ภก.คณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงบริการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่เป็นสิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ว่า การเข้ารับบริการเพื่อตรวจคัดกรอง และตรวจยืนยันเพื่อวินิจฉัยมะเร็ง ของประชาชน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะจะทำให้มีการประเมินสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงการตรวจคัดกรองยังเพิ่มโอกาสในการพบโรคมะเร็งตั้งแต่ในระยะแรกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
ทั้งนี้ ปัจจุบันระบบหลักประกันสุขภาพฯ ที่บริหารจัดการสิทธิประโยชน์โดย สปสช. มีสิทธิประโยชน์ในการตรวจคัดกรองมะเร็งให้กับประชาชนคนไทยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และครอบคลุมมะเร็ง 5 ชนิด ที่พบบ่อยในคนไทย โดยมี 6 รายการบริการด้วยกัน ประกอบด้วย 1.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 2.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงด้วยวิธี FIT Test 3.บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์
4.บริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก 5.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ และ 6.บริการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับ ด้วยการตรวจปัสสาวะ ซึ่งในการรับบริการ ประชาชนสามารถไปเข้าบริการตรวจคัดกรองมะเร็งได้ที่ หน่วยบริการที่ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ หน่วยบริการของรัฐที่มีศักยภาพในการรักษามะเร็ง
รวมถึงหน่วยบริการอื่นๆ ที่มีเครื่องมือ อุปกรณ์ในการตรวจวินิจฉัยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามที่มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งทำให้ได้ผลการตรวจที่รวดเร็ว และช่วยให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงได้รับการตรวจยืนยันเพิ่มเติม เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสิทธิประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัย คัดกรองมะเร็งยังไม่ครอบคลุมมะเร็งทุกชนิด เนื่องจากมะเร็งบางชนิดยังไม่มีอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพที่จะเห็นร่องรอยของโรคได้ในระยะแรก อย่างเช่น มะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น
ซึ่งการตรวจคัดกรองจะต้องรอให้มีอาการเจ็บป่วยแสดงมาก่อน ถึงจะวินิจฉัยและตรวจพบได้ แต่ผู้ป่วยหลายรายที่ปรากฏอาการแล้วระยะของโรคมะเร็งจะอยู่ในภาวะลุกลามและยากต่อการรักษา อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตมีวิธีในการคัดกรองมะเร็งต่างๆ เพิ่มขึ้น สปสช. ก็จะมีกระบวนการพัฒนาขับเคลื่อนเพื่อให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพฯ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งในชนิดต่างๆ ได้มากขึ้นต่อไป
“ส่วนประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่ได้รับบริการคัดกรองและตรวจยืนยันว่าเป็นโรคมะเร็งแล้วนั้น ระบบจะมีการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐที่มีศักยภาพ ตามขอบเขตและหลักเกณฑ์การรักษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน ซึ่งครอบคลุมทั้งการผ่าตัดรักษา การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา จนจบขั้นตอนการรักษามะเร็ง” ภก.คณิตศักดิ์ กล่าว
ภก.คณิตศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในการเข้ารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็ง มี 4 รายการ ได้แก่ 1.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 2.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงด้วยวิธี FIT Test 3.บริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก และ 4.บริการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับด้วยการตรวจปัสสาวะ ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสิทธิรับบริการได้ผ่าน “แอปพลิเคชันเป๋าตัง” โดยเลือกเมนู “กระเป๋าสุขภาพ” เช่นเดียวกับบริการสร้างเสริมป้องกันรายการอื่นๆ
ซึ่งระบบจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการเข้ารับการตรวจคัดกรอง พร้อมกับแนะนำวิธีเข้ารับบริการทุกขั้นตอน ส่วนบริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงฯ สามารถเข้ารับบริการได้โดยทำแบบประเมินคัดกรองสุขภาพเพื่อประเมินความเสี่ยงและการรับสิทธิในการตรวจคัดกรองค้นหาการกลายพันธุ์ ของยีนโรคมะเร็งเต้านม (BRCA1/BRCA2) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หากพบความเสี่ยงจะแนะนำเข้ารับบริการที่หน่วยบริการในระบบต่อไป เช่นเดียวกันบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ ผู้หญิงไทยทุกสิทธิอายุ 40 ปีขึ้นไปและมีประวัติญาติสายตรงที่เป็นมะเร็งเต้านม สามารถเข้ารับบริการได้โดยเป็นไปตามแนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีศักยภาพให้บริการ
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมถึงวิธีหรือขั้นตอนในการเข้ารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็ง และบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอื่นๆ ในระบบบัตรทองผ่านสายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ของ สปสช.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี