วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Praeyada Prae ได้โพสต์ข้อความระบุว่า สวัสดีค่ะทุกคนเราแพรนะคะ เรามีเรื่องอยากจะฝากทุกคนไว้เป็นอุทาหรณ์หน่อยค่ะ และช่วยกันจับคนที่ทำแมวเราเข้าคุกหน่อยนะคะ

เริ่มเรื่องเลยคือ คืนวันที่ 27 มิ.ย. 68 เราและเพื่อนนัดกันสังสรรค์ที่บ้านเช่าเราที่ จ.ระยอง อ.นิคมพัฒนา เราเลิกกินกันประมาณเวลา 00.00-01.00 เพื่อนนอนที่บ้านเรา 2 คน ในตอนนั้นหลังกินเลี้ยงกันเสร็จ (ก่อนเราเข้านอนเราล็อกบ้านเรียบร้อยและเช็กแมวหมดแล้วว่าอยู่กันครบถึงเข้านอน)

เช้าวันที่ 28 มิ.ย. 68 เวลา 06.30 น. เพื่อนตื่นและกลับบ้านโดยที่ไม่ได้เคาะเรียก แต่เป็นการตะโกนบอกแทน โดยเราไม่รู้และไม่ตื่น เพื่อนปิดประตูกระจกบานเลื่อนไว้แต่ไม่ได้ล็อก แมวเราที่ชื่อไลอ้อนเป็นแมวโต น้องแงะประตูออกบ้านได้ ได้ทำการแงะประตูจนแมวทั้งบ้านตามออกไปกันหมด

เวลา 07.30 น. เราตื่นแล้วเปิดหน้าต่างดูคือเห็นว่าเพื่อนไปแล้ว เราเลยตกใจและรีบออกมาดูแมว สรุปคือแมวเราออกไปหมดแล้ว เรารีบออกไปห้องไปตามเพื่อนมาช่วยหา ก็หาเจอแค่ 2 ตัวคือ ไลอ้อนและอัลมอนด์ ซึ่งเป็นแมวโตทั้งคู่ แต่เต้าหู้แมว 5 เดือน เราหายังไงก็หาไม่เจอช่วยกันหาน้องทั้งวัน เราเดินหาน้องทั้งวันทำทุกวิถีทาง จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางให้พาเต้าหู้มาส่ง เผื่อน้องจะไปหลบอยู่ตรงไหนกลับบ้านไม่ถูก

วันที่ 29 มิ.ย. เรากับเพื่อนลองเดินไปถามลุงยามดูเผื่อเขาอาจจะขับตรวจแล้วเจอแมวเราบ้าง แต่สิ่งที่ได้ฟังจากลุงทำเราช็อกไปเลย ลุงบอกว่า แมวเรามันตายตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. ตอนเช้าแล้ว โดนหมารุมกัดหลายตัว ลุงไปเห็นเลยเก็บเอาไปวางไว้กำแพงหน้าหมู่บ้าน (แมวเรามีปลอกมีเบอร์โทรเราชัดเจน) แต่ลุงไม่ได้มีการโทรหาเราหรือแจ้งนิติหมู่บ้าน ลุงพูดกับเราว่าก็หยิบมาไม่ได้ดูปลอกคอเอาไปวางไว้กำแพงเผื่อจะเป็นแมว 9 ชีวิต แล้วจะฟื้น ลุงบอกว่ามีคนเขมรที่เป็นคนเก็บขวดเอาไป หยิบน้องไปเลยจากกำแพง ในใจเราก็คิดนะเขาหวังดีเอาน้องไปฝังรึเปล่า เลยได้ทำการไปหาลุงคนเก็บขวดคนนั้นที่บ้าน

พอไปถึงเพื่อนเราก็ถามลุงดีๆ ว่าใช่คนที่เอาร่างเต้าหู้ไปมั้ย ลุงบอกว่าใช่ แต่โยนเข้าป่าไปแล้ว เราจึงถามย้ำๆ ว่าโยนน้องไปตรงไหนๆ สักพักพอเราบอกอยากได้ร่างน้องไปทำบุญ ลุงก็พูดว่าจะเอาไปทำบุญใช่มั้ย (พูดซ้ำๆ วนไปวนมาอยู่แบบนั้น) แล้วแกก็เดินเข้าบ้านหายไป พักนึง ใจเราคือคิดว่าคงไปขุดขึ้นมาให้รึเปล่า เราเตรียมใจต้องเห็นน้องในสภาพนอนแน่นิ่งแล้ว

แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ ลุงออกมาในใบหน้าที่ยิ้มและพูดคำว่า "สุกแล้ว" ในมือถือตะแกรงพัดลมแล้วมีเชือกห้อยเหมือนตะแกรงไว้ย่างของที่จะกิน เต้าหู้แมวเราโดนสับเป็นชิ้นๆ มีปลอกคอสีส้มมีป้ายชื่อที่ยืนยันได้เลยว่านี่ลูกเรา เราช็อกทำอะไรไม่ถูกมันทั้งอึ้งทั้งช็อตทั้งสงสาร ลูกเราตายแล้วยังจะเอาน้องมากิน จิตใจคุณทำด้วยอะไร และแมวเราเป็นแมวมีเจ้าของมีปลอกคอมีเบอร์โทร คุณไม่มีสิทธิ์มาหยิบลูกเราไปแบบนี้

และลุงเขาพูดอีกว่า "ถ้าจะเอาไปทำบุญเอาไปเลยแต่ขอ 200" นี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว จิตใจเหี้ยมมาก แมว 5 เดือน ตัวนิดเดียว ยังทำมันลง กินได้แม้กระทั่งแมวตัวเล็กๆ เราไม่รู้จะต้องทำยังไงหรือทำอะไรต่อเลย

เพื่อนเลยหยิบแค่ปลอกคอน้องมาแล้วบอกว่าหนูขอแค่ปลอกคอที่เหลือลุงกินไปเถอะค่ะ เราและเพื่อนไม่มีใครโอเคกับเหตุการณ์ตรงนั้นมันโหดร้ายมันหดหู่ สงสารน้องมาก ให้เขาตายดีๆ ให้เราพาเขาไปฝังไม่ได้หรอ มาทำกับลูกเราแบบนี้ได้ยังไง

ตอนนี้เราได้ทำการแจ้งความเรื่องที่เอาแมวมีเจ้าของไปกินแล้วค่ะ แต่ตำรวจเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรเขามองเป็นเรื่องเล็กๆ (นี่คือความคิดของหนูและเพื่อนๆ นะคะ+กับประสบการณ์ที่เคยเห็นเคยพบมา)

อีกเรื่องคือ ลุงคนนี้เป็นคนเขมรที่เคยมาทำงานก่อสร้างหมู่บ้าน แต่ลูกไม่เอากลับไปด้วย เพราะแกติดเหล้า ไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตรไม่มีอะไรเลย (เรื่องนี้ก็ได้แจ้งทางตำรวจไปแล้ว แต่ตำรวจดูไม่ได้ดูรีบร้อนหรือจะมาจับเลย เขาบอกเดี๋ยวเอาสายตรวจมาดูให้วันนี้ (ตอนนี้ทางตำรวจบอกจะส่งสายตรวจมาจับไปนะคะ อัปเดตล่าสุดนะคะ)

ปล. ขอแก้ข่าวเรื่องลุง รปภ.นะคะ มีคนจีนในหมู่บ้านเห็นแมวโดนรุมกัด จึงเดินไปแจ้ง รปภ.หน้าป้อม ลุงพึ่งเข้าเวรและกำลังทำเอกสารอยู่ รปภ.ไปช่วยน้องออกมาจากหมา และเสี่ยงถูกหมากัดด้วย แต่ตอนนั้นคือน้องตัวแข็งไปแล้ว เลยเอาไปวางไว้กำแพงหน้าหมู่บ้าน เขาจะเอาไปฝังให้กำลังจะหาที่หาทาง แต่คนเขมรก็มาเอาน้องไปเลย ลุงก็บอกว่าไม่คิดว่ามันจะหยิบไป ต้องขอโทษลุงด้วยนะคะที่หนูเข้าใจลุงผิดไปว่าลุง หนูผิดเองค่ะเรื่องนี้ที่ไม่ดูแลแมวให้ดี และไม่คุยกับเพื่อนตัวเองให้ชัดเจน ไม่ใช่ความผิด รปภ.หมู่บ้าน ขอโทษด้วยค่ะ

หนูอยากฝากพี่ๆ น้องๆ ทุกคนช่วยแชร์หน่อยนะคะ ให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ เป็นข้อเตือนใจ อย่าให้เกิดเหตุการณ์อะไรแบบเราขึ้นเลยนะคะ มันสะเทือนใจมันหดหู่มากจริงๆ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ที่เสียสละเวลามาอ่านเรื่องของเต้าหู้ แมวพันธุ์ไทย-เปอร์เซียอายุ 5 เดือน เพศผู้

อัพเดทนะคะ

ล่าสุดวันนี้ 2 ก.ค 68 มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ดำเนินการประสานคดี ให้เรียบร้อยแล้ว