้องเอามือปาดน้ำตา ทำไมหลานมาตายก่อนย่า ไหนบอกว่าจะกลับมาย่าอย่าตายก่อนผมนะ แต่สุดท้ายหลานก็มาตายก่อน
นางสุวรรณี บอกอีกว่า หลานชายไปทำงานที่อิสราเอล เขาไม่เคยขาดการติดต่อเลยจะโทรศัพท์มาหาอยู่ประจำ และส่งเงินกลับมาให้ย่าดูแลครอบครัวใช้หนี้ใช้สินที่ตัวเองกู้ยืมไปทำงาน บอกว่าจะซ่อมบ้านตรงนี้ตรงนั้นให้ตลอด ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลานชายก็โทรศัพท์กลับมาหาบอกว่าปีหน้าจะกลับมาแล้วนะย่า มาพักผ่อน และวันที่ 5 มิ.ย. จะส่งเงินมาให้ยายซื้อรถจักรยานปั่นไปวัด แต่ก็ช็อคเมื่อรู้ว่าหลานชายผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว การเสียชีวิตของอาร์มตนรู้แล้วว่าหลานผูกคอตาย ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อว่าหลานจะคิดสั้นเพราะว่าตนเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต หลานไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยที่จะต้องน้อยใจคิดสั้นแบบนั้น
ปัญหาทางบ้านทางครอบครัวก็ไม่มีไม่เคยกดดัน ส่วนสาเหตุที่หลานผูกคอตายนั้นตนก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ตอนนี้ศพของหลานตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากอะไร ทั้งนี้หากศพหลานกลับมาบ้าน ตนจะเอาบอนทาปากเพราะตามความเชื่อคนอีสาน หากเอาใบบอนทาปากศพ ดวงวิญญาณมาบอกทุกอย่างและหากมีคนกระทำให้เขาตายเขาก็จะสารภาพเอง
น.ส.ศศิกานต์ ศรีสุขา อายุ 22 ปี หรือหนึ่ง ภรรยานายอาร์ม บอกว่า ตนกับอาร์มเป็นผัวเมียกันแต่ไม่จดทะเบียนสมรสมาแล้ว 13 ปี มีลูกผู้ชาย 1 คน อายุ 5 ขวบ ก่อนอาร์มไปทำงานอิสราเอลเขาก็ทำงานรับจ้างทั่วไปที่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเขาอยากเห็นครอบครัวมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จึงเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล และอยากให้ครอบครัวของเราเป็นเหมือนครอบครัวของคนอื่น เพราะอาร์มโตมาเป็นจากครอบครัวเด็กกำพร้า อาร์มอยากให้ลูกมีทุกอย่างที่ตัวเองเคยไม่มี อาร์มเป็นอารมณ์ดีร่าเริงยิ่งอยู่กับเพื่อนยิ่งสนุกสนาน
ก่อนที่จะรู้ข่าวว่าสามีผูกคอตายนั้น 1 วัน ก่อนหน้าเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ตนโทรไปหาบอกว่าทำไมวันนี้ไม่เห็นโทรมา ปกติจะเห็นโทรมาตอนเที่ยง แต่อาร์มก็ตอบกลับมาว่าวันนี้เหนื่อยนอนหลับจึงไม่ได้โทรกลับ หลังจากพูดคุยกันเสร็จก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยกันอีกโทรไปก็ไม่รับ โทรไปถามเพื่อนร่วมงานให้ช่วยบอกอาร์มช่วยรับโทรศัพท์ด้วย แต่เพื่อนร่วมงานก็บอกว่าออกมาทำงาน อาร์มนอนหลับอยู่ที่ห้อง จนเวลา 22.00 น. โทรไปใหม่ เพื่อนเขาก็บอกว่าอาร์มยังไม่เลิกงาน ต่อมา 23.00 น. เพื่อนร่วมงานก็โทรกลับมาบอกว่า อาร์มเสียชีวิตแล้วตอนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก
ตนกับอาร์มไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเรื่องทะเลาะรุนแรงเลยเราแค่ทะเลาะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ข่าวลือที่บอกว่าตนเป็นทะเลาะกับอาร์มและทำให้อาร์มคิดสั้นยืนยันได้ไม่จริง ส่วนตัวก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมอาร์มถึงคิดสั้นแบบนั้น “อนาคตเราสองคนวางแผนไว้ว่าปีหน้าเราจะมีพิธีแต่งงานกัน แต่งงานเสร็จก็จะกลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกสัก 2 ปี เก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างครอบครัวแบบมีความสุขด้วยกัน” หากดวงวิญญาณของสามีรับรู้อยากจะบอกว่ามีอะไรในใจทำไมไม่พูดไม่บอกให้ฟัง
ทางด้านนายสุริยา ศรีสุขา อายุ 55 ปี พ่อตา เล่าว่า ตอนรู้ข่าวกำลังนอนหลับได้ยินเสียงมีคนมาเรียกที่หู เสียงคุ้นๆคล้ายกับเสียงอาร์มร้องเรียกบอกว่าพ่อ พ่อ ตนก็สะดุ้งตื่น ไม่นานลูกสาวเขาก็วิ่งมาบอกว่าอาร์มผูกคอตายแล้ว ส่วนตัวพ่อคิดว่าสาเหตุอาจจะมีความขัดแย้งในที่ทำงาน และตนไม่คิดว่าลูกเขยจะคิดสั้นเองแบบนี้ ไม่เชื่อว่าลูกเขยจะผูกคอตายเอง ไม่มีเหตุจูงใจอะไรจากทางบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่อาร์มผูกคอเสียชีวิตนั้นเนื่องจากทะเลาะกับภรรยาแล้วน้อยใจจึงใช้เชือกผูกคอ พ่อคิดว่าอย่างไร
นายสุริยา บอกว่า ตนในฐานะพ่อไม่เชื่อแน่นอนเพราะว่าลูกสาวคนนี้อยู่กับตนตลอด สำหรับลูกเขยตคนนี้วาดฝันอนาคตไว้ว่าหากกลับมาจากต่างประเทศก็จะเปิดร้านขายของชำออกรถสักคัน ล่าสุดลูกเขยก็เพิ่งถูกหวยไทยได้รางวัล 2 หมื่นบาท หากได้เงิน 2 หมื่นบาทแล้วลูกเขยมาเสียชีวิต ขอไม่ถูกหวยดีกว่า พ่อตายกล่าวตอนท้ายด้วยความเศร้าใจ
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี